กลับมาแล้วครับ เอาเรื่องความหายนะมาเล่าให้ฟัง


ไม่ใช่เหนือฟ้ามีฟ้านะครับ ต้องมาทบทวนว่า เราเป็นเพียงคนเดินดินจริงๆ เมื่อเทียบกับยอดฝีมือจริงๆ

กราบขออภัยผู้อ่านทุกท่าน  สำหรับการหายหน้าไป

          บทเรียนชีวิตนะครับ   ชีวิตคนทำงาน มีอะไรก็จด มีอะไรก็ับันทึก เก็บเล็กผสมน้อย ไวรัสที่รักเข้าเครื่อง เห็นสัจจธรรมเลยครับ   งานสามสี่ปี หายวับไปกับตา้ครับ  ดีว่าสำรองไว้ส่วนหนึ่ง ก็เล่นเอาย่ำแย่ครับ  เครื่องที่มีโปรแกรมต้านไวรัสแ้ล้ว  ตอนนี้มันคงไม่พอครับ  update virusdat ทุกสัปดาห์ ก็ไม่แน่  นิสัยการใช้เครื่องไม่ขยันเอาโน่นเอานี่มาใส่ก็ยังไม่พอครับ  จดหมายโฆษณาก็ไม่เปิดครับ  เอกสารแปลกๆก็ไม่ดูครับ  ไวรัสที่มากับจดหมายน้องๆพี่ๆนี่แหละครับ  ไม่ใช่ไวรัสธรรมดาครับ  มันแฝงตัวมาในรูป spyware adware ตัวช่วยdownload อะไรอีกสารพัด โดยคนส่งเองก็คงไม่รู้ว่าส่งลูกระเบิดเวลามาให้ครับ  เลยสอนบทเรียนขนาดมหึมาให้ผมครับ ถึงตรงนี้ blogmasterคงต้องรีบscan แฟ้มผมว่าเอาไวรัสติดมาไหม  ไม่มีแล้วครับ ผมformatเครื่องหมดเลยครับ  อันนี้มันไม่ยากเย็น 

        วันนี้ไม่ใช่เรื่องบ่นนะครับ  เล่าให้ฟังเพื่อเป็นการบอกกล่าว ป้องกันตัว

        ผมเป็นนักคอมพิวเตอร์  ซ่อมเครื่องก็เป็น กู้ข้อมูลก็บ่อย ช่วยใครมานักต่อนักแล้ว  มาเจอของจริง ต้องยอมรับว่า นักสร้างไวรัส และหนอนเก่งจริง  ไม่ใช่เหนือฟ้ามีฟ้านะครับ ต้องมาทบทวนว่า เราเป็นเพียงคนเดินดินจริงๆ เมื่อเทียบกับยอดฝีมือจริงๆ

       ผมไม่คิดโกรธ คนทำไวรัสหรือ คนที่ส่งมาให้โดยไม่ตั้งใจ  แต่เป็นโอกาสอันดีเหลือเกินที่จะได้เรียนรู้เพิ่มเติม  นอกจากการแก้ไขแล้ว การป้องกันเป็นประเด็นที่น่าสนใจ  แต่ปัจจุบัน นอกจากการป้องกันแล้ว  การทบทวน และการเตรียมการเพื่ออุบัติการณ์ที่ไม่คาดฝันยิ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ

       ลองคิดถึงเมื่อสองปีที่แล้ว  ที่เราเริ่มมีเงินใช้กัน  รัฐบาลที่รักให้เรามีสิทธิกู้เงินได้  เป็นหนี้บัตรเครดิตได้  เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงท่านเป็นเรื่องที่หลายคนลืมเลือน  (ไม่กลัวหรอกดอกเบี้ยต่ำ กู้ได้เยอะ นาน ผ่อนได้หมด)   ต่างชาติเคยวิเคราะห์ว่า คนเราในยุคทุนนิยม อนุญาตให้มีหนี้ได้ประมาณ 28-35% ของรายรับ   เจอบ้านเราผงะครับ  ให้มีหนี้ได้5เท่าเงินเดือน(วงเงินบัตรเครดิตไงครับ)  นั่นคืออะไรครับ  รัฐให้เรามีรายได้ได้เพียง 28-35% ของรายได้ไงครับ

        ปีนี้เราจะได้รู้ซึ้งเป็นปีแรกครับ  ที่เราจะเห็นดอกเบี้ยงอกงาม ผมไม่ได้บอกนะครับว่า เศรษฐกิจกำลังจะเป็นฟองสบู่อีก  แต่อาจเป็นข่าวร้ายครับที่ ชีวิตของทุกคนอาจเหมือนฟองสบู่ และคราวนี้ อาจจะระเบิดถึงระดับรากหญ้า 

        กลับมาเรื่องไวรัสดีกว่านะครับ เดี๋ยว blogmaster จะใจไม่ดี

        คำแนะนำของผมนะครับ   เผื่อน้องๆพี่ๆ อาจจะโบราณไปบ้างในสายตานักคอมพิวเตอร์นะครับ  มีอะไรก็แนะนำเพิ่มเติมนะครับ

        1.ถ้าทำได้ควรแบ่ง Harddisk เป็น สองส่วนนะครับ ลง windows (ทุกคนคงใช้ เพราะcopy กันเกลื่อนเมืองไทยเป็นการหนามยอกอกคุณบิล เกตต์อยู่) ไว้ส่วนหนึ่ง เอาข้อมูลไว้อีก partitionหนึ่งครับ  partition แรก ขนาดไม่ต้องใหญ่  partition หลังๆ เอาแบ่งอีกก็ได้ แต่เอาใหญ่ไว้ก่อนเพราะต้องใส่ข้อมูล

       2. ระวังนะครับ เอกสารที่เราบันทึกไว้ ถ้าไม่ระบุไม่ว่าจะเป็นภาพหรืออะไร  มันจะบันทึกลงไว้ใน my document นะครับ ซึ่งมีการป้องกันอย่างดีเยี่ยม  ไม่ว่าใครก็เข้ามาดูไม่ได้แม้ว่าจะเป็น administrator ถ้าไม่ได้login ชื่อเรา  แต่ก็นั่นแหละครับที่ผมเองเจอหายนะ คือ เจ้าไวรัส มันก็ทำให้เครื่องไม่รู้จักชื่อผมไปด้วย  ผลก็เป็นอย่างที่รู้ๆแหละครับ  เราหาที่ไว้เอกสารเราเจอ  แต่เราไม่มีสิทธิเปิดครับ เดี้ยงสนิท

      3. ถ้าใช้เครื่องคนเดียว ยอมเถอะครับ  เอาข้อมูลสำคัญๆ ไปจัดไว้อย่างเป็นระเบียบใน partitionที่สองเถอะครับ  ถ้าอยากจะปิดไม่ให้คนเห็น ก็หา software ป้องกันมาลง อันนี้จะปลอดภัยมากกว่า

     4. อันนี้เป็นของสำคัญที่ใครๆก็รู้ แต่ไม่ค่อยทำเพราะเสียเวลาเยอะแต่ประโยชน์มหาศาล และนี่แหละคือเรื่องที่ผมผลัดวันประกันพรุ่ง และนึกจะทำก็ผลัดผ่อน จะวันสุึดท้ายที่หายนะลง ต้องมานั่งนึกตำหนิตนเอง  นั่นคือ การสำรองข้อมูล   จะเขียนลง CD DVD ก็ได้ ถ้าเงินน้อย CDrwค่อนข้าง workครับ แต่ถ้าDVDrw ยิ่งแจ๋วครับ แพงสักนิดนะครับ แต่ถูกกว่าราคาข้อมูลครับ

     5. ไม่จำเป็นไม่ควรเอาอะไรไว้ใน c:windows นะครับ เวลาลงโปรแกรมใหม่ จับพลัดจับผลูอาจถูกเขียนทับ 

    6. โปรแกรมสำคัญๆ ที่มีการเขียนข้อมูลใหม่ลงใน program file ของตัวเขาเอง  เวลาติดตั้งโปรแกรมนั้น ลองให้ไปสร้าง program file ไว้ที่ อีก partition หนึ่งนะครับ จะตั้งว่า d:program file....  ก็ยังได้   เวลา programเสีย  ต้องลงใหม่  program บางตัว จะไม่เขียนทับแต่จะลบทั้งหมดก่อน  ข้อมูลก็เลยไปด้วย  วิธีนี้ เวลาลงโปรแกรมใหม่ อาจจะพอดึง ข้อมูลเดิมกลับมาต่อได้ครับ  อันนี้คงต้องมีความรู้หน่อย

   7. ลง antivirus ต้องดูดีๆนะครับ   อาจจะเอา spyware , adware ไม่อยู่  ตัวที่ใช้ได้ดีก็อาจจะใหญ่เทอะทะ ทำให้งานช้า   ก็คงต้องเลือกเอานะครับ  ลงหลายๆตัวก็ได้ แต่บางส่วนของการทำงานอาจจะซ้ำกัน    

   8. ใครต่อ net เป็นประจำ หรือเอาข้อมูลชาวบ้านมาเข้าออกเครื่องบ่อยๆ  อย่าลืม เปิด autoshield หรือ  autoscan autoprotect ของ โปรแกรม antivirus ไว้ด้วย จะตามมาscanทีหลังแล้วหวังจะลบไวรัสทีหลัง อาจช้าเกินการ และเอาไม่ออกครับ  ที่สำคัญคืออาจเผลอส่งแถมไปให้คนอื่นได้เสมอครับ

(ยังมีต่อ)
 

       วราวุธ
 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 26293เขียนเมื่อ 1 พฤษภาคม 2006 16:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
กลับมาคราวนี้ เจ๋งกว่าเก่าหรือเปล่า .... แค่เรื่องนี้ก็น่าติดตามแล้วค่ะ พาดหัวเรื่องซะน่าอ่านเลยค่ะ
หันมาใช้....Linux หมดห่วงเรื่องไวรัส
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท