ความเป็นแม่และสัญชาตญาณของความเป็นแม่ หญิงพม่าคนนั้นเฝ้าดูแลลูกอยู่ตลอด ถามว่ากินข้าวหรือยัง...เธอตอบว่ายัง แม่ก็เลยจัดแจงเรื่องข้าวปลาอาหารที่ขนมาให้อากง แบ่งไปให้..เธอยกมือไหว้ขอบคุณเราแม่ลูก แต่ก็ยังไม่ยอมกินอะไรอยู่เช่นเดิม เราเดินไปอยู่ข้างเตียงของหนูน้อย ส่งสายตาให้เค้าประมาณว่า "สู้นะ..หนู อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ"
วันนี้ขอเล่าเรื่องนอกสถานี ฯ หน่อยนะคะ
เพราะเป็นเรื่องที่สะท้อนใจจริง ๆ ค่ะ
เมื่อวาน..หลังจากจัดรายการเสร็จแล้วไปเยี่ยมอากง
(ตา) ที่โรงพยาบาล..
ในห้องไอซียู...มีผู้ป่วยเต็มแน่นทุกเตียง
อากงนอนอยู่เตียงสุดท้าย
อาการดีขึ้นแล้วแต่หมอยังให้รอดูอาการ
แต่พอมองไปเตียงข้าง ๆ เห็นเด็กน้อยคนนึง อายุแค่ 4
เดือน มีสายน้ำเกลือและเลือดระโรงระยาง
เด็กคนนี้เป็นลูกของแรงงานพม่าที่อพยพเข้ามาทำงานที่ระนองนี่ล่ะ
แม่เด็กก็พูดภาษาไทยไม่ได้..แต่ก็พยายามชี้มือชี้ไม้ส่งภาษามือให้กับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา
ความที่พอจะพูดภาษาพม่าได้นิดหน่อยก็สื่อความได้ว่า
หมอบอกว่าเด็กป่วยเป็นมาลาเรีย.. เด็กตัวเล็กนิดเดียวเท่านั้นเอง
เนื้อตัวสูบซีด เห็นแล้วใจคอไม่ดี...
ความเป็นแม่และสัญชาตญาณของความเป็นแม่
หญิงพม่าคนนั้นเฝ้าดูแลลูกอยู่ตลอด
ถามว่ากินข้าวหรือยัง...เธอตอบว่ายัง
แม่ก็เลยจัดแจงเรื่องข้าวปลาอาหารที่ขนมาให้อากง
แบ่งไปให้..เธอยกมือไหว้ขอบคุณเราแม่-ลูก
แต่ก็ยังไม่ยอมกินอะไรอยู่เช่นเดิม
เดินไปอยู่ข้างเตียงของหนูน้อยส่งสายตาให้เค้าประมาณว่า
"สู้นะ..หนู อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ"
เจ้าหนูส่งสายตากลับมา..รู้สึกสะเทือนไปหมดทั้งใจจริง ๆ
ค่ะ
เกือบ ๆ 2
ทุ่ม...ใกล้จะหมดเวลาเยี่ยม
หนูน้อยเกิดอาการชัก...
แอบมองดูหน้าจอที่บอกอัตราการเต้นของหัวใจแล้วหัวใจหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่ม
พอดีกับลูกน้องของพ่อซึ่งก็เป็นแรงงานพม่ามาเยี่ยมเด็กน้อยคนนี้
โชคดีที่เค้าพูดไทยได้เลยได้ช่วยกันพูดคุยกับเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่บอกพวกเราว่า
"เด็กอาการหนักมาแล้วก่อนจะถึงมือหมอ เชื้อมาลาเรียลามมาถึงสมองแล้ว
อาการคงไม่ดีขึ้นมากไปกว่านี้"
จากนั้นก็แนะนำให้เราเรียกตัวพ่อเด็กมาเพื่อจะดูใจลูกเป็นครั้งสุดท้าย
...
มาถึงตอนนี้สุดจะกลั้นน้ำตา...เดินไปบอกอากงว่า
"พรุ่งนี้ หนูจะมาเยี่ยมอากงใหม่นะ...อดทนหน่อย
พรุ่งนี้ก็หายแล้ว" แล้วก็แอบเดินออกไปนอกห้องไอซียูเงียบ ๆ
แล้วนั่งร้องไห้
มันสะเทือนใจที่เห็นคนกำลังจะตายต่อหน้า
อีกไม่กี่นาทีนี้..เด้กน้อยคงต้องจากโลกนี้
มันโหดร้ายมากสำหรับเรากับการที่เห็นเด็กตัวเล็ก ๆ
ต้องเจ็บปวด..ทรมาน มันรับไม่ไหวจริง ๆ
นั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องอยู่หลายนาที...พ่อกับแม่เดินออกมา
เราสามคนต่างก็ไม่พูดอะไรแต่ก็ตาแดง ๆ
กันทั้งสามคน
ระหว่างทางกลับบ้าน...ยังคงน้ำตาไหลมาตลอดทาง...ไม่รู้ทำไมถึงต้องสะเทือนใจกับเรื่องนี้นัก
อาจเป็นเพราะสายตาคู่นั้นของเด็กน้อยที่ได้สบตากัน
เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับทั้งคืน...เช้านี้ก็ยังรู้สึกหดหู่ใจอยู่ไม่หาย...
ป่านนี้หนูน้อยคงหลับอย่างสบาย ณ
ที่ใดที่หนึ่งที่เราไม่อาจรู้ได้
อย่างน้อยหนูก็ไม่ต้องตื่นมาเพื่อเจอกับความโหดร้ายของโลกใบนี้...
หลับให้สบายนะ...คนดี โลกใบนี้ยังไม่ใช่ของหนู