หน้าแรก
สมาชิก
ปัทมา เอี่ยมสุวรรณ
สมุด
ผลงานทางวิชาการ
วัตถุประสงค์ของกา...
ปัทมา เอี่ยมสุวรรณ
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.
เพื่อ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
โดยใช้วิธีการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคจิ๊กซอว์
ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
2.
เพื่อ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
โดยใช้วิธี
การเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคจิ๊กซอว์ ของ
กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน
ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
3.
เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อวิธีการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคจิ๊กซอว์
อภิปรายผล
จากผลการวิจัยในครั้งนี้ สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้
1
.
ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยม
ศึกษาปีที่
5
หลังเรียนด้วยวิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิคจิ๊กซอว์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.01
2.
ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
5
แต่ละกลุ่ม คือ
กลุ่มเก่ง
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05
กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน หลังเรียนสูงกว่า
ก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และเมื่อวิเคราะห์ความแปรปรวนค่าเฉลี่ยของคะแนนที่เพิ่มขึ้นของนักเรียน
กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อนโดยใช้การทดสอบแบบ ANOVA – One way พบว่า มีค่าเฉลี่ยของ
คะแนนที่เพิ่มขึ้นของ
นักเรียนทั้ง
3 กลุ่ม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และเมื่อ
ทดสอบรายคู่เพื่อหาคู่ที่แตกต่างกันอย่างแท้จริง
พบว่า นักเรียนกลุ่มเก่ง กับกลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน มีค่าเฉลี่ยของคะแนนที่เพิ่มขึ้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01
สรุปผลการวิจัย
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป
SPPSS/PC ปรากฏผล ดังนี้
1.
ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
หลังเรียนด้วยวิธีการเรียน
แบบร่วมมือ เทคนิคจิ๊กซอว์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ
.01
ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2.
ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ
ความ
เข้าใจ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
5
แต่ละกลุ่ม คือ กลุ่มเก่ง หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
และเมื่อวิเคราะห์ความแปรปรวนค่าเฉลี่ยของคะแนนที่เพิ่มขึ้นของนักเรียนกลุ่มเก่ง
กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อนโดยใช้การทดสอบแบบ ANOVA – One Way พบว่า มีค่าเฉลี่ยของ
คะแนนที่เพิ่มขึ้นของนักเรียนทั้ง
3 กลุ่ม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ
เมื่อทดสอบรายคู่เพื่อหาคู่ที่แตกต่างกันอย่างแท้จริง
พบว่า นักเรียนกลุ่มเก่ง กับกลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน มีค่าเฉลี่ยของคะแนนที่เพิ่มขึ้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3.
ความคิดเห็นที่มีต่อวิธีการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคจิ๊กซอว์ พบว่า ความคิดเห็นที่มีต่อวิธีการเรียน ทั้ง 4 ด้าน
โดยรวมของนักเรียน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้าน
การทำงานร่วมกัน
ด้านการเห็นคุณค่าในตนเอง
ด้านบรรยากาศในการเรียน
และด้านความรู้ความสามารถ ตามลำดับ
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ปัทมา เอี่ยมสุวรรณ
ใน
ผลงานทางวิชาการ
คำสำคัญ (Tags):
#ผลงานวิชาการ
หมายเลขบันทึก: 269326
เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2009 21:04 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 18:36 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ปัทมา เอี่ยมสุวรรณ
สมุด
ผลงานทางวิชาการ
วัตถุประสงค์ของกา...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท