Early Dectection (13) มะเร็งในช่องปาก ตอนที่ 5 รอยโรคที่ต้องมีการวินิจฉัย


 

รอยโรคอื่นๆ ที่ต้องวินิจฉัยแยกโรค ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เราอาจจะต้องวินิจฉัยแยกโรคว่า สมควรต้องทำอย่างไร

1. Traumatic ulcer แผลบาดเจ็บ พบบ่อย ถ้ารู้สาเหตุ เช่น กัดโดน ก็แยกได้ชัด ไม่น่ากังวล ถ้าหายภายใน 2 สัปดาห์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร บางทีช้อนหรือส้อมอาจไปโดน จากสาเหตุการแปรงฟันก็เป็นไปได้ ที่เพดาน อาจเกิดจากการรับประทานอาหารร้อนๆ ก็เป็นไปได้ และคนไข้จำได้ว่าสาเหตุ และลูกอมเม็ดแข็งๆ ก็ทำให้เกิดแผลบาดเจ็บได้ โดยเฉพาะบริเวณเพดาน

 

2. geographic tongue ตรงกลางมีการหลุดลอกของปุ่มรับรสที่ลิ้นเป็นหย่อมๆ เห็นเป็นรอยแดง ขอบรอบๆ มีการหนาตัวของเนื้อเยื่อเคราติน สีขาวๆ มีหลายตำแหน่ง และอาจมีอาการปวดแสบปวดร้อน ถ้ารู้ว่าเป็น geographic tongue ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจมีแสบบ้างบางครั้ง

 

3. แผลร้อนใน ลักษณะแผลกลม หรือรูปไข่ ลักษณะ typical คือ มีสีเหลืองตรงกลาง และมีขอบแดงๆ คนไข้อาจมีประวัติว่า เป็นทุกเดือน บางทีขอบอาจหยักนิดหนึ่ง ก็อย่าเป็นกังวล ซักประวัติว่า เขาเคยเป็นหรือไม่ เป็นบ่อยไหม หรือตามดู ควรหายใน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะแผลขนาดเล็ก อาจหายใน 1 สัปดาห์

 

แผลร้อนใน มีหลายแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นที่เนื้อเยื่ออ่อน คือ กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก ลิ้น เพดานอ่อน เช่น

  • ที่พบบ่อย เป็น minor aphthous ขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 ซม. พบที่เนื้อเยื่ออ่อน บริเวณริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม ลิ้น
  • Herpetiform พบเป็นแผลเล็ก คล้ายๆ herpes
  • major aphthous แบบนี้พบน้อยหน่อย อาจต้องให้เวลานานในการหาย เราอาจกังวลว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ต้องซักประวัติว่าเคยเป็นไหน เป็นแล้วหายไหม และติดตามดู อาจให้เวลา 2-3 อาทิตย์ในการหาย เพราะว่าเป็นได้ถึง 2 อาทิตย์ กว่าแผลจะหาย

 

4. Pyogenic granuloma มักเป็นก้อนเนื้อสีแดง หรือแดงจัดกว่ามะเร็ง อาจมีแผลร่วมด้วย แต่ว่า มะเร็งมักเป็นแผลที่เราไม่รู้สาเหตุ เพราะเป็นความผิดปกติในตัวเซลเอง แต่อันนี้ มักพบร่วมกับการมี pocket เป็นโรคเหงือกร่วมด้วย อาจต้อง x-ray ดูว่ามี bone loss หรือไม่ ก็แยกโรคได้ แต่ถ้าใหญ่ต้องตัด ก็จะได้อ่านชิ้นเนื้ออกมาด้วย เพราะลักษณะแผลอาจทำให้กังวล ดังนั้นการซักประวัติสำคัญ

 

5. pempigus / pempigoid pemphigus เป็นรอยโรคของตุ่มน้ำ แต่ความที่ตุ่มน้ำ ผนังบางมาก เพราะฉะนั้น ตอนที่คนไข้มาหาเรา มักไม่เจอตุ่ม เพราะว่าแตกก่อนแล้ว ลักษณะที่พบ จะเป็นเนื้อเยื่อรอบๆ มีเลือดออกเยอะๆ บริเวณเหงือก เป็นลักษณะ Typical พบได้เยอะ อาจจะขอบไม่เรียบ แต่ว่า เป็นกว้างมากที่บริเวณเหงือก ทำให้ไม่น่าสงสัยว่าเป็น cancer เพราะว่า cancer จะเป็นในตำแหน่งหนึ่ง แต่ pemphigus จะเป็นโดยทั่วไปเลย

 

ลักษณะที่ typical มาก คือ มีเลือดออกซึมๆ ตามขอบเหงือก เห็นอย่างนี้ให้นึกถึง pemphigus อย่างแรก pemphigoid ที่น่ากลัว คือ ถ้าเป็นที่ตา ทำให้ตาบอดได้ เพราะฉะนั้น ถ้าพบ ควร refer ให้แพทย์เฉพาะทางดู

Pemphigoid เป็นรอยโรคในกลุ่มเดียวกับ Pemphigus แต่บริเวณชั้นเนื้อเยื่อ epithelium จะอยู่คนละระดับกัน ผนังตุ่มน้ำจะหนากว่า เมื่อมาพบจะยังเห็นร่องรอยอยู่

6. Erythema multiforme (EM) สาเหตุเกิดจาก 2 อย่าง คือ ติดเชื้อไวรัส และเกิดเป็น EM ขึ้นมา และอีกอย่างหนึ่งคือ แพ้ยา เกิดเป็น Steven Johnson's syndrome ... EM เป็นอาการแรกของโรคนี้ ลักษณะ คือ มี erythema = แดง, multiforme = หลาย form ทั้ง เป็นแผล เป็นตุ่มน้ำ เป็นสะเก็ด ถ้าพบบริเวณริมฝีปาก คนไข้บวมๆ ลักษณะนี้ ให้นึกถึงการแพ้ยาไว้ก่อน ถ้ากินยาอะไรอยู่ก็ให้หยุด แต่ถ้าติดเชื้อไวรัสจะเป็นๆ หายๆ ผู้ป่วยจะรู้ตัวว่า ถ้าภูมิคุ้มกันไม่ดี ก็จะเกิดอีก

 

7. รอยโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส (Herpes virus infection) เป็นแผลตื้นๆ มีเล็กๆ คล้าย aphthous ulcer herpetiform อาจมีสีขาวปนอยู่ด้วย แต่ที่แตกต่าง คือ มักมีตุ่มน้ำใส และมักมีไข้ บริเวณที่เป็นก็ต่างกัน apthous เห็นเป็นที่เนื้อเยื่ออ่อน ที่ใต้ลิ้น แต่ Herpes มักพบที่เพดานแข็ง บริเวณนี้จะค่อนข้าง typical และริมฝีปาก ก็พบได้บ่อยมาก ถ้าผู้ป่วย เป็น Active Herpes ไม่น่าทำฟัน นัดมาวันหลังก็ได้ การนัดจะช่วย control การติดเชื้อ ส่วนใหญ่จะพบบริเวณข้างๆ molar หรือบริเวณเพดานแข็ง แต่ที่พบได้ คือ บริเวณริมฝีปาก ลักษณะจะน่ากลัว แต่ผู้ป่วยจะให้ประวัติได้ว่าเคยเป็นบ่อยๆ หน้าหนาว หรืออื่นๆ

 

8. รอยโรคอื่นๆ

-  Lympho edema ไม่ค่อยพบ เป็นเมือกขาวๆ

 

- nicotine stomatitis เพดานอักเสบ เป็นผลจากการสูบบุหรี่มากๆ นานๆ หรืออาจมีรอยแข็งบริเวณริมฝีปาก

 

    บริเวณที่วางบุหรี่ไว้ เป็น Keratosis

 

- chronic cheek biting การกัดแก้ม มักพบในเด็ก เป็นขาวๆ

- แพ้ยาสีฟัน เกิด contact dermatitis เห็นเป็นยุ่ยๆ สีขาวรอบๆ ริมฝีปาก

 

- เป็นแผลเรื้อรัง อาจน่ากังวลว่าเป็นแผลอยู่นาน ถ้าเป็นผู้ป่วยสูงอายุ อาจเป็นแผลเรื้อรัง เพราะภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี แต่ถ้าพบนานๆ ก็ควรตัด ถ้าผลบอกว่า chronic inflammation ก็ไม่เป็นอะไร

 

Oral hygiene อาจเข้ามามีส่วนด้วย เราก็ต้องทำความสะอาดเสียก่อน

รวมเรื่อง Early Detection

  

หมายเลขบันทึก: 256443เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2009 19:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะเพราะชอบเป็นอยู่บ่อยๆ

  • P
  • ขอบคุณค่ะ
  • โรคเหล่านี้ ต้องเน้นส่งเสริมป้องกัน ไม่ให้เกิดค่ะ
  • มาเยี่ยมกันอีกนะคะ
คุณหมอช่วยย่าผมที่

ย่าผมเป็นมะเร็งที่ช่องปากรักษาแล้วแต่ไม่หายขาดตอนนี้น่าจะอยู่ในระยะที่4เท่าที่ผมได้อ่านจากการหาข้อมูลใน google ครับ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดแล้วเขาก็ไม่รับ เคส นี้ครับ ทำไงดีครับติดต่อหรือไห้คำปรึกษาผมที่ครับ 083-8997355 หรืออีเมลด้านบนก็ได้นะครับ

  • 1316460
  • ให้คุณหมอที่ รพ. ส่งต่อ ให้หน่อยสิคะ เพราะการรักษามะเร็ง อาจต้องๆไปรับการรักษาที่ สถานบริการเฉพาะทางค่ะ

ถ้าโรคเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว

เราต้องดูแลตนเองและสามารถรักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้างอ่ะค่ะ

ที่ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนได้อ่ะค่ะ

  • สวัสดีค่ะ คุณ narak
  • เรื่องของการดูแลช่องปาก นอกจาก รู้จักเลือกอาหารการกินที่มีประโยชน์แล้ว ก็จะเป็นเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากค่ะ
  • นั่นก็คือ การแปรงฟันให้ทั่วถึง ซึ่งอาจต้องใช้ตั้งแต่แปรงสีฟัน ไหมขัดฟัน หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ในกรณีที่มีฟันซ้อน ฟันห่าง ใส่ฟันติดแน่น ใส่ฟันถอดได้
  • และในกรณีที่มีการอักเสบในช่องปากบ่อยๆ อาจต้องใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อควบคุมการติดเชื้อในช่องปากด้วยค่ะ ซึ่งคงจะต้องขอคำแนะนำจากทันตแพทย์ เป็นรายๆ ไปค่ะ

ตอนนี้หงือกหนูบวมมากตรงฟันกาม

ไป Xlay มาแล้วหมอบอกว่า เป็นหนองใต้รากฟัน แต่เอาไปบอกที่บ้าน

ที่บ้านให้อมเกลือแทนการักษาของหมอ

หนูต้องทำไงดีค่ะ

  • น้อง kwang25 คะ ...
  • ต้องไปหาหมอฟัน ให้ทำการรักษาให้แล้วละค่ะ จะได้หาย
  • อมเกลืออย่างเดียวไม่หายหรอกค่ะ อาจะทุเลา แต่ก็จะโอกาสเป็นใหม่ได้สูง
  • ถ้าปล่อยให้เป็นมากๆ ฟันกูจะต้องถูกถอนได้ในที่สุด
  • เพราะฉะนั้น ไปให้หมอรักษาให้ดีกว่านะคะ

ตอนนี้ในปากด้านขวาตรงระหว่างฟันคุตบนล่าง มีติ่งเนื้อเล็กๆรีๆยาวๆเป็นแผลอยู่ค่ะไม่รู้สึกเจ็บ ยกเว้นเราไปยุ่งกับมันเยอะๆ ตอนแรกเป็นร้อนในก่อน เจ็บมากเพราะอยู่ซอกเหงือกในสุดพอดี ช่วงนั้นหนูเป็นร้อนในบ่อยเพราะพักผ่อนน้อย+เครียด ทำงานส่งอาจารย์ค่ะ พอหายก็กลายเป็นติ่งอย่างที่บอกค่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท