เข็นครกขึ้นภูเขา : เตรียมจัด KM Workshop
ให้องค์การอนามัยโลก (2)
บันทึกไปเมื่อวาน ว่าผู้ที่ได้รับเชิญมาร่วมประชุมปฏิบัติการ
KM ดูจะยังไม่เข้าใจว่ามาทำอะไร และต้องเตรียมมา ลปรร.
อย่างไร แล้วผม อี-เมล์ ไปบอกหมอสมศัดิ์
อ. อัญชลี และคณะ ให้เข้ามาอ่าน หมอสมศักดิ์จึง
อี-เมล์มาถามว่ามีวิธีที่ไม่ต้องสาธยายยืดยาว
ให้เขาเข้าใจไหม ผมมีความเห็นว่าผู้จัด
(มสช.) ต้องทำความเข้าใจกับผู้ที่จะได้รับเชิญมาร่วม
“ทำงาน” (workshop คือการทำงานร่วมกัน) ให้ชัดเจนว่า
-
คนที่มา คือผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะในการจัดการงานวิจัย
(research management) ของตน
และของหน่วยงานของตน เน้นคำว่าทักษะ (skill)
ไม่ใช่ทฤษฎี
-
คนที่มา คือผู้มีประสบการณ์ (และทักษะ)
ในการจัดการงานวิจัยอยู่แล้ว ในระดับหนึ่ง
และมีเรื่องราวของความสำเร็จ (เล็กๆ หรือเฉพาะกรณี)
ที่จะนำมาเล่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ (ปฏิบัติ)
หรือประสบการณ์กับเพื่อนร่วมการประชุมได้
-
การพัฒนาทักษะ (ความรู้ปฏิบัติ – actionable knowledge)
ของผู้มาร่วมประชุม จะดำเนินไปเป็นระยะยาว
โดยการรวมตัวกันเป็นเครือข่าย (network) หรือชุมชน (community)
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ปฏิบัติในการจัดการงานวิจัยภายในกลุ่ม
และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเริ่มต้นเข้าร่วมได้
-
ดังนั้น ผู้มาร่วมการประชุมปฏิบัติการ ต้องเตรียมตัวมา give and
take หรือ share and learn
ไม่ใช่หวังมาเรียนรู้แต่ถ่ายเดียว
ผู้มาร่วมต้องเตรียมเรื่องเล่าความสำเร็จ หรือความภูมิใจ
(เล็กๆ) ในผลงานจัดการงานวิจัยที่ ตนเอง
มีประสบการณ์ตรง
(ไม่ใช่เล่าเรื่องของคนอื่น
ไม่ใช่นำเสนอทฤษฎี
ไม่ใช่นำเสนอโครงสร้างของหน่วยงาน)
-
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 99% จะทำผ่าน ICT เช่น MSN,
Yahoo Group, หรือ blog ที่จริง มสช. น่าจะเปิด MSN
หรือ Yahoo Group แลกเปลี่ยนเรียนรู้ success stories / best practice
ในกลุ่ม prospective participants
ได้ล่วงหน้า
-
ดังนั้นการประชุมปฏิบัติการนี้ถือเป็นการ connect กันแบบ F2F
(Face to Face) เพื่อกระชับ connection ที่เริ่มแบบ B2B (Bits to
Bits) ไปล่วงหน้าแล้ว และเพื่อหาทางให้ connection
/ sharing แบบ B2B ดำเนินต่อไปอย่าง productive
คือเกิดการเรียนรู้ research management อย่างต่อเนื่อง ผ่าน
knowledge sharing ในชุมชน / เครือข่าย ย้ำว่า
knowledge ที่เอามา share กันนั้น 90% เป็น knowledge from action /
actionable knowledge
-
เราหวังว่า ชุมชน / เครือข่าย นักจัดการงานวิจัย (Research
Management Community / Network) นี้ จะเป็นชุมชน/เครือข่าย
เปิด คือยึดถือหลักการ inclusive ไม่ใช่
exclusive
ยินดีเปิดรับสมาชิกที่สมัครเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
-
หวังว่าหลังจาก ชุมชน/เครือข่าย นี้ดำเนินการไปสัก ๑ – ๒ปี
จะได้เห็นปรากฏการณ์ก้าวกระโดดด้านการจัดการงานวิจัยในหน่วยงาน /
องค์กร / ประเทศ ที่เข้ามาเป็นสมาชิก
และองค์การอนามัยโลกสามารถสรุปประสบการณ์ KM นี้
เอาไปใช้กับประเด็นอื่นๆ
ด้านการพัฒนาเรื่องที่ซับซ้อนเกี่ยวกับสุขภาวะ
-
SEARO ต้องเตรียมจัดการชุมชน/เครือข่ายนี้
โดยมีคนคอยติดตามจุดประกาย ยั่วยุ ชื่นชม ให้รางวัล
การ ลปรร. ที่มีคุณค่า
วิธีดำเนินการจัดการแบบนี้ดูตัวอย่างได้จาก บล็อก
Gotoknow.org
-
มสช. น่าจะ circulate เรื่อง storytelling
ให้ผู้ที่จะมาร่วมประชุมได้อ่านทำความเข้าใจก่อน
เพื่อเตรียมตัวมาเล่าเรื่องความสำเร็จ/ภูมิใจ
วิจารณ์ พานิช
๑๙ เมย. ๔๙