13 เมษายนของทุกๆปีเป็นวันที่มีความหมายต่อพวกเรา
คนไทยทุกคนในหลายๆความหมาย ตามโบราณดั้งเดิมนั้นถือว่าวันที่ 13
เมษายนของทุกปีเป็นวัน “มหาสงกรานต์”
ที่การเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์จะโคจรจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษ
อันเป็นวันที่พระอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลาง
ทำให้เวลาระหว่างกลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน
จึงเป็นที่มาของชื่อเทศกาล “สงกรานต์”
ที่เป็นภาษาสันสกฤตและมีความหมายว่า ผ่าน หรือ เคลื่อนย้าย
เป็นวันที่ลูกหลานและผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวจะได้กลับมาพบหน้าพบปะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน
แต่กับปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะตามสถานที่ที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่น เช่น
ตรอกข้าวสาร ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของ “มหาสงกรานต์”
จะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ด้วยบรรยากาศที่วุ่นวาย อึกทึก เบียดเสียด
ไม่ปลอดภัย และรุนแรง ด้วยเสียงที่เปิดแข่งกันดังลั่น
ด้วยแอลกอฮอล์ขวดแล้วขวดเล่าที่ผ่านลำคอลงระเพาะแล้วส่งผลต่อสำนึกและศีลธรรม
ด้วยการแต่งตัวโชว์สัดส่วนองค์เอว
ด้วยคนจำนวนมากที่เบียดเสียดยัดเยียดจนไม่เป็นอิสระ
ด้วยการสาดน้ำที่รุนแรง ใช้น้ำเย็นเฉียบสาดเข้าใส่ ใช้น้ำแข็งขว้างปา
ด้วยการประแป้งที่ไม่ได้มีเพียงจุดประสงค์ดีเท่านั้น
ด้วยบรรยากาศที่ว่ามาทั้งหมด จึงเป็นที่มาของชื่อบทความนี้
วัยรุ่นไทย : สงกรานต์ สงคราม หรือสมกาม
จะมีวัยรุ่นไทยมากเท่าไรที่สามารถตอบได้ว่าตำนานเรื่องเล่าสืบต่อกันมาของสงกรานต์ไทยคือเรื่องของท้าวกบิลพรหมกับธิดาทั้ง
7 จะมีสักกี่คนที่รู้ความหมายที่แท้จริงของคำว่า “สงกรานต์”
จะมีใครที่กลับบ้านไปหาญาติพี่น้อง พ่อแม่
ปู่ย่าตายายเพื่อเยี่ยมเยียนและดูแลท่าน ทำความเคารพท่าน
กราบไหว้และรดน้ำดำหัวแสดงความเคารพท่าน
ดูเหมือนว่าวัยรุ่นไทยสมัยนี้จะตีความ “สงกรานต์” กลายเป็น “สงคราม”
และ “สมกาม” ไปเสียมากกว่า
-สงคราม-
เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์
วัยรุ่นไทยหลายคนต่างพากันจะแจงจัดเตรียมอุปกรณ์ในการเล่นน้ำราวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ในสงคราม
การละเล่นที่รุนแรง ปืนฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง
น้ำที่แช่น้ำแข็งจนเย็นเฉียบ น้ำแข็งขนาดต่างๆที่ปลิวว่อน
ถุงพลาสติกบรรจุน้ำ และพาหนะในการเดินทาง
สิ่งเหล่านี้เปรียบได้กับปืนและลูกระเบิดที่รอเวลาที่จะถูกระดมยิงและขว้างปาเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง
ประกอบกับอาการมึนเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และความคึกคะนองก็ยิ่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูรุนแรงมากขึ้น
หลายครั้งหลายหนที่เกิดเหตุการณ์ทะเลาะต่อยตีกันเพราะมีสาเหตุเกิดจากการละเล่นที่รุนแรง
หลายครั้งหลายหนที่เกิดอุบัติเหตุตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงอาการสาหัสจากการละเล่นที่รุนแรงขาดความยั้งคิด
-สมกาม-
โดยส่วนตัวมีความเชื่อว่า
วัยรุ่นไทยหลายคนตัดสินใจใช้เวลาในเทศกาลสงกรานต์ไปกับการมีเพศสัมพันธ์
ทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ ทั้งยินยอมและไม่ยินยอม และมีวัยรุ่นไทย
โดยเฉพาะผู้ชายที่ตั้งใจไป “หาเศษหาเลย”
กับสาวๆที่มาร่วมเล่นน้ำโดยการประแป้ง ซึ่งน่าจะเรียกว่าการ “ป้าย”
มากกว่า “ประ” ที่จะลากยาวตั้งแต่ใบหน้า ลงมาตามลำคอ ผ่านหน้าอก
และอาจยาวลงไปถึงส่วนพึงสงวนของสาวๆขึ้นอยู่กับสถานที่และโอกาสจะอำนวยได้
อีกทั้งการแต่งตัวที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสาที่มากเกินควร
เสื้อผ้าที่รัดรูปยามเปียกน้ำเผยทรวดทรงองค์เอว
และความมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้กลายเป็นเทศกาลที่เปรียบดั่งฤดูกาล
“ล่าเหยื่อ” โดยเฉพาะ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร? ปัญหามาจากอะไร?
และจะแก้ได้อย่างไร?
ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหามาจากสองประเด็นหลัก นั่นคือการเลี้ยงดู
และสภาพสังคม
-การเลี้ยงดู-
การเลี้ยงดูอย่างปล่อยปะละเลย การเลี้ยงดูแบบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน
ความห่างเหินของสายใยครอบครัว
เป็นเพียงสาเหตุบางส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น
ปัจจุบันครอบครัวของคนไทยส่วนใหญ่มักเป็นครอบครัวที่มีขนาดเล็กลงจนเหลือเพียงส่วนย่อยที่สุดนั่นคือ
พ่อ แม่ ลูก เท่านั้น
ซึ่งมีผลกระทบต่อการเลี้ยงดูบุตรเป็นอย่างมากหากว่าทั้งฝ่ายพ่อและแม่ต้องออกไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวและจ้างผู้ดูแลมาเลี้ยงดูบุตร
ทำให้สายใยระหว่างพ่อแม่กับลูกห่างเหินไปในระดับหนึ่ง
และเมื่อเป็นส่วนย่อยที่สุดของครอบครัวก็ยิ่งทำให้สายใยระหว่าง ปู่
ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา กับหลาน
ยิ่งห่างขึ้นมากทุกทีก่อให้เกิดปัญหาทางการขาดความอบอุ่นในครอบครัวและการเลี้ยงดูที่ไม่ต่อเนื่อง
ขาดการแนะนำ ดูแล เอาใจใส่ให้เด็กได้พัฒนาไปตามธรรมชาติ
การตามใจลูกโดยการใช้เงินปรนเปรอก็ยิ่งปลูกฝังให้ลูกรู้จักวิธีการแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยการใช้เงินซื้อทุกอย่างเพียงอย่างเดียว
ทำให้กลายเป็นคนเอาแต่ใจ เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน
หลงในวัตถุและความสนุกเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่าที่จะใช้เงินแสวงหามาได้
ครอบครัวที่ทะเลาะเบาะแว้งตบตีเป็นประจำทำให้ลูกซึมซับความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว
และหากยิ่งฝ่ายพ่อเป็นผู้ใช้กำลังรุนแรงกับแม่
เด็กก็จะเรียนรู้ทางใดทางหนึ่งระหว่างเกลียดความรุนแรงที่พ่อทำ
กับดูดซับและยอมรับความรุนแรงที่พ่อทำต่อแม่ว่าเป็นสิ่งดี
ก่อให้เกิดความคิดที่ว่าผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิงและอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมและความคิดที่เป็นอันตรายต่อผู้หญิงได้ทุกเมื่อ
-สภาพสังคม-
สื่อยั่วยุ การแต่งกาย เศรษฐกิจ ระดับการศึกษา
และอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดการบิดเบือนของประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาแต่โบราณให้ล่มสลายไปกับน้ำมือของวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน
น้ำเมาที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านมินิมาร์ททั่วไปตามท้องถนนทำให้แอลกอฮอล์ผ่านลำคอวัยรุ่นได้ง่าย
แม้ออกกฏหมายบังคับห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18
ปีมิให้ซื้อเครื่องดื่มมึนเมาได้ก็ตาม
แต่ก็มีหลากหลายวิธีที่สามารถหลบเลี่ยงกฏหมายนั้นได้
วิธีที่ง่ายที่สุดคือให้ผู้ปกครองหรือผู้ที่มีอายุเกิน 18
ปีเข้าไปซื้อมาให้
ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องยุ่งยากแต่อย่างใดและสามารถทำได้เกือบทุกที่ทุกเวลา
เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตและมีอัตราค่าครองชีพสูงก็เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของปัญหา
ซึ่งเกี่ยวพันกับการเลี้ยงดูดังที่กล่าวมาแล้ว ครอบครัวที่มีขนาดเล็ก
มีเพียง พ่อ แม่
ลูกนั้นทให้พ่อและแม่ต้องออกไปหาเลี้ยงครอบครัวและทิ้งลูกน้อยไว้ในความเลี้ยงดูของบุคคลอื่นทำให้สายใยที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันเบาบางลงทุกขณะ
สภาพสังคมที่พัฒนาทางด้านวัตถุไปอย่างรวดเร็วจนความเจริญทางด้านจิตวิญญาณและจิตสำนึกกลับถูกกลบลบเลือนหายไปด้วยเสียงเพลงที่แผดสนั่น
สื่อลามกอนาจารที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้โดยง่าย
การใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อเพียงเพราะต้องการสนองความอยากได้อยากมีของตนจนทำให้วัยรุ่นหญิงไทยหลายคนตัดสินใจ
“หากินแนวนอน”
และการใช้เงินฟุ่มเฟือยสนองตอบความต้องการชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในบรรดาวัยรุ่นชาย
การให้การศึกษาเรื่อง “เพศศึกษา”
ที่เปรียบดั่งแดนสนทยาสำหรับวัยรุ่นไทยที่ไม่ได้รับคำตอบที่ถูกต้อง
ไม่ได้เรียนรู้ถึงวิธีการหลีกเลี่ยงถึงโอกาสเสี่ยงต่อการชักนำสู่การมีเพศสัมพันธ์
ไม่ได้นำเสนอตัวช่วยในการควบคุมและระบายความใคร่ของตนที่เหมาะสม
ไม่ได้เรียนรู้ถึงวิธีการป้องกันตัวเองและคู่นอนจากการตั้งครรภ์ที่ถูกวิธี
ทำให้ปัญหาทั้งหลายตามมาเป็นโขยงเพราะความอยากรู้อยากเห็นอยากลองอยากทำของวัยรุ่นไทย
เพราะความมึนเมาของแอลกอฮอล์ที่ครอบงำสติสัมปชัญญะ
เพราะการเย้ายวนจากสื่อทั้งหลายและการแต่งตัว
นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “ปัจจัย”
ที่ก่อให้เกิดปัญหาทั้งหมดขึ้นเท่านั้น
ยังมีอีกหลากหลายปัญหาที่ชอนไชลงไปในปัญหานี้ราวกับรากของต้นไม้ที่แตกแขนงออกไปไม่สิ้นสุด
การจะแก้ปัญหานี้ได้นั้นคงไม่สามารถแก้ได้ภายในเร็ววัน
แต่ต้องแก้ไปทีละจุดอย่างใช้เวลาและความตั้งใจจริงจากทุกคนและทุกฝ่ายที่จะร่วมมือกันเพื่ออนาคตอันสดใสของวัยรุ่นไทย
หวังว่าวัยรุ่นไทยที่ได้อ่านบทความนี้แล้วจะตระหนักถึงบทบาท หน้าที่
และขอบเขตของตัวเอง ตระหนักรู้ว่าตัวเองคือใคร มีหน้าที่อะไร
และสมควรทำสิ่งใด ตระหนักรู้ว่าสิ่งใดถูก และสิ่งใดผิด
สิ่งใดก่อประโยชน์ และสิ่งใดก่อความเดือดร้อนต่อผู้อื่น
อย่าให้ประเพณีอันดีงามที่เหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายต้องสูญเสียเลือดเนื้อเพื่อปกปักรักษาไว้ต้องมาถูกทำลายย่อยยับเพียงเพราะความคึกคะนองและเห็นแก่ได้ของเราเพียงอย่างเดียวเลย
Online-Station : DayDreaming
reports.
Date : 15 Apr 06 14:03 Source:
Ref :: http://www.online-station.net/news/view.php?id=4148
ไม่มีความเห็น