อ่านบันทึกของคุณ Handy 2 บันทึกที่เกี่ยวกับอาการติดบล็อกแล้วเห็นด้วย แถมไปเที่ยวชักชวนโฆษณา ปาวารณาตัวจะช่วยจัดอบรมให้ด้วยอีกต่างหาก รู้ว่าบล็อกของ GotoKnow (ย้ำว่าต้องเป็นของ GotoKNow เท่านั้นนะคะ) มีประโยชน์มหาศาล แต่ต้องทำการบันทึกต่อเนื่องกันในแต่ละชุดความคิดเป็นเวลาสักพักหนึ่ง ถ้าใครที่แค่ผ่านเข้ามาเพียงนิดหน่อย และอ่านไม่พบบันทึกของ"คนคอเดียวกัน" แล้วหลุดวงจรออกไป ก็คงจะไม่ได้รับประโยชน์นั้น
วันนี้ได้อ่านบันทึกขอคิดด้วยคน เรื่อง "การเขียนblog"ที่ตรงใจเป็นอย่างมาก ถึงเหตุผลที่ทำให้ตัวเองเห็นว่าบล็อก GotoKnow มีประโยชน์ คุณบำราศ เขียนได้ครบถ้วนจนต้องขอยืมมาบอกต่อกันอีกที นั่นคือ
อยากขอให้คนที่เข้ามาใหม่ๆ อย่าเพิ่งท้อถอย แม้ยังไม่เจอคนคอเดียวกัน เขียนสิ่งที่อยากเขียน สิ่งที่ตัวเองพบเจอจากการทำงานในแต่ละวัน เขียนไปเรื่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ รับรองว่าได้ประโยชน์ทั้งต่อตัวเอง แล้วยังอาจจะก่อประโยชน์ได้ต่อไปในอนาคตด้วย
เห็นด้วยอย่างยิ่งคะ
บางครั้งบางครา..อาจเป็นการสะท้อน
ให้มองเห็น "ตน" ชัดขึ้น...
"กิจ" ทุกอย่าง...ควรเริ่มที่"จิต"และ "ใจ" ของเรา
เป็นดีที่สุด...อย่างแน่แท้คะ
...ติดบล็อก
นี่ นักกีฬาเซปัคตะกร้อ กับ นักกีฬาวอลเลย์บอล ไม่ชอบนะครับ
ชอบคำว่า เป็นการบูรณาการงานกับการพักผ่อน ครับ
ผมเพิ่งพูดเรื่อง การถูก GotoKnow ดูดเวลาไป เมื่อตอนนำเรื่องนี้ไปแนะนำเพื่อนร่วมงานในภาควิชา ที่นี่ เห็นทีจะต้องเปลี่ยนความคิดแล้วละครับ
สุดท้ายนี้ จะขออนุญาตเชิญ คุณโอ๋๋ ไปพูดที่ภาควิชารังสี พร้อมกับ อ.จันทวรรณ ราวๆเดือนมีนาคม ได้มั๊ยครับ
อ.เต็ม..คะ ด้วยความยินดีอย่างยิ่งเลยค่ะ เราเพื่อนบ้านกันแค่นี้เองค่ะ
คุณหมอ มาโนช คะ เป็นสิ่งที่พยายามทำเหมือนกันค่ะ เพราะรู้ว่าบล็อกของเรามีคนอ่านมากแล้ว จะได้เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์คนเขียนที่เราติดใจคนอื่นๆด้วย เพราะมีคนเขียนดีๆอีกมากมายเลยค่ะใน GotoKnow แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ "เวลา" ค่ะ ตอนนี้หายากมากค่ะ เจียดไปเจียดมา รับบทบาททั้ง"คุณแม่"ที่บ้าน กับ"คุณกิจ" ที่ทำงาน ได้ใช้เวลาก็เฉพาะตอนดึกๆนี่แหละค่ะ ในการอ่านเขียนใน GotoKnow ตอนนี้นอนตี 2 ครึ่งตื่น 6 โมงครึ่ง ยังทำงานเขียนที่ต้องทำไม่ค่อยทันเลยค่ะ
วันนี้คุยกับลูกชายว่า แม่อยากให้ถึงเวลาที่แม่อยู่คนเดียว ไม่ต้องทำงานบ้าน ดูแลลูกๆแบบนี้สักทีจัง ลูกบอก "อีก 5 ปีแม่ แล้วแม่จะนั่งหน้าคอมพ์ตลอดเลยเหรอ" เราเลยขำนะคะ เด็กๆชอบแซวว่า เวลาแม่นั่งหน้าคอมพ์แล้ว แม่ไม่ค่อยยอมลุก ทั้งๆที่เรามีกฎว่าไม่ควรให้เกินครั้งละครึ่งชั่วโมงค่ะ (คุณแม่ขี้โกงมากที่สุด เด็กๆบอก)
พี่โอ๋ขา... มาต่อเติมเรื่องการทำงานอยู่หน้าคอมนะคะ
จูนเอง ก็เปิดคอมไว้ตลอด.. เป็นเพื่อนเวลาอยู่ห้องเหมือนกันค่ะ ยิ่งใช้ ADSL สามารถต่อเนตได้ตลอด ตื่นขึ้นมาก็เปิดคอมออนไลน์ กลับถึงห้องก็เปิดคอมออนไลน์ก่อนทำอย่างอื่น แต่ว่าตัวอาจจะเข้าห้องน้ำ ทำโน่นทำนี่ ไม่ก็เพลียจนหลับ สลบเหมือด จนลืมเปิดคอมทิ้งไว้ (นิสัยไม่ดีเลย -_-')
มีอยู่ช่วงหนึ่ง (ก่อนเข้ามารู้จักเวบ G2K) ต้องทำงาน ติดต่องานหลายอย่างหน้าคอม โดยเฉพาะการทำเวบ อัปเดทเวบ ใช้เวลานานมากจนลืมวันลืมเวลา
พอเชื่อไหม.. พอชัทดาวน์ ปิดคอมเท่านั้นแหล่ะ...
หมาดีใจค่ะ !
ชูจัง..ไงคะ จูนเหมือนกับลืมมันไม่เลย ไม่ทันสังเกตว่า มันเฝ้ามองจูนอยู่ตลอดเวลา บางทีก็คาบตุ๊กตามาชวนเล่น บางทีก็กระโดดขึ้นเตียง ไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาก แบบว่าชวนให้เราไปนอนด้วย
แต่เพราะงานตรงหน้ายุ่งๆ ต้องรีบคิด รีบพิมพ์ต่อเนื่อง ไม่งั้นลืม แค่หันไปลูบหัวมันบอกว่ารอก่อนๆ
แล้วมีอยู่วันหนึ่ง พอจูนปิดคอมเท่านั้น มันยิ้มลิ้นห้อยดีใจ กระโดดหมุนตัว เหมือนเต้นระบำเลยพี่
ถึงได้รู้สึกตัวว่า.. เราเอาเวลาไปให้กับคอมพิวเตอร์ กับงานที่อยู่ตรงหน้า จนลืมสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา ลืมบุคคลที่เขาต้องการเวลาจากเราเหมือนกัน
แม้แต่หมา.. มันก็ยังรู้เลย
เอ... รู้สึกว่า จะพูดนอกประเด็นไปแล้วนะเนี่ย แหะๆ
^___^
ไม่นอกประเด็นเลยค่ะ น้องจูน คนโสดๆนี่แหละจะเป็นมากโดยไม่รู้ตัว ของพี่คนรอบๆตัวพูดได้ ดึงได้ ทำให้เราต้องหันไปปฏิสัมพันธ์กับเขาค่ะ ไม่งั้นก็คงยิ่งเป็นมนุษย์ประหลาด คิดคนเดียวคุยคนเดียวกับคอมพ์ เพราะงานส่วนมากต้องใช้คอมพ์นี่คะ เราพักผ่อนด้วยคอมพ์อีกอย่าง ก็เสร็จเลยไม่ต้องไปไหน คิดอะไรแล้ว อย่างงี้ต้องสอนให้ชูจัง ส่งเสียงดังๆเรียกบ้าง (เค้าเรียกร้องความสนใจได้น่ารักสุภาพเรียบร้อยเกินไป แม่เลยไม่สนไง) ลูกๆพี่ไม่มียอมให้เรานั่งหน้าคอมพ์ก่อนที่พวกเขาจะได้เล่าเรื่องที่อยากเล่าให้เราฟัง ให้สมใจก่อนหรอกค่ะ พูดเก่งๆกันทั้งเพเลย หูเราจะพัง
วันทั้งวัน ตอนที่สบายสุดก็ตอนอยู่หน้าคอมพ์ตอนเที่ยงคืนนี่แหละค่ะ