การพัฒนาความรู้สึกรักวิถีแห่งปัญญา รักการเรียนรู้จากสิ่งที่ตนเองปฏิบัติ และเห็นโอกาสในการสร้างภูมิปัญญาที่บูรณาการอยู่กับการปฏิบัติ เป็นพลังการงอกงามที่สำคัญที่สุด เมื่อสิ่งเหล่านี้ผุดบังเกดขึ้นแล้ว กระบวนการเชิงเทคนิคที่ทุกคนเห็นว่ายาก ก็เป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับการขวายขวายเรียนรู้ในลำดับต่อไป
วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินทร จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับทีมอาจารย์สหสาขา จากมหาวิทยาลัยมหิดล คือ จากสถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว และคณะเทคนิคการแพทย์ ร่วมกันดำเนินโครงการ พัฒนาความรู้ความสามารถในการทำวิจัยทางหัตถเวชกรรม แก่อาจารย์ของเครือข่ายสถาบันวิชาการสาธารณสุขและแพทย์แผนไทย โดยการสนับสนุนของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ดร.วิบูลย์ นุชประมูล เป็นผู้ประสานงาน จุดหมายเพื่อยกระดับการพัฒนาทางหัตถเวชกรรม ทั้งทางด้านการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ การพัฒนาการเรียนการสอน การถ่ายทอด การพัฒนากระบวนการสร้างคน เพื่อให้งานหัตถเวชกรรมมีการพัฒนาที่เข้มแข็งและยั่งยืนมากยิ่งๆขึ้น
การดำเนินงานที่สำคัญ ประกอบด้วย
อบรมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 1 พัฒนาข้อเสนอโครงการวิจัย 5 วัน
กลับเข้าสู่วิถีชีวิตและการทำงานตามปรกติ เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อเก็บข้อมูลและพัฒนาโครงการของตนต่อไป
อบรมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 2 ถอดบทเรียน เพิ่มพูนประสบการณ์และพัมนาโครงการวิจัย
กลับสู่การปฏิบัติการ 1 เดือน โดยมีเครือข่ายการช่วยนิเทศสนาม อีก 1 เดือน
อบรมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 3
กลับสู่การปฏิบัติการ เก็บและวิเคราะห์ข้อมูล อีก 2 เดือน
อบรมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 4 ทดลองนำเสนอผลการวิจัย
โครงการนี้ เน้นสาระของการสร้างความรู้และความจำเป็นของการบ่มเพาะทางภูมิปัญญาที่อยู่ใมนการปฏิบัติ โดยมีการวิจัยมิใช่จุดหมายสุดท้ายที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ แต่เป็นตัวเลือกเพื่อเข้าถึงความจำเป็นที่ต้องการดังกล่าว ทีมวิทยากรกระบวนการ ได้เน้นการจัดกระบวนการ ให้ผู้เข้าอบรมพัฒนาความสนใจต่างๆตามความพร้อมของตน..." เป็นเวทีที่แสวงหามานานนะคะ เพราะในการประชุมงานวิจัยแต่ละครั้ง มันมีความรู้สึกว่า เหมือนเข้าไปในวงการชั้นสูง ซึ่งเรารับไม่ค่อยได้นะคะ....การอบรมครั้งนี้ ทำให้อยากทำในทุกๆอย่างเลยค่ะ ก็คือทุกๆอย่างมันอยู๔ต่อหน้าเราหมดเลยคะ เพียงแต่ว่าเราหยิบ เราจับมันมาไม่ถูกเท่านั้นเอง...คิดว่างานวิจัยเป็นวิถีชีวิตนะคะ...งานวิจัยต้องมีคาดู มีหูไว้ฟัง มีสมองไว้คิด มีจิตไว้จดจ่อ...ทำให้รู้ว่า งานวิจัยต้องเป็นคนช่างสังเกต....." เป็นเสียงสะท้อนจากผู้เข้าอบรม เมื่อการอบรมครั้งที่ 1 ผ่านไป
ผลของการอบรมครั้งที่ 1 นี้ ทำให้ทุกคนพัฒนาโครงการ เค้าโครงของโครงการ และข้อเสนอเพื่อพัฒนาโครงการ ได้ทั้งหมด 11 โครงการ ครอบคลุมประเด็นการวิจัยหลายด้าน ทั้งทางด้านคลินิค ทางระบาดวิทยา การวิจัยเชิงพื้นที่และการวิจัยชุมชน
การพัฒนาความรู้สึกรักวิถีแห่งปัญญา รักการเรียนรู้จากสิ่งที่ตนเองปฏิบัติ และเห็นโอกาสในการสร้างภูมิปัญญาที่บูรณาการอยู่กับการปฏิบัติ เป็นพลังการงอกงามที่สำคัญที่สุด เมื่อสิ่งเหล่านี้ผุดบังเกดขึ้นแล้ว กระบวนการเชิงเทคนิคที่ทุกคนเห็นว่ายาก ก็เป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับการขวายขวายเรียนรู้ในลำดับต่อไป.