การประชุมเครือข่ายฯสัญจรฯ ครั้งที่ 3/2549


การที่จะแก้ไขปัญหา เราจะต้องรู้ข้อมูลกันตั้งแต่เรื่องยอดจำนวนสมาชิก สมาชิกเข้า-ออก เพราะ มันจะส่งผลต่อการคิดค่าเฉลี่ยความเสี่ยง รวมทั้งมันจะส่งผลถึงการมองว่าสมาชิกเพิ่มขึ้นหรือลดลง การรายงานตัวเลขสมาชิกมันจะสะท้อนให้เห็นว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร จะได้แลกเปลี่ยนกันได้

      พรุ่งนี้จะเป็นวันประชุมเครือข่ายฯสัญจรประจำเดือนค่ะ  ความจริงต้องจัดตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน  ที่ผ่านมาแล้ว  แต่เนื่องจากติดเทศกาลสงกรานต์ก็เลยเลื่อนลงมาค่ะ  นี่เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของการทำงานชุมชนที่สามารถยืดหยุ่นได้  แต่ก็นั่นแหล่ะค่ะ  ภายในข้อดีก็มีข้อเสียเหมือนกัน  ผู้วิจัยจะนำมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อๆไปค่ะว่าในเดือนนี้การประชุมเป็นอย่างไรบ้าง  แต่ตอนนี้เรามาดูการประชุมเมื่อเดือนที่แล้วก่อนดีกว่าค่ะว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร

       วาระที่ 4 เรื่องเสนอเพื่อทราบ (ต่อ)

       ประธานโยนคำถามต่อจากเมื่อสักครู่นี้ว่าคนอื่นมีรายงานความก้าวหน้าไหมครับ ไม่ต้องรายงานเหมือนเมื่อกี้นี้ก็ได้ เอาในองค์กรของตนเองเลย

       ลุงมนุษย์ เริ่มต้นโดยการรายงานว่า กลุ่มบ้านศรีบุญเรือง (น้องใหม่ล่าสุดค่ะ) ตอนนี้มีสมาชิก 80 คนแล้วครับ ประธานจึงบอกว่า ให้ส่งรายงานฐานะการเงินให้เรียบร้อย

       อ.ธวัช รายงานว่า ตอนนี้กลุ่มของผมมีกลุ่มที่แยกออกไป คือ กลุ่มพระบาทวังตวง แยกไปตั้งแต่เดือนมกราคมแล้วครับ สำหรับสมาชิกของกลุ่มนี้ถึงเดือนมีนาคมมีประมาณ 185 คน ส่งเงินสวัสดิการคนทำงาน 40 บาท/คน/ปี มาแล้ว ประธานจึงถามว่า แล้วกลุ่มนี้จะมาเชื่อมประสานกับทางเครือข่ายฯไหม? อ.ธวัช ตอบว่า ยังไม่ได้ถามในเรื่องนี้เลย ประธานจึงบอกว่าให้จัดการให้เรียบร้อย เพราะ เดี๋ยวจะยุ่งเหยิงถ้าไม่เรียบร้อย

      จากนั้นประธานบอกว่าอยากให้รายงานเป็นระบบ หลังจากนั้นก็เรียกทีละกลุ่มให้รายงาน เริ่มต้นที่กลุ่มนาก่วมใต้ตอนนี้กลุ่มมีสมาชิกกี่คน เข้ากี่คน ออกกี่คน ปรากฎว่าคณะกรรมการของกลุ่มตอบคำถามไม่ได้ ประธานจึงสรุปว่า กลุ่มนี้ยังไม่เรียบร้อย หลังจากนั้นก็กล่าวต่อว่า ถ้าเป็นอย่างนี้จะคิดค่าเฉลี่ยความเสี่ยงได้อย่างไร นี่คือ ปัญหา

      ต่อไป คือ กลุ่มบ้านต้าสามัคคี จากสิ้นปี 2548 ยอดยกมา 189 คน จนถึงปัจจุบันมีสมาชิกเข้ามาใหม่ 12 คน รวมแล้ว 198 คน

      บ้านพระบาท 1.. คน (ฟังไม่ชัดค่ะว่าเป็นเท่าไร่) ไม่มีคนเข้า-ออก

      สำหรับบ้านป่าตัน ยอดยกมาจากเดือนกุมภาพันธุ์มี 456 คน เข้าใหม่เดือนมีนาคม 10 คน ขาดสมาชิกภาพ 2 คน เหลือ 464 คน

       เกาะคา มีสมาชิก 364 คน

      บ้านดอนไชย ยอดถึงเดือนมกราคมสมาชิกที่ตาย/ออก/ขาดสมาชิกภาพ 96 คน เหลือ 2,019 คน

      ส่วนบ้านเหล่า (เมือง) ยอดถึงเดือนกุมภาพันธ์มีสมาชิก 155 คน เข้ามาอีก 5 คน เป็น 160 คน สำหรับเดือนมีนาคมเข้ามาใหม่ 1 คน เป็น 161 คน

       บ้านเอื้อม สมาชิกถึงเดือนกุมภาพันธุ์ 381 คน เข้าใหม่ 3 คน ขาดสมาชิกภาพ 1 คน ดังนั้น จึงมีสมาชิกทั้งสิ้น 383 คน

       วังเคว้ง ยอดยกมาจากเดือนกุมภาพันธุ์ 166 คน เสียชีวิต 1 คน ดังนั้น ยอด ณ เดือนมีนาคมมี 165 คน

      แม่พริก เดือนกุมภาพันธุ์ 774 คน เดือนนี้เข้ามาอีก 12 คน ตาย 2 คน คงเหลือ 784 คน

      บ้านเหล่า (เถิน) มีสมาชิก 658 คน หักคนตาย/ลาออก/ขาดสมาชิกภาพ เหลือ 638 คน

      และบ้านร้อง ยอดยกมาจากเดือนกุมภาพันธุ์ 89 คน เข้าใหม่เดือนมีนาคม 5 คน รวมทั้งสิ้น 94 คน

      ขณะที่บ้านหลุก บ้านสบตุ๋ย บ้านท่าคราวน้อย กลุ่มพัฒนาสตรี ไม่มา สำหรับบ้านนาป้อ (ต้นธงชัย) ขอลากลับไปก่อน

      เมื่อแต่ละกลุ่มรายงานจบ ประธานได้บอกว่า ให้กลุ่มนาก่วมใต้ไปพิจารณาตัวเอง นี่เป็นการทดลอง ถ้าเราไม่รู้ยอดสมาชิก เราจะไม่สามารถหาค่าเฉลี่ยความเสี่ยงได้ นี่เป็นจุดเล็กๆน้อยๆ แต่พวกเราไม่ค่อยให้ความสนใจกัน เวลามาประชุมกัน เราไม่ค่อยเตรียมตัว เราไม่เอาสิ่งที่เป็นสาระมาคุยกัน เพราะฉะนั้น การที่จะแก้ไขปัญหา เราจะต้องรู้ข้อมูลกันตั้งแต่เรื่องยอดจำนวนสมาชิก สมาชิกเข้า-ออก เพราะ มันจะส่งผลต่อการคิดค่าเฉลี่ยความเสี่ยง รวมทั้งมันจะส่งผลถึงการมองว่าสมาชิกเพิ่มขึ้นหรือลดลง การรายงานตัวเลขสมาชิกมันจะสะท้อนให้เห็นว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร จะได้แลกเปลี่ยนกันได้ ที่ผ่านมาเราปิด ไม่มา พวกที่มาก็มาเฉยๆ แทนที่จะเอาข้อมูลมาคุยกันว่าตอนนี้เป็นอย่างไร มีสมาชิกเข้า-ออกเท่าไหร่ มีรายจ่ายอะไรบ้าง ข้อมูลแค่นี้ก็สามารถทำให้เครือข่ายฯเดินต่อไปได้

       อ.สมพิศ ได้พยายามสรุปว่า รายงานฐานะการเงินควรจะเป็นอย่างไร

      พี่นก ยุพิน จึงบอกว่า ให้เครือข่ายฯซีร็อกซ์แบบรายงานแจกให้ทุกกลุ่ม ทุกกลุ่มต้องเอาไปทำเอง

      ประธานจึงเสริมว่า แบบฟอร์มพวกนี้เกิดจากการคิดขึ้นมาของพวกเรา แต่พวกเราไม่ค่อยใส่ใจ เรื่องนี้ผมอยากให้เอากลับไปทบทวน คราวหน้ามาคงจะมีข้อมูลมารายงาน แต่ไม่ใช่ว่าโมเมนะครับ ผมแก้แบบฟอร์มหลายครั้ง เสียเงินไปหลายฟัน ก็เพื่อให้ออกมาดีที่สุด ผมอยากถามว่าพวกเราจะทำได้ไหมครับ? มีกลุ่มไหนที่คิดว่าจะทำไม่ได้บ้างครับ? เมื่อทำรายงานมาแล้วก็ต้องเอามาไว้ที่สำนักงานเครือข่ายฯ ก็คือ ที่บ้านผมนะครับ ไม่ใช่ว่าเอาไปไว้ที่กลุ่มตัวเอง

       วาระที่4 ในเรื่องการรายงานความก้าวหน้าก็จบลงแต่เพียงแค่นี้ค่ะ ผู้วิจัยมีข้อสังเกตนิดหน่อยในประเด็นนี้ คือ

      1.เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กล่าวคือ กลุ่มที่เป็นสมาชิกมีข้อมูลมารายงานพอสมควร แสดงว่ากลุ่มมีความตื่นตัว

       2.ในส่วนแรกที่ประธานรายงานเกี่ยวกับการเชื่อมประสาน ผู้วิจัยเห็นว่า ประธานคงยังต้องเหนื่อยต่อไปอีกนานค่ะ ถ้าหากไม่ฝึกคุณอำนวยและคุณกิจขึ้นมา ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของเครือข่ายฯต่อไปด้วยค่ะ เพราะ ถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ คณะกรรมการในระดับกลุ่มและเครือข่ายฯจะไม่เกิดการเรียนรู้เลย เพราะ ประธานเป็นผู้ทำให้ตลอด ป้อนให้ตลอด สำหรับผู้วิจัยแล้วอยากเสนอว่า ประธานควรที่จะแบ่งเวลาให้กับเครือข่ายฯมากกว่านี้ค่ะ ตราบใดที่ประธานยังคงวิ่งออกไปข้างนอก แล้วปล่อยให้ข้างในเป็นอย่างนี้ ปัญหาต่างๆคงคลี่คลายยากค่ะ เปรียบเสมือนกับพ่อแม่ที่ทุ่มเทให้กับการหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว จนกระทั่งไม่มีเวลาให้กับลูก หลายครอบครัวลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา พ่อแม่ต้องมานั่งเสียใจ ถ้าโชคดี กลับตัวทัน ครอบครัวก็ยังเดินต่อไปได้ ถ้ากลับตัวไม่ทัน คงจะมีแต่ความเสียใจละทุกข์ใจค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 24998เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2006 14:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท