วันนี้ตั้งแต่เช้าลุงช่วง เรืองจันทร์ นายกสมาคมคนตาบอด จว.พัทลุง พร้อมเลขาฯ ได้มาพบกับผมที่สำนักงานตามนัดหมาย ซึ่งเราได้นัดกันทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จริง ๆ แล้วที่ได้นัดที่นี่เพราะลุงช่วงจะมาทำธุระอื่น ๆ ด้วย ประเด็นที่มาธุระกับผมก็เพื่อ ลปรร.กันในการจัดการชุมชนคนพิการทุกประเภท/ญาติขึ้นในจังหวัดพัทลุง ภายใต้โจทย์ “คนพิการจะร่วมรวมพลังกันสร้างสุขภาพได้อย่างไร?” และเป็นการเริ่มต้นขับเคลื่อนสภาคนพิการทุกประเภทของจังหวัดไปด้วยเลย ทั้งนี้ในการขับเคลื่อนเริ่มต้นนั้นทางสมาคมคนตาบอด จว.พัทลุง และชมรมเพิ่มพูนพลังคนพิการ อ.เขาชัยสน จะเป็นเจ้าภาพ
โดยสรุปเราจะขอใช้งบประมาณจากกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการฯ จว.พัทลุง เพื่อจัดการสัมมนาในวันที่ 30 พฤษภาคม 2549 ที่จะถึงนี้ และได้คิดประมาณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ น่าจะตกที่ประมาณไม่เกิน 40,000 บาท (มีค่ารถคนพิการคิดคำนวณโดยเฉลี่ยประมาณ 150 บาท/คน ด้วย) โดยมีเป้าหมายคือ คนพิการแต่ละประเภท/ญาติ 5 ประเภท จาก 11 อำเภอ ก็จะเป็น 55 คน จนท.ผู้รับผิดชอบงานส่งเสริมสุขภาพคนพิการ อำเภอละ 1 คน เป็น 11 คน และผู้จัด/ผู้ประสาน/วิทยากร/แขกรับเชิญ อีกประมาณ 24 คน สำหรับสถานทีลุงช่วงจะไปประสานต่อ และน่าจะเลือกศาลาประชาคม อ.เมืองพัทลุง เพราะเข้าออกง่าย สะดวกแก่คนพิการทุกประเภทดีอยู่แล้ว
สำหรับประเด็นที่จะพูดคุยกันในวงสัมมนา คือ ช่วงเช้าจะเป็นการมองจากมุมของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง และนากยกเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุง ในประเด็น “คนพิการจะร่วมรวมพลังกันสร้างสุขภาพได้อย่างไร?” จากนั้นก็จะเปิดเวทีให้ได้ ลปรร.กัน โดยการซักถามหรือสอบถามประเด็นที่สงสัยค้างคาใจ ในวงกว้าง
ช่วงบ่ายจะเป็นการแยกกลุ่มตามแต่ละประเภทของคนพิการทั้ง 5 ประเภท โดยมี จนท.เข้าไปเป็นผู้ช่วยในการเรียนรู้ เพื่อตอบโจทย์เดิมคือ คนพิการจะร่วมรวมพลังกันสร้างสุขภาพได้อย่างไร? จากนั้นก็จะมีการกลับมารวมกันเพื่อนำเสนอในแต่ละกลุ่มต่อกลุ่มใหญ่ และร่วมกันตกผลึกเป็นภาพรวม คนพิการจะร่วมรวมพลังกันสร้างสุขภาพได้อย่างไร? ก่อนจะทำ AAR แล้วนัดหมายการพบกันในคราวถัดไปของแกนนำเพื่อขับเคลื่อนเดินต่อ และไปเชื่อมโยงกับการสนับสนุนให้เกิดชมรมเพิ่มพูนพลังคนพิการจังหวัดพัทลุงและยกเป็นสภาคนพิการทุกประเภทต่อไป ตามที่เคยได้บันทึกไว้แล้วที่ EHM เครื่องมือสร้างพลังเครือข่ายคนพิการ
มาเพิ่มเติม...ตามสัญญาที่ทิ้งรอยไว้ ก่อนหน้า
เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และเป็นพลังอย่างมาก เพราะเป็นจุดเริ่มที่มาจากกลุ่มคนเหล่านั้นเอง..หาใช่มาจากภาครัฐที่มักไปยัดเยียดให้ทำบ่อยๆ เพื่อคนทำจะได้รับผลงานนั้นไป...แต่จากการที่เฝ้าติดตามมาได้สักประมาณ 4-5 เดือน ดิฉันเห็นว่าคนเดินเรื่องนั้นมาจากแกนนำ "ผู้พิการ" เอง..เพียงแต่คุณชายขอบและบุคลากรในทีมช่วยเอื้ออำนวยให้เขา..ได้ทำในสิ่งที่พึงทำ...
จึงอยากเป็นหนึ่งแรง..อาจได้แค่พลังทางความคิด...หรือหากมีโอกาสได้ร่วมใช้แรงกาย ผลักดันร่วมด้วย..และตอนนี้ที่ "ตน" และคนทำงานก็ร่วมช่วยกันผลักดันเช่นกัน...แต่เราเริ่มที่ผู้ป่วยของเราเอง..ก่อนคือ "คนจิตเวช" ทั้งหลาย...
สู้เดินต่อ...อย่าท้อ..และทอดทิ้งเขาเหล่านั้นนะคะ...ร่วมด้วยช่วยกันไป..แม้เจอทางตัน..ก็ร่วมมองหาทางเดินต่อ..ให้ได้
เป็นกำลังใจแด่ "ผู้พิการ" ทุกท่าน
ทำยังไงให้เขารู้สึกว่าเขาไม่พิการ
สามารถทำกิจกรรมร่วมกับคนปกติได้จะดีมากเลย
Dr.Ka-poom (1)
- บิลค่าเช่าที่มาจองไว้
ผมส่งไปเก็บเงินที่ไหนครับ (ยิ้ม)
- ส่วนของคุณ "ไร้นาม"
จองบ่อยแต่ผมไม่ทราบจะส่งบิลค่าเช่าไปเก็บที่ใคร
เลยยกเว้นเป็นกรณีพิเศษครับ
- จริงอย่างว่านะครับ ไม่ค่อยมีคนสนใจ
แต่ผมก็ไม่ลดละที่จะจั่วหัวเรื่องให้มีคำว่า"คนพิการ"
เพื่อง่ายต่อการสืบค้นครับ ไม่เน้นประเด็นอื่น
เพิ่มเติมครับ copy มาล้วนๆ
โครงการช่วยคนตาบอด กับอุ้ม
และเจาะใจ 9.6.2005
โครงการช่วยคนตาบอด ที่รายการ เจาะใจ ร่วมกับ คุณ อุ้ม สิริยากร
พุกกะเวช ที่มาร่วมรายการเจาะใจ ในช่วง Reality
โดยโจทย์ของเราคือให้ตาบอด 5 วัน เมื่อเธอได้เริ่มต้นสัมผัสชีวิต
และอาชีพของคนตาบอดของจริง ทำให้เธอได้ตระหนัก
และเข้าอกเข้าใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น โดยครั้งนี้ได้มีการจัดโครงการ
ในการให้ความช่วยเหลือแบบเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ในเบื้องต้นได้มีการจัดทำ เสื้อ “ความรักทำให้คนตาบอด ดีขึ้น”
สมทบทุนช่วยคนตาบอด โดยเสื้อดังกล่าวสามารถซื้อได้โดยตรงที่ บริษัท เจ
เอส แอล จำกัด 154 ลาดพร้าว 107 และ บริษัท บ้านอุ้ม จำกัด ทาว์นอิน
ทาว์น ซอย 8/1 ในราคา 200 บาท หรือหากต้องการสั่งซื้อทำได้โดยการ
โอนเงินมาที่ กองทุน “ทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาคนพิการ” ธนาคาร ทหารไทย
สาขา คลองจั่น เลขที่บัญชี 022-2-40387-5 ประเภท บัญชี ออมทรัพย์
ในราคา 250 บาท (ราคารวมค่าจัดส่ง)
และ ในอนาคต
เงินกองทุนดังกล่าวจะนำไปซื้ออุปกรณ์สำหรับฟื้นฟูเด็กตาบอดอายุ 3 ขวบ
จำนวน 100,000 บาท ที่ตึก 72 พรรษา โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
(ตึกอยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
นอกจากนี้ บริษัทบ้านอุ้ม จะเป็นศูนย์กลาง
ประสานงานหาคนตาบอดให้บริษัทที่ต้องการรับคนตาบอดเข้าทำงาน
โดยปัจจุบันขอความร่วมมือ สำหรับผู้ที่สนใจ
ในการเป็นอาสาสมัครดูแลเด็กเล็ก และสอนการบ้านนักเรียนตาบอด
ที่กำลังศึกษาในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6
ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ พญาไท จำนวนมาก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัท เจ เอส แอล จำกัด โทรศัพท์ 0-2377-0285 และ 0-2731-0630 ติดต่อ
รายการ เจาะใจ
บริษัท บ้านอุ้ม จำกัด โทรศัพท์ 0-2934-7717-8
โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ พญาไท โทรศัพท์ 0-2354-8365-8
1 เมลล์ที่เคยได้รับ...
...ไม่น่าเชื่อ จนวันนี้เราก็ยังไม่ได้ไป
ทำบุญในกับคนพิการ(ตาบอด)...
ด้ ว ย กั น
ที่มา :: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sary&month=06-2005&date=22&group=6&blog=1
Dr.Ka-poom (2)
ขอบคุณมากครับที่ให้ข้อคิดดี ๆ และเป็นกำลังใจให้เสมอ ส่วนจะมีคนสนใจน้อยก็ไม่เป็นไรครับในวันี้ เชื่อว่าต่อไปจะดีขึ้น และขอให้ไปสนใจกับเขาเหล่านั้นเถอะครับ จะได้ช่วย ๆ กัน
คุณแวะมา
ขอบคุณที่มา ลปรร.ด้วย ไม่ต้องไปทำอะไรไงครับ เขาก็รู้สึกว่าเขาไม่พิการ สามารถทำกิจกรรมร่วมกับคนปกติได้ครับ ก็ดูที่จะทำนี่ไงเป็นตัวอย่าง เจ้าภาพนะเขาครับ ไม่ใช่ผมหรอกครับ
คุณ naigod
ตอนที่ผมดูรายการเจาะใจ ไม่ได้คิดอะไรก็ทึ่งครับ แต่เมื่อได้ทบทวน ก็พบว่า "เราทำตามที่เราถนัดตามธรรมชาติ ด้วยใจบริสุทธิ์" น่าจะดีที่สุดครับ