• ผมฝึกตัวเองให้มีชีวิตอยู่ตามภาพปริศนาธรรม
ในโรงมหรสพทางวิญญาณ ที่สวนโมกข์
คือมีชีวิตอยู่กับสิ่งที่ยั่วกิเลส
โดยไม่ถูกกิเลสเผาไหม้ ในทำนอง “อยู่เย็น
ในท่ามกลางสังคมที่ร้อนไปด้วยกิเลส”
• ไม่มีใครทำเป็น หรือเก่ง “อยู่เย็นในกองไฟ”
มาแต่เกิด ทุกคนต้องบำเพ็ญเพียร ศึกษา / เรียนรู้
จากการปฏิบัติ ด้วยกันทั้งสิ้น
• ผมบอกรับนิตยสารภาษาอังกฤษ 3 ฉบับ คือ Time, The Economist และ
Fortune ภาษาไทย 1 ฉบับ
คือมติชนสุดสัปดาห์ หนังสือพิมพ์เฉพาะวันเสาร์ –
อาทิตย์ 1 ฉบับ คือ The Nation
ทุกฉบับเต็มไปด้วยโฆษณาที่กระตุ้นยั่วยุกิเลส
เปิดไทม์ หน้าแรกถัดจากปกเป็นโฆษณานาฬิกาโรเล็กซ์ เต็มสองหน้า
ผมสงสัยว่าเวลาเราซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ที่เป็นสินค้าแบรนด์เนมเช่นนี้
เราจ่ายค่าผลิตสินค้าคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของที่เราจ่าย
ผมเดาว่าค่าโฆษณาและค่ากำไรของผู้ขายน่าจะมากกว่าค่าผลิตหรือต้นทุนของสินค้าจริงๆ
• ใบโฆษณาสินค้าในนิตยสารสำหรับผู้หญิง (ภาษาไทย)
ยิ่งมีโฆษณามาก
บางชิ้นเข้าข่ายหลอกลวง
เช่นโฆษณาแชมพูบางชนิด
โฆษณาครีมหน้าขาว
ผมสงสัยว่าหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค ควบคุมการโฆษณา
ยอมให้มีโฆษณาแบบนี้ได้อย่างไร
และวงการวิชาชีพสื่อสารมวลชน / โฆษณา
ยอมให้มีการละเมิดจริยธรรมนี้ได้อย่างไร
• ฝึกให้หยุดอยู่แค่สงสัย
และถ้ามีโอกาสก็จะถามผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
แต่อย่าเข้าไปแบกมันไว้ จะหนักและทุรนทุราย
• ต้องฝึกอยู่กับความหลอกลวงอย่างรู้เท่าทัน
และไม่ตกเป็นเหยื่อ อาจเรียกว่า
“สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ตนเอง”
• ครอบครัวเรา หาทางช่วยให้ลูกๆ
สร้างภูมิคุ้มกันต่อสิ่งหลอกลวงเหล่านี้ด้วย
แต่นี่เป็นมายาอย่างหยาบเท่านั้น
• มายาอย่างละเอียดมีอีกมากมาย อยู่ในรูปของ “กิน กาม
เกียรติ”
มายาอย่างหยาบคนอื่นเอามาหลอกเรา
แต่มายาอย่างละเอียดเราสร้างขึ้นหลอกตัวเอง
เหมือนเราสร้างเขี้ยวงูและฉีดพิษใส่ตัวเองทุกวันๆ
• คนเราจะอยู่อย่างพอเพียงได้ ต้องฝึกตัวไม่ให้ถูกพิษจาก
“เขี้ยวงู” และที่สำคัญกว่านั้น ต้องไม่
“ปลูกเขี้ยว” ภายในตน และฉีดพิษใส่ตนเอง
วิจารณ์ พานิช
๑๙ เมย. ๔๙
ระหว่างนั่งรถไปเลือกตั้ง สว.
การดำเนินชีวิตและมุมมองต่อชีวิตของ อาจารย์น่าศรัทธายิ่ง ขอคารวะงามๆ จากก้นบึ้งของหัวใจค่ะ