ฉันเข้าไปทำงานในชุมชนกับศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม โดยไปฝึกหัดเป็นพี่เลี้ยงและพัฒนาโจทย์วิจัยที่ชุมชนไร่ใหม่พัฒนา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ห่างจากวิทยาลัย ๕ กิโลเมตร
ตำบลไร่ใหม่พัฒนา เป็นชุมชนอายุ เกือบ ๔๐ ปี ชาวบ้านอพยพมาจากเพชรบุรีและราชบุรี โดยมาครอบครองที่ดินที่เหลือจากการทำลายป่า คนเก่าคนแก่ของหมู่บ้านเล่าว่า มาจับจองที่ดินหลังจากที่บริเวณนี้ถูกนำไม้ใหญ่ๆ ออกไปเกือบหมดแล้ว คนที่มาแรกๆ ครอบครองพื้นที่กันคนละ ๕๐๐ ไร่ขึ้นไป แต่พอถือครองแล้วทำคนเดียว หรือทำครอบครัวเดียวก็ทำไม่ไหว จึงไปชักชวนญาติพี่น้องมาอยู่ด้วยกัน สร้างบ้าน สร้างครอบครัวใหม่กัน
ระยะแรก ไม่มีน้ำใช้ ไม่มีถนน ชาวบ้านต้องไปหาบน้ำกันวันละหลายกิโล มีเรื่องเล่าที่ชุมฃน ภาคภูมิใจ คือ ชุมชนร่วมกันสร้างถนน ยาว ๒๕ กิโลเมตร ทุกๆ วันพระ คือทำถนนเป็นทางไว้เพื่อให้ทางหลวงเข้ามาปรับปรุงให้ภายหลัง ชาวบ้านบอกว่าถ้าไม่ทำทางไว้ทางหลวงจะไม่ทำทางให้ จึงช่วยกันขุด จนสำเร็จเป็นระยะทาง ๒๕ กิโลเมตร (ไปออกถนนเพชรเกษม เพราะสมัยนั้นยังไม่มีถนนบายพาส)
คำถามที่ถามกันในวันนี้คือ ความสามัคคีในชุมชน หายไปไหนหมด ปัจจุบันนี้แค่จะขอให้มาร่วมกันพูดคุยเฉยๆ ไม่ได้ออกแรงอะไร ส่วนใหญ่ยังไม่มีเวลา เพราะเขาต้องทำมาหากินกัน
เมื่อก่อนไม่มีรายได้มากนัก แต่ก็ไม่เป็นหนี้ ทุกวันนี้รายได้มากก็เป็นหนี้มาก
ข้อมูลจากชุมชนมีมาก แต่ก็ต้องกลั่นกรอง ยิ่งถ้าเป้นความขัดแย้งระหว่างบุคคลด้วยแล้ว การรับฟังห้ามด่วนตัดสิน เด็ดขาด ฉันได้บทเรียนจากประสบการณ์นี้เพราะคนในชุมชนนี้มีความขัดแย้งกัน ในเรื่อง"ผลประโยชน์" แต่เป็นเรื่อง"บุคคล" ไม่ใช่เรื่องส่วนรวม ถ้าด่วนตัดสิน จากคำพูดบางคำ อาจทำให้งานเสียได้
ไม่มีความเห็น