- ศึกษาข้อดีของ mambo และ moodle เพื่อดูข้อแตกต่าง
- ศึกษาระบบ e-office เพิ่มเติม และศึกษารายละเีีอียดของ
moodle
ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Mambo และ
Moodle
- ข้อดีของ Mambo
- ง่ายต่อการติดตั้ง และการใช้งาน
- มีการบริหารเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้ง่าย และเป็นเอกลักษณ์
- มีความง่าย และยืดหยุ่นในการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ได้ตามต้องการ
โดยการใช้ template
- สามารถเพิ่มเติมเนื้อหา และรูปภาพได้ง่าย
- สำหรับเว็บมาสเตอร์ที่ไม่ชำนาญทางเทคนิค
หรือเป็นนักเขียนโปรแกรมชั้นสูงก็สามารถสร้าง custom application
ได้
- ข้อดีของ Moodle ก็คือจะมีการ login
-
- การ Login เข้าระบบการเรียนใน e-learning
เป็นการทำให้ผู้สอนในระบบ ทราบถึงรายละเอียดและช่องทางการติดต่อกลับ
กับผู้เรียน
- ถ้าผู้เรียนลงทะเบียนเรียน
ได้เรียนรู้ไปและทำการวัดและประเมินผล
ผู้สอนในระบบก็จะทราบผลความสำเร็จและความก้าวหน้าของผู้เรียน
- นอกจากนั้น ผู้สอนในระบบ จะได้ทราบสถิติ
จำนวนผู้เรียน เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
-
คนที่เข้ามาในสถานะผู้เยี่ยมชม
สามารถตั้งฉายาอะไรต่างๆ นานา
มีโอกาสแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ได้มาก เพราะไม่ทราบว่าเป็นใคร
มาจากไหน ตรวจสอบไม่ได้ เพียงแต่ ตรวจจากเลข ip ได้เท่านั้น
หากไม่มีการ Login ก็เปรียบเสมือนกับ เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าใคร
ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน มาอยู่ในบ้านของเรา
เข้ามาแบบไม่เคาะประตูบ้าน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ e-office และ
Moodle
- Forum คือ กระดานเสวนา มีลักษณะเป็นการถาม - ตอบกัน
ซึ่งในระหว่างการถาม - ตอบนั้น สามารถทำการ attach ไฟล์ไปด้วยได้
- ข้อดีของ Forum นี้ คือ สามารถทำการแบ่งกระดานเสวนานั้นออกเป็นปี
ๆ ได้ ซึ่งจะทำให้เราสามารถทำการจัดเก็บเป็นรายปี
เมื่อเราไม่ต้องการใช้ปีไหน
ก็สามารถจัดการทำลายมันได้่อย่างง่ายดาย
- หลักในการทำงานจะแบ่งเป็น Form กับ โค้ด html
จากนั้นทำการประมวลผลด้วย php
แล้วมีการนำตัวแปรไปประมวลผลในการรับหนังสือคือจะมีการรันเลข จาก
record สุดท้าย
- ไฟล์ที่เป็น mdl นำหน้า จะเป็นไฟล์ของ moodle ส่วนไฟล์ที่ไม่มี
mdl นำหน้าจะเป็นไฟล์ที่เราทำการเพิ่มเอง
- วันที่ที่ใช้ในระบบ จะเป็นการเรียกใช้ function
- mdl_user จะเก็บบัญชีรายชื่อของทุกคนที่ใช้ moodle
- mdl_user_admin จะเก็บชื่อของ admin ซึ่งจะเก็บข้อมูลของ id
ไว้ด้วย เมื่อ admin ทำการ login แล้ว ก็จะทำการ check ว่า user id
ที่ login เข้ามานั้น ตรงกับใน mdl_user_admin หรือไม่
ถ้าตรงก็แสดงว่าเป็น admin ถ้าไ่ม่ตรงก็แสดงว่าไม่ใช่ admin
- ไฟล์ lib.php จะเก็บอยู่ในรูปแบบ function และ ทำงานแบบ Object
Oriented
- ในส่วนของโค้ด php นั้น จะมีส่วนหนึ่งที่เป็น input type = hidden
ซึ่งจะเป็นการเก็บค่าไว้แต่ไม่แสดงผลออกมา
สามารถทำการกำหนดค่านี้ให้กับตัวแปรได้ โดยตัวแปรนั้นก็จะไม่แสดงผล
มักใช้กับ id เนื่องจากว่าค่ id ไม่ควรจะถูกแก้ไข
มิฉะนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง เช่น ปัญหาในเรื่องของ id
ซ้ำกัน เป็นต้น
- สามารถศึกษารายละเีอียดในหัวข้อนี้เพิ่มเติมโดยคุณ j_jakop ได้ที่
http://gotoknow.org/archive/2006/05/03/17/46/14/e26726