การประเมินเป็นกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลและตัดสินคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ โดยเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งแบ่งได้หลายประเภทตามแต่จะใช้เกณฑ์ใดเป็นหลักในการแบ่ง เช่น แบ่งตามจุดมุ่งหมายของการประเมิน แบ่งตามหลักยึดในการประเมิน หรือแบ่งตามลำดับเวลาที่ประเมิน เป็นต้น
การประเมินมีหลายรูปแบบ ซึ่งผู้ประเมินสามารถพิจารณาเลือกรูปแบบการประเมินที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่มุ่งประเมิน เช่น
1) รูปแบบการประเมินที่เน้นจุดมุ่งหมาย
(Objective – Based Model)
เป็นรูปแบบที่มุ่งดูผลที่เกิดจากการปฏิบัติงานว่าบรรลุตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้หรือไม่
ได้แก่
รูปแบบการประเมินของไทเลอร์
(Tyler) ครอนบาด (Cronbach) เคริกแพตทริค
(Kirkpatrick) เป็นต้น
2) รูปแบบการประเมินตัดสินคุณค่า
(Judgmental Evaluation Model)
เป็นรูปแบบที่มุ่งให้ได้มาซึ่งข้อมูลสารสนเทศสำหรับกำหนดและวินิจฉัยคุณค่าของโครงการนั้น
ได้แก่ รูปแบบการประเมินของ สเตค (Stake) สคริฟเว่น
(Seriven) โพรวัส (Provus) เป็นต้น
3) รูปแบบการประเมินที่เน้นการตัดสินใจ
(Decision – Oriented Evaluation Model)
เป็นรูปแบบที่มุ่งให้ได้มาซึ่งข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ
เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกทางเลือกต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
ได้แก่ รูปแบบการประเมินของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam)
เวลซ์ (Welch) อัลคิน (Alkin) เป็นต้น
CIPP
เป็นรูปแบบการประเมินที่เน้นการตัดสินใจรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง
ซึ่งนำเสนอโดย แดเนียล
แอล สตัฟเฟิลบีม (Daneil
L. Stufflebeam) ที่เรียกกันทั่วไปว่า ซิปโมเดล (CIPP Model)
เป็นการประเมินที่เป็นกระบวนการต่อเนื่อง
โดยมีจุดเน้นสำคัญเพื่อหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจบริหารโครงการอย่างต่อเนื่อง
คำว่า CIPP ย่อมาจากคำว่า
Context (บริบท
หรือสภาวะแวดล้อม) Input (ปัจจัยเบื้องต้น) Process
(กระบวนการ) และ Product (ผลผลิต) สตัฟเฟิลบีม
ให้ความหมายการประเมินไว้ว่าเป็นกระบวนการของการบรรยาย
การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร
เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสม
โดยรูปแบบ CIPP กำหนดให้มีการประเมินทั้งระบบใน 4
ด้าน แนวทางการประเมินแต่ละด้านมีดังนี้
1. การประเมินสภาวะแวดล้อม
เป็นการประเมินให้ได้ข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยในการกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการ
ความเป็นไปได้ของโครงการ
เป็นการตรวจสอบว่าโครงการที่จะทำสนองปัญหาหรือความต้องการจำเป็นที่แท้จริงหรือไม่
วัตถุประสงค์ของโครงการชัดเจน เหมาะสม
สอดคล้องกับนโยบายขององค์การหรือนโยบายหน่วยเหนือหรือไม่
เป็นโครงการที่มีความเป็นไปได้ในแง่ของโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่าง
ๆ หรือไม่ เป็นต้น
2. การประเมินปัจจัยเบื้องต้น
เป็นการประเมินเพื่อใช้ข้อมูลตัดสินใจต่อปัจจัยต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับโครงการว่า เหมาะสมหรือไม่
โดยดูว่าปัจจัยที่ใช้ทั้งบุคลากร งบประมาณ
วัสดุอุปกรณ์ การบริหารจัดการ
จะมีส่วนช่วยให้บรรลุจุดมุ่งหมายของโครงการหรือไม่
ปัจจัยที่กำหนดมีความเหมาะสมเพียงพอหรือไม่
กิจกรรม/แบบ/ทางเลือกที่ได้เลือกสรรแล้วมีความเป็นไปได้และเหมาะสมเพียงใด
เป็นต้น
3. การประเมินกระบวนการ
เป็นการประเมินระหว่างการดำเนินงานโครงการ เพื่อหาข้อดี
ข้อบกพร่องของการดำเนินงานตามขั้นตอนต่าง ๆ
ที่กำหนดไว้ว่า
การปฏิบัติงานเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้หรือไม่
กิจกรรมใดทำได้หรือทำไม่ได้เพราะเหตุใด
มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง
มีการแก้ไขปัญหาอย่างไร เป็นต้น
4. การประเมินผลผลิต
เป็นการประเมินเพื่อดูว่าผลที่เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือตามที่คาดหวังไว้หรือไม่
โดยอาศัยข้อมูลจากการประเมินสภาวะแวดล้อม
ปัจจัยเบื้องต้นและกระบวนการร่วมด้วย
เพื่อตรวจสอบว่าเกิดผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่
คุณภาพของผลลัพธ์เป็นอย่างไร
เกิดผลกระทบหรือผลข้างเคียงอื่นใดหรือไม่ เป็นต้น
การประเมินแบบ CIPP
เป็นการประเมินที่ครอบคลุมองค์ประกอบของระบบทั้งหมด
ซึ่งผู้ประเมินจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของการประเมินที่ครอบคลุมทั้ง
4 ด้าน
กำหนดประเด็นของตัวแปรหรือตัวชี้วัด
กำหนดแหล่งข้อมูลผู้ให้ข้อมูล กำหนดเครื่องมือการประเมิน
วิธีการที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
กำหนดแนวทางการวิเคราะห์ข้อมูล
และเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน
หากผู้ประเมินวางแผนและดำเนินการประเมินอย่างเป็นระบบและเหมาะสมก็จะทำให้การประเมินตามแผนและโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ดังที่กล่าวข้างต้นว่าการประเมินโครงการมีหลายรูปแบบ ผู้ที่จะทำผลงานทางวิชาการก็ลองพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบท เช่น การวิจัยและพัฒนา หรือการประเมินการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาก็อาจใช้รูปแบบของ Kirkpatrik เป็นต้น ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนี้ผมได้เขียนไว้ในบล็อกนี้แล้ว ในคำหลัก "บทความ "ธเนศ ขำเกิด"
-----------------------------------
สมคิด พรมจุ้ย เทคนิคการประเมินโครงการ
นนทบุรี สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
2544
สมประสงค์ วิทยาเกียรติ
“หน่วยที่ 8
การประเมินแผนและโครงการ” ใน ประมวลสาระชุดวิชา
นโยบายและการวางแผนการศึกษา
หน้า 190 นนทบุรี
สาขาวิชาศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
2543
สุพักตร์ พิบูลย์ กลยุทธ์การวิจัยเพื่อพัฒนางาน
วิจัยเพื่อพัฒนาองค์กร นนทบุรี จตุพรดีไซน์
2544
Stufflebeam, D.L., et al. Educational Evaluation and Decision –
Making, Illinois : Peacock Publishers., Inc., 1971.
ขอบคุณค่ะ
อ่านบทความของอาจารย์แล้วได้ความรู้มากเลย กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ข้อมูลแล้วดีใจมากเลยขอบคุณอาจารย์ธเนศมาก ที่มีบทความดี ๆให้เพื่อนครูได้อ่านได้ศึกษา
ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ในการประเมิน ด้วย CIPP นี้เราสามารถนำไปประเมินด้านการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา เช่น การประเมินหลักสูตร ซึ่งในปัจจุบันนี้สถานศึกษาทุกแห่งจะต้องมีการประเมินหลักสูตร เพื่อปรับปรุงและพัฒนา นอกจากนี้แล้ว ยังสามารถนำหลักการนี้ไปประเมินโครงการต่าง ๆ ของสถานศึกษาได้
สวัสดี ครับ ท่าน อดีต ผู้ช่วยหัวหน้าหน่วยศึกษานิเทศก์
.... ผมรัฐติพงศ์ ครับ ที่ขอเครื่องราชฯ ให้กับอาจารย์ครับ อ.สบายดีนะครับ ถ้า อ.จะดูภาพเก่า ๆ ของ หน่วยศึกษานิเทศก์ เข้าไปที่เว็บ www.google.com แล้วคีคำค้นหาว่า ประมวลภาพเพื่อนศึกษานิเทศก์ ก็จะปรากฎข้อความลิ้งขึ้นมา ให้ อ.คลิกลิ้งตรง ลำดับที่ 1 ในหน้าที่ 1 อ.ก็จะเห็นภาพเพื่อน ๆ ของ ศน.ทุกคน ทุกฝ่ายครับ ผมตั้งใจทำให้เพื่อน ๆ ศน.ทุกคนครับ
จำรัฐติพงศ์ได้เสมอ ตอนนั้นผมยังเป็น ผช.หศน. ตอนหลังผมได้เป็น หศนคนสุดท้าย แล้วปี 2546 ศธ.ก็ปรับโครงสร้างกระทรวงใหม่ยุบกรมสามัญศึกษา หน่วย ศน.เลยหายไปด้วย ...ได้ดูเว็บที่รัฐติพงศ์ทำแล้ว ดีมากเลย ทำให้ย้อนรำลึกถึงภาพเก่าๆ