เมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวคุนหมิงประเทศจีน ที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกอีไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ไม่น่าเชื่อว่าการจัดการตึกรามบ้านช่อง และป้ายประกาศโฆษณาเขาดูค่อนข้างเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่รกหูรกตาเหมือนเมืองไทย แต่ที่ยังปวดหัวก็คือ การจราจร ที่มี 2 แยก คือ 1. แยกลังเล(คือไม่รู้ว่าใครจะไปก่อนใคร) กับ 2.แยกวัดใจ(แบบใจกล้าหน้าด้านได้ไปก่อน) งานนี้ทำเอาผู้โดยสารอย่างเราลุ้นตลอด แปลกดีธรรมชาติที่นี่ในการขัยรถยนต์เขาจอดแบบเชื่อมั่นในเบรคมากคือจึ้ติดคันหน้าและรถยนต์สาวนมากฏ่เป็นพวกรถฯกะป๊อหรือคันเล็กๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนี้น เป็นเพราะว่าผิวถนนการจราจรมีทั้ง จักรยาน ม้าลากรถสิ่งของ สามล้อถีบ และรถยนต์ฯลฯ สิ่งนั้นยังต้องปรับปรุงแก้ไขอีกในระบบ Transport ในการแข่งขันกีฬา
แต่ที่แน่ๆในรูปข้างบน "ป่าหิน"(Stone Forest) เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่ควรเป็นตัวอย่างที่ได้รับการยกย่องว่า "การจัดการทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด เพราะเราทุกคนต้องอยู่กับธรรมชาติ"
เหล่ามัคคุทศก์สาวๆหนุ่มๆต่างพูดได้ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน ฯลฯ ทำงานแบบเต็มใจ ด้วยความยิ้มแบ้ม แม้แต่ถังขยะเขายังเอาเศษไม้มาทำแล้ววางไว้ตามจุดต่างๆได้อย่างลงตัว ความสะอาดเป็นหัวใจของสถานที่ท่องเที่ยวมองไปทางไหนสบายตา เพราะว่าทางจีนจัดเจ้าหน้าที่เก็บตามจุดต่างๆสนามหญ้าไม่มีการเดินลัดสนาม เสน่ห์ธรรมชาติของ Stone Forest เป็นไปอย่างลงตัวและสมดุลย์ ใช้เวลาเดินครึ่งวันเต็มๆเหมือนได้ออกกำลังกาย ท่ามกลางธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ แต่ที่ไม่น่าเชื่อเขาบริหารจัดการเรื่องการดูแลความสะอาดดีจริงๆ
ภาพที่เห็นอาจเป็นส่วนหนึ่งจากความรู้สึกที่ดีๆกับสถานที่ท่องเที่ยวของจีนที่จัดการได้อย่างยอดเยี่ยม กลับมามองบ้านเราที่ไปไหนแล้วเห็นแต่ขยะเพราะเราไม่ช่วยกัน แต่ที่คุนหมิงเขากำลังเร่งทำ Stone Forest อีกหลายๆแห่งแม้จะไม่ใช่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ แต่ก็เป็นนวัตกรรมที่สร้างรายได้จากธรรมชาติ น่าอิจฉาเขาไหมล่ะ? บ้านเราเมืองเราทรัพยากรธรรมชาติมากมายแต่การจัดการยังไม่ใชมืออาชีพ