วันนี้ดิฉันไปประชุมเรื่องการติดตามการใช้งบประมาณซึ่งเป็นวัฒนธรรมของข้าราชการที่จะต้องทำงานภายใต้กรอบเวลา สิ่งทีเป็นปัญหาขณะนี้คืองบวิจัยที่มีปัญหาของความล่าช้าของระบบ ทุกคนจะบ่นกรม ท่านรองแจ้งว่าในปีหน้าเราน่าจะได้งบเท่าปีนี้แต่เงินเดือนของเราเพิ่มไปตามระบบเพราะคนปรับซีบ้าง เงินเดือนขึ้นตามระบบบ้าง แปลว่าปีหน้าเรามีเงินใช้น้อยลงอีกแล้ว คนไข้เราก็เปลียนรูปแบบเพราะโครงการ30บาทรับรักษาผู้ป่วยเอดส์ ระบบส่งต่อยังไม่แข็งแรงดี เรายังต้องพัฒนาอีกมาก คิดแล้วก็หนักใจเรื่องการเจรจาของบประมาณเพื่อมาให้ผู้ป่วยที่ไม่พร้อมจะย้ายด้วยเหตุผลหลายประการ บางคนอุตส่าห์ไปหางานทำเพื่อจะได้มาใช้ประกันสังคมบำราศ บางคนบอกว่าจะจ่ายเงินเอง ดิฉันจะพยายามให้คนไข้เสียประโยชน์น้อยที่สุดโดยพยายามเจรจาเรื่องงบประมาณให้พอ ยังไม่แน่ใจว่าจะเจรจากับอาจารย์เรณูสำเร็จ เพราะต้องพูดกันด้วยตัวเลข Unit cost และสิทธิผู้ป่วย คนที่ไม่มีบัตร สปสชจะไม่ช่วยเลย บุคคลเหล่านี้ยังไม่มีเจ้าของ พวกเราอ่านแล้วขอให้ประหยัดหน่อยนะคะ เพราะเรายังต้องช่วยผู้ป่วยไปอีกระยะหนึ่ง(นานแค่ใหน?)
จากที่แมวทำงานที่OPD ได้คุยกับคนไข้หลายๆคนมักจะไม่มั่นใจในการจะไปรักษาตามสิทธิ 30 บาทกลัวจะได้รับยาไม่เหมือนกัน และกลัวการถูกปฏิเสธ มีบางคนไปติดต่อแล้วไม่ได้รับยาทำให้ขาดยาไปก็มี จะกลับมาบำราศนราดูรก็ไม่กล้า จนกระทั่งทนไม่ไหวก็ต้องพาสังขารมาที่บำราศฯ เพราะคิดว่าที่นี้เป็นที่พึ่งสุดท้ายของพวกเขา แมวไม่ทราบว่า สปสช. ทราบปัญหาเหล่านี้หรือเปล่าคะ
ประหยัดพลังงาน ปลดหลอดไฟออก แสงสว่างไม่พอทำงาน เจ้าหน้าที่สายตาเสีย ใครรับผิดชอบ หันไปมองบางที่ มี TV ไมโครเวฟ แบบนั้นทำไมไม่สั่งเอาออก
ประหยัด ประหยัดได้ ถ้าทำให้ถูก
แต่ละหน่วยเสนอมาได้เพราะเป็นความสมัครใจของหัวหน้าตึกค่ะ