ชีวิตที่พอเพียง : 14. ออกกำลังกาย


• ร่างกายของมนุษย์ถูกออกแบบ (โดยธรรมชาติ) มาให้ต้องออกกำลังกาย จึงจะมีสุขภาพดี   ถ้าขาดการออกกำลังกาย สุขภาพจะทรุดโทรม
• การออกกำลังกายไม่ใช่มีประโยชน์ต่อความแข็งแรงเชิงกายภาพ (physical) ของร่างกาย   แต่มีประโยชน์ต่อความแข็งแรงเชิงจิตใจ  เชิงอารมณ์  และเชิงความต้านทานเชื้อโรค  ต้านทานความเครียด ได้ด้วย
• ผมเป็นคนที่เกิดมาด้อยปัญญาด้านการเคลื่อนไหวของร่างกาย และด้าน spatial   ตอนเด็กๆ ชั่วโมงเรียนที่เป็นยาขมคือชั่วโมงพละ    เพราะเราจะทำไม่ได้อย่างเพื่อนและถูกล้อเลียนเป็นตัวตลก   ผมจึงเป็นเด็กที่เล่นกีฬาไม่เป็น    ประกอบกับตอนเป็นเด็กตัวผอมกระหร่อง เวลาเล่นกายบริหารกลางแจ้ง และมีลมพัดมา ครูจะล้อว่า “นายวิจารณ์ เธออย่าปลิวไปตามลมนะ”
• เหมือนเทพเจ้าช่วยให้ผมมีร่างกายแข็งแรง   ผมถีบจักรยานไปโรงเรียนวันละ ๑๒ กม. เป็นเวลา ๕ ปี ในช่วงอายุ ๑๐ – ๑๕ ปี   เท่ากับได้ออกกำลังแบบแอโรบิกทุกวัน วันละ ๒ ช่วง ทำให้ปอดใหญ่ แข็งแรง  
• เมื่ออายุเข้า ๔๐ ปี อาจารย์หมอประเวศ ก็มาบอกว่า “วิจารณ์อายุมากแล้วนะ ควรจะออกกำลังกาย”   ตอนนั้นผมเป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์    งานหนักมากและเครียด   ผมเป็นหวัดบ่อยมาก   จำได้แม่นยำว่าพอถึงหน้าเป็นหวัด ผมจะเป็นคนแรกในบ้านที่เป็นหวัด และหายเป็นคนสุดท้าย    ผมเป็นโรคปวดท้องก่อนอาหาร   เข้าใจว่าเป็นแผลในกระเพาะอาหารจากความเครียด   ต้องกินยาลดกรดเป็นแกลลอนๆ อยู่เป็นปี    ผมจึงอ่านหนังสือเรื่องการวิ่งเหยาะออกกำลังกาย   แล้วไปซื้อรองเท้าวิ่งมาออกวิ่งตอนเช้ามืด (ยังไม่สว่าง ไม่มีคนเห็น)    วันแรกวิ่งออกไปได้สัก ๒๐ ก้าวก็หมดแรง ต้องเดิน   พอหายเหนื่อยก็วิ่งต่อ   ทำอย่างนี้จนครบครึ่งชั่วโมง    วิ่งทุกวัน ช่วงเดินก็ลดลงๆ จนวิ่งได้ตลอดครึ่งชั่วโมงภายในเวลาไม่ถึงเดือน    หลังจากนั้นไม่นานผมก็ไม่ต้องกินยาแก้โรคกระเพาะอาหารอีก   และการเป็นหวัดในครอบครัวก็เปลี่ยนไป    ผมกลายเป็นคนสุดท้ายที่เป็น และหายก่อนเป็นคนแรก   หรือไม่เป็นหวัดเลยแมีช่วงนั้นทุกคนในบ้านเป็นหวัด   ที่สำคัญทำให้จิตใจเยือกเย็นลง   อดทนต่อความเครียดหรือข้อขัดแย้งในการทำงานได้ดีขึ้นอย่างมากมาย
• ในช่วงนั้นผมออกวิ่งตีห้าในวิทยาเขตหาดใหญ่ของ มอ. ซึ่งผมมีบ้านพักของราชการให้อยู่อย่างสุขสบายที่เชิงเขา    พอตีห้าครึ่งก็ไปนั่งทำงานให้เหงื่อแห้ง   ผลจากการที่สมองแจ่มใสจากการออกกำลังกายทำให้ผมทำงานได้มากมาย   มีเพื่อนร่วมงานมาระลึกชาติการทำงานช่วงนั้นให้ผมฟังบ่อยๆ    ผมรู้สึกว่าความทรงจำดีๆ มันงอกงามได้    คือเขาเล่าเกินความจริงไปมาก   ผมไม่ได้ขยันและเก่งถึงขนาดนั้น
• เวลานี้ผมวิ่งออกกำลังแทบทุกวันในปัจจุบันตอนตีสี่ครึ่ง   ในบริเวณหมู่บ้านที่อาศัยอยู่   พอตีห้าก็นั่งทำงานให้เหงื่อแห้ง   ตีห้าครึ่งอาบน้ำแต่งตัว   หกโมงเช้าออกเดินทางไปทำงาน  
• เพื่อนๆ ของผมหลายโรงเรียน/สถาบัน ชอบนัดสังสรรค์    ผมไปร่วมบ้างเป็นครั้งคราว   หลายครั้งเพื่อนจะบ่นเรื่องเป็นโน่นเป็นนี่ประสาคนสูงอายุ   ผมจะแนะให้วิ่งออกกำลัง   เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง   มักไม่ค่อยมีคนสนใจปฏิบัติ   แต่ถ้าผมบอกว่าผลของการออกกำลังแบบแอโรบิกอย่างหนึ่ง คือสมรรถภาพทางเพศจะดีขึ้น   เพื่อนจะทำตาโตและถามว่า “จริงหรือหมอ”  
• การออกกำลังกายทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง   ประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงไปได้มาก    ช่วยส่งเสริมการมีชีวิตแบบพอเพียง

วิจารณ์ พานิช
๒๕ เมย. ๔๙
ปรับปรุง ๓ พค. ๔๙

หมายเลขบันทึก: 26606เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2006 10:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 20:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

    หลายคน  มีหลากหลายข้ออ้าง  หลากหลายเหตุผล  ที่จะหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย  ทั้ง ๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของตัวเอง  ข้ออ้างเดิม ๆ ที่คุ้นเคย และเคยได้ยินอยู่เสมอ  ของเพื่อนร่วมโลกการทำงาน คือ ไม่มีเวลา  ติดภาระกิจบางประการ  ไม่สามารถเจียดเวลาให้กับสิ่งสำคัญสิ่งนี้ได้   ทั้ง  ๆ ที่เวลาที่แต่ละคนได้รับมาในแต่ละวันนั้น ก็ เท่า ๆ กันทั้งสิ้น  แต่จะมีสักกี่คนที่จะจัดสรรเวลาดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด  แก่ตัวเอง..ด้วยตัวเอง

   ผมเองก็เป็นหนึ่งในอีกหลายคน  ที่พยายามจัดสรรเวลาในช่วงหลังเสร็จสิ้นภาระกิจจากการทำงาน  มาเติมพลังให้ชีวิตเพื่อใช้เป็นแรงขับเคลื่อนในการทำงานในวันข้างหน้า  ด้วยการออกกำลังกาย.... วิ่ง วิ่ง วิ่ง .... ไม่ต้องลงทุนอะไร  ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรมากมาย  ไม่ต้องมีสถานที่ที่เป็นรูปแบบ  อาศัยแค่ร่างกายและความมุ่งมั่นตั้งใจ  เท่านั้นก็พอ  แล้วคุณล๊ะ  ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง  ด้วยตัวเอง บ้างแล้วหรือยัง    อย่ารอให้คุณหมอมาบอกว่าหากได้ออกกำลังกายบ้างตั้งแต่ต้น  คุณจะไม่เป็นแบบนี้  แล้วใครล๊ะ ที่จะมานั่งนึกเสียใจ  ถ้าไม่ใช่ คุณ..

หาเจอแล้วครับ เวลาเข้ามาอ่านข้อคิดเห็นจะมองหาBlogของคุณหมอ ได้ประโยชน์และน่าเชื่อถือดี ผมอายุ 30 ปี เริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่อายุ 14-15 ปี คิดว่าจะออกกำลังกายไปเรื่อยๆ พยายามดูแลรักษาสุขภาพ เหมือนหลักที่คุณหมอแนะนำ ขอบคุณครับที่เสนอสิ่งดีๆ จะรออ่านอีกครับ

เห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะ    เท่าที่เริ่มเดินเร็วๆประมาณ10ปีก็เป็นคนที่ป่วยน้อยมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท