ชมดาวเย้าหิ่งห้อย ลอยแพ แลนก ตกปลา หาหอยหลอด......ที่นี่สถานีสวี 2


เสน่ห์ของการล่องแพที่สวี

บันทึกก่อนนี้

             เมื่อหลานชวนล่องแพ  นั้นตื่นเต้นมาก   จินตนาการของแพไว้หรูเหมือนที่เคยไปล่องที่โรงแรมเฟลิกซ์  เมืองกาญจนบุรี    แต่เมื่อเห็นแพของ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านความตื่นเต้นลดลงมาหน่อยหนึ่ง  เพราะไม่ได้หรูเริดอย่างที่เคยไป  เป็นแพของชาวบ้าน  แพแบบบ้านๆ   แต่กลับมีเสน่ห์ยิ่งกว่าแพที่เฟลิกซ์   เสน่ห์ที่ว่าคืออะไร

 

สภาพแพของโรงแรมเฟลิกซ์เมื่อครั้งไปรับลมหนาวในนิราศอ้อมกอด

 

            เริ่มตั้งแต่เสน่ห์ของความบริสุทธิ์ใสซื่อของชาวบ้าน  ความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะทำ  ที่จะมอบให้กับแขกที่มาใช้บริการ   ความกังวลวิตกเรื่องราคา  กลัวว่าแขกจะรับไม่ได้ 

 

           เสน่ห์ของอาหารจากธรรมชาติ  จากทะเลสดๆ   ราคาถูกแสนถูก  รสชาติอร่อย  ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่า  อาหารทะเลจากฝั่งอ่าวไทยรสชาติอร่อยที่สุด    ตอนที่ครูภาทิพจองแพนั้น  ได้สั่งปลา กุ้งและหอยให้เขาเตรียมหาไว้ให้  ปรากฏว่าได้ปลากะพงตัวประมาณ 8 ขีด  ซึ่งชาวบ้านหามาได้โดยการแทงฉมวก   ปลากระบอกจากการวางอวน  4 ตัว ประมาณ 1.5  กก. ปลาทั้งหมด  300  บาทเท่านั้น   หอยกัน  เขาคิด  ตา(ตัว)ละ    40 สตางค์  กุ้งขาวซึ่งได้จากการแทงฉมวกเช่นกัน   งง!  ล่ะสิ   กุ้งตัวน่อย  แทงฉมวกได้อย่างไร   จะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป  กุ้งขาวเขาขาย  กก.ละ 300 บาท

 

 

หอยกัน กุ้งขาว และปูอบ รอคนหาหอยมาทาน

            เสน่ห์กิจกรรมบนแพ   เจ้าของแพเตรียมคันเบ็ดพร้อมเหยื่อไว้ให้   ประมาณ  5  คัน  บนแพมีเปลยวน  มีเก้าอี้สำหรับเอนนอน  เสื่อปูนอน    เก้าอี้ตามอัธยาศัย   น้ำแข็ง  เตาถ่าน  อุปกรณ์การปิ้งการต้มพร้อม   ในวันนั้น  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคุมเครื่องยนต์  ผู้ใหญ่บ้านลงมาช่วยปิ้งย่างอาหาร    ครูภาทิพลงแพช่วง 15.00  น.  เพราะ ผอ.ยงยุทธ  โชเฟอร์ที่จะนำคณะมาจากสุราษฎร์ธานี  ติดประชุม  ที่จริงลงได้ตั้งแต่ตอนเช้าถึงค่ำ   เมื่อเราอยากไปหาหอยหลอดจึงไม่อาจหยุดพักเพื่อจอดแพตกปลาระหว่างทางได้    กิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นจัดการกับเสบียงอาหารที่เตรียมมาพร้อมกับชมทิวทัศน์ 2 ฝั่งแม่น้ำสวีเฒ่า  ซึ่งล้วนแต่ต้นโกงกางกับลำพู  สลับกับการหาปลา หากุ้ง ตามวิถีดั้งเดิม    แม้แพนี้จะไม่หรูแต่ไม่ต้องกังวลเรื่องห้องสุขา   เขามีให้พร้อม มิดชิดดี   เป็นส้วมหลุมแบบโบราณ  คือแผ่นไม้ปูแล้วเจาะช่องไว้แต่พองามตามภาพ  มีน้ำสำหรับชำระไว้บริการพร้อม

สองสามีภรรยา  ผอ.ยงยุทธ  เชื้อบ่อคา โชเฟอร์ นำคณะจากสุราษฎร์ไปสวี
ส่วนภาพล่าง  อ.ราตรี  ภรรยา  หมดแรงจากการหาหอย

 

นอนชมดาวหยอกเย้าหิ่งห้อยที่ชายป่า

            สวรรค์ของการล่องแพคือเที่ยวกลับซึ่งเป็นเวลาค่ำ  หลังจากลาตะวันที่ดอนหอยหลอด  พอขึ้นแพ เราจะคว้าทุกอย่างที่ทานได้มาทานหมด  ซึ่ง พี่ๆ ที่ไม่ได้ลงไปเขาได้เตรียมอาหารไว้ให้เรียบร้อยคือ  ปูต้ม  หอยกันย่าง   หอยหลอดอบ  กินกับน้ำจิ้มแซ่บๆ ฝีมือพัฒนากร    เมื่อความมืดโรยตัวมา   เขาก็จะเปิดไฟจากแบตเตอรี่  ให้เราทำกิจกรรมต่างๆ  จนเรียบร้อย  เจ้าเวฟ  มัคคุเทศก์น้อยก็จะกระตุ้นว่าให้รีบทำธุระให้เสร็จ  จะได้ปิดไฟ  เปิดไว้เฉพาะไฟกะพริบเพื่อเป็นสัญญาณให้เรือที่ผ่านไปมาได้รับรู้   ทำไมหรือ  เขาบอกว่า  เดี๋ยวหิ่งห้อยจะเข้ามาในแพ   พวกเราก็รีบลงนอนแหงนหน้าขึ้นมองออกไปนอกหลังคา    โห !  ดาวเต็มท้องฟ้า  และสองข้างของป่าโกงกางและลำพู  ระยับระยิบไปด้วยแสงของหิ่งห้อย  ต้นที่แสงวิบวับน้อย น่าจะเป็นต้นโกงกาง   แต่ต้นแสงวิบๆๆ  จัดจ้าคงจะเป็นต้นลำพู  เหมือนใครมาเปิดไฟคริสมาสต์ไว้เลย   ที่กล่าวว่าสวรรค์เพราะภาพเช่นนี้เกิดขึ้นตลอดระยะทาง  แสงดาวกับแสงของหิ่งห้อยจรดกันอย่างงดงาม  หากไม่ภารกิจ   อยากจะนอนนิ่งๆ  เช่นนั้นตลอดคืน
 

              อย่างไรก็ตาม  ขณะที่ครูภาทิพอิ่มเอมไปกับความงดงามของธรรมชาติจากการล่องแพที่แม่น้ำสวีเฒ่า  เมื่อเห็นข่าวดอนหอยหลอดของสวี ที่ปรากฏจากโทรทัศน์  ก็หวาดหวั่นใจเหลือเกินว่าการไปเยี่ยมในโอกาสหน้า  ความงดงามเหล่านี้จะด้อยลงไป   กลัวจริงๆ   เพราะวันนั้นที่ครูภาทิพไปพบ  ก็มีเค้าลางให้หวั่นใจถึงความไม่ยั่งยืนของดอนหอยหลอด  ซึ่งครูภาทิพจะเขียนในโอกาสต่อไป

สุขาอยู่ท้ายแพ สะอาด มิดชิดดี   ต้องใช้เวลาที่เครื่องยนต์ติด จะได้ไม่มีเสียงรบกวนผู้อื่น ฮิฮิ

หมายเลขบันทึก: 257050เขียนเมื่อ 24 เมษายน 2009 12:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีค่ะครูภาทิพ

ชอบ และสนใจ การท่องเที่ยวแบบนี้มาก กลับมาเยี่ยมบ้านคราวใด จะต้องไปล่องแพที่เมืองกาญจน์เป็นประจำ เขื่อนศรีนครินทร์ก็เคยไป(ที่นี่น่ากลัว ไม่มีใครลงเล่นน้ำภูเขาทั้งลูกอยู่ใต้น้ำ)

คราวหน้าเลยหมายตาที่สวีนี่แหละ(ตามมาเป็นเหยื่อคำโฆษณาชวนเชื่อ ของคุณครูไง อิ อิ) อะไรก็ไม่เกี่ยงงอนอยู่แล้ว เพราะแม่ย่าก็ลูกทุ้ง ลูกทุ่งเต็มตัว ๑๐๐๐% แค่มีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย ก็จะไปหมดทุกที่นั่นล่ะ แล้วที่นี่มันธรรมชาติดี

เรื่องใหญ่ที่ติดขัด ก็คือแดนสุขาวดี เพราะแม่ย่าและญาติมิตร ล้วนมีพุง มันค้ำนั่งแบบนั้นก็หงายหลังตึงเลย ต้องเดือดร้อนคนมาหามอีก ที่สำคัญทำฝาเขาพัง มีทางใดมั้ยที่จะแก้ปัญหานี้(อย่าบอกให้กระโจนลงน้ำนะ นึกภาพไว้แล้ว ทำไม่ได้ง่ะ) โดยเฉพาะผู้ติดตามที่มาจากแดนไกล เคยสร้างวีรกรรมเอาไว้ เมือคราวไปแพที่เมืองกาญจน์ หลังจากนั้นไปไหน อันดับแรกเลยต้องตรวจเช็คแดนสุขาวดี นอกนั้นไม่เคยท้อถอยเลยค่ะ

สวัสดีครับคุณครู ภา

ท่องเทียวบ้านๆ เป็นความงดงามอีกแบบ และที่งามยิ่งคือการบริการห่วงใยด้วยความจริงใจ ถ้าชอบนิยมไพร ขอแนะนำที่ป่าต้นน้ำพะโต๊ะ จะขึ้นเขา พ่อตาโชงโดง หรือพ่อตามังเคร ล่อแก่ง เดินป่า ครบเครื่อง เรื่องลองของครับท่าน

มาอีกรอบ ขอเชิญ แม่ย่าด้วยครับ

จากใจจริงของพ่อเฒ่าครับ

สวัสดีค่ะวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--  คนคอเดียวกัน  ครูภาทิพเคยไปล่องแพที่พะโต๊ะมาเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วค่ะ  สนุกไปอีกแบบหนึ่งค่ะ  เป็นท่อพีวีซี  แต่เด็กหนุ่มที่นำแพไม่ค่อยจะระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัยซักเท่าไหร่ 

 

     ปัญหาของครูภาทิพคือ  เพื่อนๆร่วมคณะของครูภาทิพอายุเฉลี่ย 56 ปีนี่สิ  เขาไม่ค่อยจะสมบุกสมบันสักเท่าไหร่  มีครูภาทิพนี่ล่ะที่เอ๊าะสุดแล้ว  อิอิ   เมื่อไรมีก๊วนก็แจ้งมานะคะ  เผื่อว่ามีโอกาสแจมค่ะ 

ล่องแพแม่น้ำสวีหนุ่ม กับ แพ “ก.ก้าว”

ติดต่อสอบถามและจองแพได้ที่  084 – 0795963

บริการเฉพาะแพ

1.1 รอบกลางวัน ราคาเที่ยวละ 1,000 บาท (ปกติ 1,200.-)

08.00 – 12.00 น. และ 13.00 – 17.00 น.

1.2 รอบตลอดทั้งวัน ราคาเที่ยวละ 2,000 บาท

08.00 – 17.00 น.

1.3 รอบกลางคืน ราคาเที่ยวละ 1,500 บาท (ปกติ 2,000.-)

18.00 – 23.00 น. (ชมหิ่งห้อย + ตกปลา)

1.4 รอบเหมาทั้งคืน ราคาเที่ยวละ 3,000 บาท

19.00 – 05.00 น.

บริการพร้อมอาหารบนแพ (สามารถเลือกอาหารกล่อง/อาหารว่างได้)

2.1 จำนวน 25 ท่านขึ้นไป ราคาท่านละ 99 บาท

2.2 จำนวน 20 – 24 ท่าน ราคาท่านละ 119 บาท

2.3 จำนวน 15 – 19 ท่าน ราคาท่านละ 149 บาท

2.4 จำนวน 10 – 14 ท่าน ราคาท่านละ 169 บาท

2.5 จำนวน 5 – 9 ท่าน ราคาท่านละ 279 บาท

ราคานี้รวมค่าแพ + อาหารว่าง (เครื่องดื่ม+ขนมไทย) + อาหารกล่อง 1 มื้อ

ราคานี้เฉพาะเที่ยวกลางวันเท่านั้น

สำหรับเที่ยว 18.00 – 23.00 น. ค่าบริการเพิ่มท่านละ 80 บาท

บริการพร้อมอาหารจัดเลี้ยง (เฉพาะงานเลี้ยงรับได้ไม่เกิน 25 ท่าน / เที่ยว)

สำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ในโอกาสต่างๆ ติดต่อสอบถามได้

บริการอาหารทะเล (ปิ้ง-ย่าง-เผา), อาหารบุฟเฟ่ต์หลากชนิด

*ทุกรายการ กรุณาโทรจองและแจ้งการเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน

**วางเงินมัดจำค่าบริการ 50 % ในวันจอง

***กรุณามาถึงแพก่อนเวลาแพออก ประมาณ 20 นาที

บริหารงานโดย..........สามหนุ่มเพื่อชีวิต

คุณโสภณ ยุติมิตร

คุณชัยยุทธ ศรีพรหม

และ

คุณเจริญ พิศภิรมย์ (คุณสุดรัก)

“ฅนภูเขา”

(ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต เจ้าของผลงาน.....คนปาดตาล, อยู่กับกัง,ผิดหวังครั้งแรก ฯลฯ)

โทร.สอบถามและจองได้ที่เบอร์ 084 - 0795963

ขอบคุณแพ ก.ก้าว ที่มาให้ข้อมูลค่ะ   ทราบว่าเร็วๆนี้จะมีแพของครูเล็กบ้านคูสวนหมากกับเพื่อนๆอีกเจ้าหนึ่ง  อยากจะให้เป็นเชิงอนุรักษ์มากกว่านะคะ   ไม่อยากเห็นธรรมชาติถูกทำลาย  อยากเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขระหว่าง  เจ้าของกิจการกับ เจ้าของพื้นที่ที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุข

 

ไม่อยากให้เหมือนที่อัมพวา   ที่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว .....

ขอบคุณมากครับคุณครู ที่นี่ทำแบบวิถีชีวิตชาวบ้านกันเลย ไม่ได้มีการแข่งขันในด้านธุรกิจกันนะครับ

ขอรบกวนคุณครูช่วยแนะนำด้วยนะครับ

ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ

แพ "ก.ก้าว"

สวัสดีค่ะ ก เก้า  เดือนมีนาคม ถ้ากลับบ้าน  จะแวะไปหาข้อมูลแล้วนำมาเขียนให้ค่ะ

เมื่อต้นเดือน  น้องครูภาทิพ นำชาวสวีเดนล่องแพของ ลุงแสวง   เขาก็ประทับใจ

ในธรรมชาติ  แต่เขาไม่ค่อยมั่นใจในความปลอดภัยของแพ  

 

 

ส่วนแพครูเล็กนั้น หุ้นส่วน (อู๊ด แฟนของสานนท์)  ที่มีบ้านอยู่ตรงสะพาน

เป็นหลานของครูภาทิพค่ะ

สวัสดีครับ ครูภา แวะไปทักทายที่บ้านภาษาไทยมาแล้วครับ

แล้วครูมาที่นี้ต่อครับ

ขอทักทายคุณแพ กอ เก้า ผ่านบันทึกครูครับ ว่ามีมีเวลาจะชวนพักพวกไป แหลงไต้สักคืนครับ

ปลายเดือนมีนาคม  อาจจะว่าง  ได้ไปล่องแพ แลสาวหวีค่ะ

   บรรยากาศในแพ ก.ก้าว 

ขอบคุณทีมงานแพ ก. ก้าว  ที่มาให้ข้อมูลเพิ่มค่ะ   หากได้ภาพการจับกุ้งแม่น้ำหรือปูดำในแม่น้ำสวีนำมาโพสท์บ้างนะคะ

สวัสดีค่ะ พี่จุ๋ม ภาทิพ

ไม่ทราบว่าพี่จุ๋มจำน้องได้หรือเปล่า น้องมอญเคยสอนพระแสงวิทยา ตอนนี้ย้ายมาอยู่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย๒ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาแล้วค่ะ

น้องและเพื่อนๆ ชอบการท่องเที่ยวแบบนี้มาก เพราะมันเป็นธรรมชาติ เคยไปล่องแพที่ กรุงชิง กิ่งอ. นบพิตำ จ. นครศร๊ธรรมราช ทั้งสนุกและน่ากลัว เคยไปล่องแพที่ น้ำตกวังสายทอง จ.สตูล สวย สนุก น้ำใส ไม่น่ากลัว

ที่พี่จุ๋มไปเที่ยวมาก็น่าไปนะ ว่างๆจะลองถามสมาชิกดูเผื่อได้ไปเที่ยวมั่ง ไม่ทราบว่าไปล่องแพที่นี่ใช้เวลา กี่วันกี่คืน ช่วยให้ข้อมูลด้วย ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องมอญ  จำได้ค่ะ  ดีใจที่น้องแวะเข้ามา  ล่าสุด ปิดเทอมใหญ่ก็ไปยุโรป กับน้องอู๊ดเพชรี ไป ๒๒ วัน ๔ ประเทศ  ลองอ่านดูนะคะ

 

     แพที่กล่าวถึงอยู่ที่ อ.สวี จ.ชุมพร   มีแพหลายแพ  ที่พี่เคยนั่งเป็นแพขนาดเล็กของชาวบ้าน นั่งได้ ๑๐ คน ค่าบริการ ประมาณ ๑๓๐๐-๑๕๐๐ บาท ไม่รวมอาหาร  อาหารเราก็สั่ง  ปู ปลา กุ้ง  ให้เขาซื้อจากชาวบ้านแถบนั้นให้  ควรไปหน้าแล้งจะได้หาหอยหลอด

หน้าน้ำไม่สามารถหาหอยหลอดได้เพราะน้ำท่วม 

 

   ส่วนแพ ก.ก้าวที่นำมาประชาสัมพันธ์ก็เป็นอีกแพหนึ่ง ที่ล่องในแม่น้ำสวี   ราคาก็อีกระดับหนึ่ง   หากเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไปแพ ที่พี่ไปก็ดี 

   มีอีกแพเป็นแพขนาดใหญ่ ชื่อแพสวีหนุ่มรึสวีเฒ่า (ไม่มั่นใจ)  เป็นแพขนาดใหญ่ ราคาแพงกว่านี้   เขาไปจอดนอนทั้งคืน   มีปลากระโดดขึ้นมาบนแพด้วย   จะลองสอบถามราคาให้นะคะ  ดีใจที่เจอกันผ่านจอค่ะ

ขอบคุณพี่จุ๋มมากๆ ค่ะที่ให้ข้อมูล เมื่อตุลาคมปีที่แล้วน้องไปสุราษฎร์แวะหาป้าอู๊ดแต่ไม่เจอ คิดถึงป้าอู๊ดมากๆ ค่ะ

ส่วนพี่จุ๋มก็คิดถึงเช่นกัน แต่น้องเปิดเว็บของรร.สุราษฎร์อยู่บ่อยๆ อยากหาเมล์พพี่แต่ก็ไม่มี เลยพิมพ์ชื่อพี่ลงในgoogle เลยเจอบล็อกของพี่ ชอบมากๆค่ะ พี่จุ๋มยังขยันเหมือนเดิมจริงๆ น้องมอญอยากขอกขอเบอร์โทรป้าอู๊ดจากพี่ได้หรือเปล่าส่งทางเมล์น้องก้อได้ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องมอญ  พี่ข้ามบันทึกนี้ไปได้อย่างไรไม่ทราบขอโทษด้วย ส่วนเมล์น้องมอญ  มันไม่ปรากฏในบันทึกนี้

เมล์พี่ [email protected]

เมล์น้องอู๊ด  อู๊ด([email protected])  เบอร์โทรไม่กล้าให้ในนี้ค่ะ

ขอบคุณพี่จุ๊มมากที่ให้เมลของพี่และของพี่อู๊ด

คิดถึงมากๆๆๆๆจ้ะ

น้องมอญ

สวัสดีค่ะ น้องอำมอญ   วันนี้พี่อยู่ที่นี่ค่ะ

http://gotoknow.org/blog/tipstudy/412599

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท