จากการที่ได้ศึกษาธรรมะ และที่ได้ประสบกับตัวเอง พร้อมทั้งได้นำความรู้ที่ได้ มาใช้กับชีวิตประจำวัน ทำให้ได้รู้ว่า จริง ๆ แล้วสิ่งที่เราประสบกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือเรื่องร้าย มันมีผลสืบเนื่องมาจากการกระทำของตัวเราเองทั้งสิ้น ไม่ต้องมัวไปโทษเวรหรือโทษกรรม ต้องโทษที่ตัวเราเองมากกว่า ท่านลองนึกดูซิว่า ถ้าเราสามารถขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือเราได้แล้วทุกคนก็ต้องขอเหมือนกัน แต่ว่ามีใครบ้างที่ได้รับผลตามที่ต้องการ มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องกระทำผลถึงจะได้ตามปราถนา ซึ่งก็สุดแล้วแต่ว่าจะเลือกทำดีหรือทำชั่ว ถ้าทำชั่วผลที่ได้ก็คือ บาป คือความไม่สบายใจ ถ้าทำดี ผลที่ได้คือ บุญ คือความสุขใจ เพราะฉนั้นถ้าต้องการได้รับผลภายหน้าหรือชาติหน้าเป็นเช่นไร ก็ควรที่จะรีบทำเสียแต่บัดนี้เพราะว่าทุกคนไม่รู้วันตาย ฉนั้นเราจึงเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเราเองเลือกที่จะเกิดใหม่เองได้ด้วยตัวของเราเอง
ความเมตตา เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเจริญสมาธิวิปัสสนา
ตามที่บันทึกนั้นผมเห็นด้วย เมื่อเหตุเป็นเช่นไร ผลย่อมเป็นเช่นนั้น แต่ในบางครั้งบางขณะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถดลบันดาลในสิ่งที่เรามุ่งหวังให้ได้สมความปรารถนานะครับ จริง ๆ
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อคิดเห็นที่ท่านมอบให้ แต่สำหรับดิฉันแล้ว มีความเชื่อตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่าให้เราเชื่อมั่นในคุณงามความดีที่กระทำแล้วผลที่ดีก็จะตามมาดังคำกล่าวที่ว่า " ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม " ดิฉันไม่ได้เถียงความเชื่อของท่าน แต่เป็นความเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ให้ได้ก็คือความสบายใจ แต่ผลที่ได้ย่อมมาจากการที่ได้ทำไว้มากกว่า