เยือนนครวัด 1 : วันแรก


         คุณหมอสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ พาสมาชิกของ มสช. (มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ) ไปพักผ่อนและทัศนศึกษากัมพูชา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ นครวัด    เมื่อเอ่ยปากชวนผม ผมก็รับทันที    และเมื่อผมเอ่ยปากชวนคนใกล้ชิดที่สุดในครอบครัว ๔ คน ก็พร้อมใจไปกันทั้งหมด    คือ ภรรยา ลูกสาว ๒ คนโต กับพี่สาวภรรยา     ทีมหมอสมศักดิ์เขาไปรถ    แต่ผมเห็นว่าทีมผม ๕ คน มีคนแก่ถึง ๓ คน จึง ขอไปเครื่องบิน แม้ค่าเครื่องบินจะแพงจับจิต    แต่ผมจำได้ว่าเคยอ่านนานแล้ว ว่าการไปเที่ยวนครวัดต้องเดินมาก  การรักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรงจึงเป็นเรื่องสำคัญต่อการที่จะได้เดินดื่มด่ำกับความมหัศจรรย์ของโบราณสถานได้เต็มที่
          เท่ากับทีมผมเป็นลูกทีมของ มสช. อีกที     เราไม่ได้ติดต่อบริษัททัวร์โดยตรงเลย
ต่อไปนี้เป็นไดอารี่ที่ผมบันทึกตามที่สามารถบันทึกได้    วันแรกๆ บันทึกละเอียดหน่อย    วันท้ายๆ หมดแรง   บันทึกสั้นลงเรื่อยๆ จนไม่ได้บันทึกตอนนั่งเครื่องบินกลับ 

         
ถ่ายจากเครื่องบิน - ที่ราบลุ่มริมตนเลสาบยามพลบ     ส่วนหนึ่งของทีมที่เดินทางโดยเครื่องบิน 

วันที่ ๓ ธ. ค. ๔๘
         ก่อนออกจากบ้าน ๑๐ นาที ผมเข้าอินเทอร์เน็ต เข้าไปที่ www.wikipedia.org ดาวโหลด เรื่อง Cambodia กับ Angkor Wat ใส่คอมพิวเตอร์ เอาไว้อ่าน   ทำให้ได้เรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานของกัมพูชาและนครวัดไว้ล่วงหน้า    จุดเด่นของกัมพูชาในสายตาของผม
• มหาอาณาจักรขอม ซึ่งรุ่งเรืองอยู่เป็นเวลา ๖๐๐ ปี    มาเสื่อมไปเมื่อ ๖๐๐ ปีที่แล้ว (พร้อมๆ กับสยามเข้มแข็งขึ้น)    เป็นอนุสติว่าทุกสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอน    โบราณสถานที่เราจะไปเยี่ยมชมเป็นผลผลิตของอารยธรรมนี้    และที่ผมประทับใจที่สุดคือสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (ค. ศ. ๑๑๘๑ – ๑๒๑๘) ที่ทรงเปลี่ยนศาสนาจากฮินดูมาถือพุทธมหายาน    คือเปลี่ยนจากถือว่าพระเจ้าแผ่นดินเป็นเทวราชามาเป็นธรรมราชา     พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ จึงมุ่งเป็นพระโพธิสัตว์    นำไปสู่การให้ทาน    การให้ความเมตตาแก่ประชาราษฎร์     มีการสร้างโรงพยาบาล (อโรคยาศาล)  ไว้บริการประชาชน
• เหยื่อของการต่อสู้ระหว่าง ๒ มหาอำนาจโลก    กลายเป็นสมรภูมิตัวแทน    ในสมัยสงครามเวียดนาม
• ประวัติศาสตร์ทมิฬของการเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์    เพื่อ “ทำความสะอาด” มนุษย์จากความชั่วร้ายของลัทธินายทุน และ “มิจฉาทิฐิ” ของคนมีการศึกษา     เป็นอาชญากรรมของเขมรแดง    ผมอยากไปดูร่องรอยของยุคนี้สำหรับเป็นอนุสติ ว่าความหลงของมนุษย์ มีผลน่าสลดใจได้ถึงเพียงนี้  
• ร่องรอยของการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสอยู่ ๙๐ ปี
• เปรียบเทียบสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนของกัมพูชา กับไทย ในสมัยปัจจุบัน

         บริษัททัวร์ที่ทีมหมอสมศักดิ์ใช้ คือ Tour Link International มีการทำงานแบบมาตรฐานต่ำ     ไม่ professional     เขานัดให้เรามาเวลา ๑๒.๐๐ น.    เรามารอตรงเวลา แต่พนักงานมาเวลา ๑๒.๓๐ น. และเอาเอกสารท่องเที่ยวมาให้ โดยที่ระบุว่าให้เรามาเวลา ๑๒.๓๐ น.    เรื่องความแม่นยำของเวลา และการนัดนี้ ผมใช้เป็นดัชนีบอกคุณภาพคน และคุณภาพขององค์กร    
         ปัญหาหนักกว่านั้น     ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ไปขอบัตรขึ้นเครื่องบินจากบางกอก แอร์เวส์    ไม่มีชื่อผมอยู่ในรายชื่อผู้โดยสาร     เจ้าหน้าที่บอกแต่ว่าเฉพาะผมขอให้รอก่อน    คนอื่นๆ ให้เข้าไปในห้องรอผู้โดยสารขาออกได้    รออยู่นานมากเจ้าหน้าที่ทัวร์ก็มาบอกว่าต้องรออีกครึ่งชั่วโมง แต่ได้ไปแน่     ได้แก้ปัญหากับบริษัทจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว มีชื่อผมแล้ว แต่ต้องรอหมายเลขตั๋ว     เมื่อซักหนักเข้าจึงบอกว่าบริษัททัวร์ใช้บริการของบริษัทจองตั๋วอีกทอดหนึ่ง     เขาว่าเป็นความบกพร่องของบริษัทจองตั๋ว
         อีกปัญหาหนึ่ง อันนี้บริษัท Tour Link International จะโทษคนอื่นไม่ได้เลย    คือเขาออกรายการทัวร์ระหว่างวันที่ ๓ – ๖ ธ. ค. ให้กับทาง มสช.    และ มสช. แฟกซ์มาให้ผมอีกต่อหนึ่ง     ในรายการระบุว่าบ่ายวันที่ ๖ จะพาไปชมวัดศุภมงคล  ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเก็บกระดูกชาวเขมรที่ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์     เดิมผมจะกลับเครื่องบินเที่ยว ๑๕ น. ก็จะไม่ได้ชมพิพิธภัณฑ์    ผมจึงเลื่อนเที่ยวกลับเป็น ๒๐ น. เพื่อไปชมรายการนี้    ซึ่งก็ไปตรงกับเที่ยวกลับของคุณหมออมรศรี ภรรยาหมอสมศักดิ์และคณะรวม ๔ คน     แต่ในเอกสารชุดใหม่ระบุว่า บ่ายวันที่ ๖ ให้ไป    ช็อปปิ้ง ซึ่งเราไม่สนใจ    เขาบอกว่าวัดศุภมงคลอยู่ห่างไปทางศรีโสภณ ซึ่งต้องวิ่งย้อนห่างไปจากเสียมราฐ    ผมขอต่อรองว่าเนื่องจากเขามีรถตู้สำหรับคณะหมออมรศรีและคณะผมรวม ๙ คนอยู่แล้ว ก็ขอให้พาเราไป    ซึ่งหมออมรศรีก็เห็นด้วย    เจ้าหน้าที่ต้องโทรศัพท์ไปเจรจาก็เป็นอันตกลง     ได้ความว่าบริการที่กัมพูชาเป็นของอีกบริษัทหนึ่ง     บทเรียนก็คืออย่าใช้คนอื่นในการติดต่อบริษัททัวร์    เพราะจะไม่เอาใจใส่การต่อรอง    และคุณสมบัติประจำตัวบริษัททัวร์โดยทั่วไป คือ “เขี้ยว”     ข้อความข้างต้นผมบันทึกระหว่างนั่งรอที่สนามบินดอนเมือง คงจะมีส่วนที่ผมอารมณ์บูดอยู่ด้วย    ในวันสุดท้ายของการเที่ยวคุณหมออมรศรีเอ่ยถึงเจ้าของบริษัททัวร์นี้ว่าพูดง่าย     และในวันสุดท้ายเขาก็ยอมพาเราไปกินอาหารเย็น (ซึ่งไม่มีในรายการ) ก่อนพาไปขึ้นเครื่องบินกลับ    ความขลุกขลักทั้งหลายอาจเกิดจากการที่ผมไม่ได้เจรจาต่อรองกับบริษัททัวร์เองก็ได้
          ได้บัตรขึ้นเครื่องเวลา ๑๔.๓๐ น.    โดยเลื่อนเวลาเครื่องออกจาก ๑๔.๕๐ เป็น ๑๕.๓๕ น.    สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส มีห้องพักให้ผู้โดยสารทุกคนเข้าไปนั่งพัก กินของว่างและเครื่องดื่ม อ่านหนังสือพิมพ์     อยู่ใกล้ๆ กับร้านแม่ฟ้าหลวง ของอาคาร ๒     ในที่สุดเครื่องออก ๑๖.๓๐ น.    เครื่องบิน ATR – 72  จำนวน ๗๒ ที่นั่ง     ผู้โดยสารเต็ม     ร้อยละ ๘๐ เป็นฝรั่ง     บริการบนเครื่องบางกอก แอร์เวย์ส ดูจะดีกว่าของการบินไทย
         เมื่อใกล้ถึงเสียมราฐ (เสียมเรียบ) มองเห็นข้างล่างเป็นบริเวณน้ำหลากเต็มไปหมด ต่อเนื่องไปยังทะเลสาบ    ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย    สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน    และนี่คือที่มาของอารยธรรมนครวัด     และน่าจะเป็นสาเหตุของความล้าหลังของกัมพูชาในปัจจุบันด้วย    
         เครื่องบินลงพร้อมกัน ๓ ลำ    อีก ๒ ลำเป็นสายการบินเวียดนาม    ลำใหญ่ขนาดแอร์บัส ๓๐๐    ห้องตรวจคนเข้าเมืองจึงมีคนแน่นมาก    แต่เราก็ไม่ช้ามากนักด้วยความคล่องแคล่วของต้อง (ลูกสาว) สามารถวิ่งไปยังคิวใหม่ที่คนไม่มากและได้ลำดับต้นๆ    กระบวนการตรวจลงตราหนังสือเดินทางช้า     ต้องลงตรา ๕ ตรา ในเอกสาร ๓ ชุด ๒ เที่ยว     สายพานส่งกระเป๋าออกแบบผิด ให้วิ่งเลียบผนังห้อง คนมุงแน่น ดูยากมาก    การรับกระเป๋าจึงโกลาหล
         ออกมานอกอาคาร ถนนโรยหินเกล็ด    ไกด์ชื่อคุณซอมารับด้วยรถบัสกลางขนาด ๓๒ ที่นั่ง     โรงแรมอยู่ห่างออกไป ๑๐ กม.    ถนนชื่อถนนสาย ๖ คุณภาพดี    ถึงโรงแรม Angkor Star Hotel Siem Reap เวลา ๑๘.๕๐ น.
         คณะที่มาทางรถก็เพิ่งมาถึง รวมใช้เวลาเดินทาง ๑๒ ชม.    ต้องมารอที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ๓ ชม.    และที่สะพานขาดระหว่างทางจากปอยเปตมาเสียมราฐอีก ๓ ชม.    ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทยคณะที่มากล่าวว่ามีการรับสินบนช่วยให้ผ่านได้เร็ว     เพราะคนแน่นและเจ้าหน้าที่ทำงานสาย เริ่มตั้ง ๙ น.    คือเจ้าหน้าที่รู้ว่าวันหยุดยาวคนจะแน่น แต่ก็ไม่ปรับการทำงาน    ปล่อยให้คิวยาวคนรอนาน จะได้มีโอกาสได้สินบน    หมอสมศักดิ์บอกว่าเห็นมีคนจ่าย ๒๐๐ บาท    ไกด์กัมพูชาก็ยืนยันราคานี้    นี่เขาเล่านะครับ ผมไม่ได้ประสบเอง     กพร. สนใจการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของข้าราชการที่ด่านอรัญประเทศไหมครับ  
         ออกไปกินอาหารไทย ที่ร้าน Chiangmai Thai Food  ร้านคนไทย    อาหารอร่อย    มากัมพูชาต้องกินปลา    เพราะนี่คือแหล่งปลาน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ยิ่ง    อาหารมีปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม    ปลาแห้งต้มโคล้งรสแซ่บมาก 
         ที่โรงแรมได้ดูทีวีไทยเหมือนอยู่เมืองไทย    เพราะมี UBC    ที่ภัตตาคารแฟนแดจังกึมสดชื่นกันทั่วหน้าเพราะเขาเปิดให้ดูรายการนี้จากเมืองไทย  
         เสียมเรียฐเป็นเมืองใหญ่อันดับ ๓ รองจากพนมเปญ  และสีหนุวิลล์    เป็นเมืองที่เติบโตขึ้นมาเพราะการท่องเที่ยวโดยแท้    ในช่วงเวลา ๑ ปี มีโรงแรมใหม่ๆ ขนาด ๕ ดาว เกิดขึ้นมากมาย    ธุรกิจรองลงมาคือการก่อสร้าง และค้าวัสดุก่อสร้าง    ซึ่งร้อยละ ๙๐ เป็นของคนไทย    คุณซอบอกว่าประชาชนเสียมเรียบยากจนเป็นอันดับ ๓ ของประเทศ ซึ่งมี ๒๔ จังหวัด และ ๒ เมือง คือพนมเปญกับสีหนุวิลล์
         ผมถามคุณซอเรื่องอโรคยาศาล ซึ่งคือโรงพยาบาลที่สร้างไว้ให้บริการประชาชนโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗  เมื่อ ๘๐๐ ปีมาแล้ว    คุณซอบอกว่าจะพาไปดู ปราสาทนาคพัน เป็นโรงพยาบาลที่รักษาด้วยสมุนไพรและวิธีการแผนโบราณ    ดร. วณีเคยมาที่นี่และเคยไปดูอโรคยาศาล    บอกว่าไม่ใช่ปราสาทนาคพัน    พรุ่งนี้จะได้เห็นเพราะเป็นทางผ่าน 


 

หมายเลขบันทึก: 25483เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2006 10:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2012 20:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
    เมื่อปีที่แล้วได้มีโอกาสเดินทางไปที่กัมพูชา (นครวัด-นครทม) และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีก 2-3 แห่งในกัมพูชา  แต่เดินทางโดยรถบัสค่ะบรรยากาศในการเดินทางค่อนข้างทรหดมากๆ  และสถานที่ท่องเที่ยวในกัมพูชาค่อนข้างที่จะต้องใช้แรงกายในการเดินชมค่อนข้างมาก  แต่เมื่อทราบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และความอลังการของสถานที่ที่ได้ไปชมสร้างความประทับใจและทำให้หายเหนื่อยค่ะ
     เมื่อปีที่แล้วได้มีโอกาสเดินทางไปที่กัมพูชา (นครวัด-นครทม) และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีก 2-3 แห่งในกัมพูชา  แต่เดินทางโดยรถบัสค่ะบรรยากาศในการเดินทางค่อนข้างทรหดมากๆ  และสถานที่ท่องเที่ยวในกัมพูชาค่อนข้างที่จะต้องใช้แรงกายในการเดินชมค่อนข้างมาก  แต่เมื่อทราบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และความอลังการของสถานที่ที่ได้ไปชมสร้างความประทับใจและทำให้หายเหนื่อยค่ะ
วัลลภ พรเรืองวงศ์
  • ขอขอบคุณอาจารย์...
  • อ่านสนุก ภาพชัด ได้ทั้งข้อคิด ความรู้ และความเห็น
  • ขอโอกาส... ถ้าอาจารย์แบ่งย่อหน้ามากกว่านี้หน่อย (กด Enter ทุกๆ 2-3 บรรทัด) จะทำให้อ่านง่ายกว่านี้
  • บทความตอนที่ 1 นี่... ผมคัดลอกไปปะที่อื่น แบ่งย่อหน้าใหม่ ดูจะอ่านง่ายขึ้นมาก
  • รออ่านตอนต่อไปครับ...

   ขอบพระคุณที่ท่านได้บันทึกอย่างละเอียด  อ่านไปได้ทั้งแง่คิดและความรู้ดีมากครับ..
   ชอบ " ความขลุกขลักทั้งหลายอาจเกิดจากการที่ผมไม่ได้เจรจาต่อรองกับบริษัททัวร์เองก็ได้
   ทั่วไปพวกเรามักจะพลาดกันที่จุดนี้ พบปัญหาใดก็มักมองออกนอกตัวหาแต่เหตุว่า."ใครนะเป็นคนก่อ" โดยลืมคิดว่าบางทีก็มาจากตัวเรานั่นเอง เตือนสติดีมากครับ  ในแง่ของการมองอะไรอย่างรอบด้าน และการไม่ให้ความพิเศษกับตัวเองจนเสียหลัก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท