แนวคิดพัฒนาองค์กร:
แนวคิดทฤษฎีองค์กร
องค์การ หมายถึง
รูปแบบของการรวมตัวกันของบุคคลเป็นจำนวนมากเข้ามาร่วมมือกันทำงานที่ซับซ้อนตามระเบียบแบบแผนขององค์การที่ได้วางไว้
เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามความมุ่งหมายเดียวกันทฤษฎีองค์การ
เป็นชุดของข้อความและแนวคิดซึ่งมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ซึ่งแสดงถึงภาพรวมของพฤติกรรมของบุคคล กลุ่มย่อยและกลุ่มต่างๆ
ภายในองค์การอย่างเป็นระบบ
แสดงถึงปฏิสัมพันธ์ของรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่างๆ
ของกิจกรรมในองค์การ
การแบ่งทฤษฏีองค์การออกเป็นยุคต่างๆ
นั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน แต่ในที่นี้จะขอแบ่งออกเป็น 3
ยุคได้แก่
1.ยุคClassical Organization Theory
2. ยุค Organization Behavior Perspective
3. ยุค Modern Structural Organization Theory
อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาทฤษฏีองค์กรนั้น
หากผู้บริหารที่ฉลาดและมีความสามารถในการบริหาร
มักจะไม่ยึดมั่นในทฤษฏีใดทฤษฏีหนึ่ง
โดยเฉพาะแต่จะเลือกวิธีที่ดีที่สุดที่นำไปใช้ในการบริหารองค์กรได้
วิธีนั้นก็คือการใช้เทคนิคในการบริหารงานต่างๆ
ผสมผสานกันเพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพขององค์กรและสิ่งแวดล้อมขององค์กรนั้นๆ
ทฤษฏีองค์กรจะเป็นประโยชน์มากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการสังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ
ในสังคม
และรู้จักใช้วิจารณญาณในการนำทฤษฏีองค์กรมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับเหตุการณ์นั้นๆ
ได้ดีเพียงใดแต่การศึกษา
ทฤษฏีองค์กรอย่างน้อยก็ก่อให้เกิดประโยชน์ 2 ประการ คือ
รู้จักใช้ในการอธิบาย และรู้จักการทำนาย กล่าวคือ
ทฤษฏีองค์การจะช่วยในการอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่างๆ
ที่ดำรงอยู่ภายในองค์กร เช่น พฤติกรรมของบุคคล หรือ
พฤติกรรมองค์กรในอีกประการหนึ่ง
ทฤษฏีองค์กรจะช่วยในการทำนายถึงแนวโน้มของปรากฏการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
หรือมีการใช้แบบแผนวิธีปฏิบัติที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
(2)
ในทุกวันนี้เราทุกคนต่างเห็นได้ว่ามีการเกิดและการเติบโตขององค์กรต่างๆมากมาย
สาเหตุเนื่องมาจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคมและอยู่รวมกันเป็นชุมชน
เมื่อมีการรวมกลุ่มกันย่อมต้องมีการแบ่งงานกันทำ
มีความต้องการพื้นฐานในปัจจัยต่างๆ
จึงได้มีการจัดตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้
ดังนั้นจึงสมควรที่จะได้มีการเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับองค์กรและทฤษฎีองค์กรเพื่อเกิดประโยชน์ต่อการสร้างประสิทธิภาพในการจัดการ
และเพิ่มประสิทธิผลองค์กรให้มากขึ้นได้
(ในที่นี้จะนำเสนอส่วนของorganization theory
เท่านั้น)
(1) ความหมายของทฤษฎีองค์กร(Definition of
Organization Theory)
ทฤษฎีองค์กร(Organization Theory)
-
ริชาร์ด แอล. ด๊าฟท์(Richard L. Draft)
กล่าวว่า “ทฤษฎีองค์กร”
ไม่ใช่ที่รวมข้อความจริง
แต่เป็นวิธีการคิดเกี่ยวกับองค์กร “ทฤษฎีองค์กร”
หมายถึง วิธีการที่จะทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ องค์การ
ให้ถูกต้องและลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยอาศัยพื้นฐานสำคัญเกี่ยวกับรูปแบบ
และกฎเกณฑ์ ในการออกแบบองค์กร และพฤติกรรมองค์กร 1
แนวความคิดที่เกี่ยวกับองค์กรได้ถูกรวบรวม
และคิดค้นอย่างมีรูปแบบ
จนกลายเป็นทฤษฎีเมื่อประมาณต้นศตวรรษที่ 20
ทฤษฎีเป็นนามธรรมที่อธิบาย และวิเคราะห์ถึงความจริง
และปรากฎการณ์ต่างๆของธรรมชาติที่เกิดขึ้นรอบๆตัว
อย่างมีระบบและมีแบบแผนเชิงวิทยาศาสตร์
ซึ่งการศึกษาแบบแผนทางวิทยาศาสตร์ก็เพื่อนำความรู้
(knowledge)
มาใช้แก้ปัญหาขององค์กร
(problem solving)
หรือเพื่อการตัดสินใจในองค์กร (3)
(2)
ทฤษฎีองค์กรมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
- ความรู้(knowledge) =
เกิดจากประสบการณ์การเรียนรู้ และการค้นคว้า
เปรียบเสมือนเป็นtechnologyที่สำคัญที่จะนำองค์กร
ไปสู่ความสำเร็จ
- การแก้ปัญหาและบริหารทรัพยากร(Solving
problems&managing resources)
- สิ่งแวดล้อม(Environment) =
สิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้องค์กรต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดขององค์กร
ตัวองค์กรเองก็เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน
- เป้าหมายที่ชัดเจน
(3)
ลักษณะวิธีการอธิบายทฤษฎีองค์กร
3.1)
ทฤษฎีเชิงพรรณนา (Descriptive Theory)
ที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆขององค์กรกับระบบย่อยอื่นๆและรวมถึงความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม
เป้าหมายสำคัญของการพรรณนา คือการอธิบายว่า
ทำไมสรรพสิ่งทั้งหลายจึงเกิดขึ้น และเกิดขึ้นได้อย่างไร
3.2)
ทฤษฎีเชิงอธิบาย (Prescriptive or Normative
Theory)เป็นทฤษฎีที่อธิบายว่าจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อทฤษฎีเชิงพรรณนาได้อธิบายให้เห็นว่า
เงื่อนไขของการเกิดปัญหาเป็นอย่างไร
นัยแห่งการอธิบายเป็นการให้ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงให้ดีขึ้น
หรือเป็นความพยายามที่จะบอกว่าควรจะทำสิ่งต่างๆอย่างไร
เพื่อที่จะทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้
ทำกำไรได้ ปรับตัวได้ดี สร้างความพึงพอใจในการทำงาน
เมื่อเราได้ทราบความหมาย
องค์ประกอบสำคัญ และลักษณะวิธีการอธิบายแล้ว
อาจทำให้เข้าใจวิวัฒนาการของทฤษฎีองค์กรได้ดีขึ้น
และเป็นระบบ จึงนำเสนอสาระและความเป็นมาของแนวคิดทฤษฎีองค์กรดังนี้
(4)
(4) วิวัฒนาการของทฤษฎีองค์กร
ทฤษฎีองค์กรนับว่าเป็นศาสตร์วิชาความรู้ที่มีการพัฒนามาไม่ยาวนานนัก
จากการที่โลกได้มีวิวัฒนาการของเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องจักร
เครื่องทุ่นแรง อันเป็นเหตุให้วิธีการผลิตเปลี่ยนแปลงไป
สังคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นจึงเกิดองค์กรในยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมนั่นเอง
เมื่อองค์กรเกิดขึ้นตามความเจริญ
เกิดคนทำงานกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ทำให้ทฤษฏีองค์กรถือกำเนิดขึ้น
จากระยะเวลาต้นศตวรรษที่20 จนถึงปัจจุบัน
สามารถจำแนกแนวความคิดและทฤษฎีองค์กรออกเป็น 3
ขั้นตอนคือ
4.1) ทฤษฎีสมัยดั้งเดิม(Classical
Theory)
ก่อนการบริหารที่มีหลักเกณฑ์ได้เกิดขึ้นนั้น
สังคมองค์กรได้มีหลักพื้นฐานในการจัดโครงสร้างและการพัฒนาเป็นกลุ่มเพียงอย่างเดียว
นั่นคือ
การสร้างประสิทธิภาพโดยอาศัยหลักของการแบ่งแรงงานกันทำ(Division
of Labour) เท่านั้น
แต่ต่อมาในช่วงระยะต้นของคริสตศักราชที่ 19
ไม่นานนักนักวิชาการเป็นที่เข้าใจและรู้จักกันของนักศึกษาทางการบริหารทั้งหลายว่าเป็นบิดาของการคิดค้นการบริหารคือ
Frederick W.Taylor
ซึ่งเป็นเจ้าตำรับของการวางหลักการที่เกี่ยวกับ
การบริหารที่มีหลักเกณฑ์(Scientific
Management) ขึ้นเป็นครั้งแรก
นักวิชาการอีกท่านหนึ่งคือ Henri Fayol
ได้คิดค้นหลักการบริหารสำหรับองค์กรขึ้นโดยวางหลักเกณฑ์เป็น14หลักที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักกว้างขวางจวบจนทุกวันนี้
อีกท่านคือ Max Weber
ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนารูปแบบที่เกี่ยวกับโครงสร้าง
อันที่จะช่วยให้การทำงานลุล่วง เรียกว่าเป็น
โครงสร้างรูปแบบที่เป็นราชการ(Bureaucracy)
เป็นการแบ่งงานชัดเจน มีการแบ่งสายบังคับบัญชา
มีระเบียบต่างๆ (5)
4.2) ทฤษฎีองค์กรสมัยใหม่(Neo-Classical Theory
of Organization)
เป็นทฤษฎีสมัยใหม่ที่พัฒนามาจากทฤษฎีองค์กรสมัยเดิม
โดยพัฒนามาพร้อมกับวิชาการด้านสังคมวิทยา
การพัฒนาที่สำคัญเกิดขึ้นระหว่างค.ศ.1910และ1920ในระยะนี้การศึกษาด้านมนุษย์
พฤติกรรมศาสตร์ มนุษยสัมพันธ์(Human Relation
Movement)ได้รับการนำมาพิจารณาในองค์กร
ยุคนี้ประกอบด้วยนักวิชาการหลายท่านเช่น Elton Mayo
ซึ่งเป็นนักวิชาการทางด้านมนุษยสัมพันธ์คนแรกที่ค้นพบถึงเรื่องสำคัญว่าพฤติกรรมมนุษย์ในการทำงานนั้นมิได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ
การเงินเพียงอย่างเดียว หากแต่ขึ้นอยู่กับความพอใจทางด้านจิตใจ
หรือสังคมด้วย
4.3)
ทฤษฎีองค์กรสมัยปัจจุบัน(Modern Theory of
Organization)
ทฤษฎีองค์กรสมัยปัจจุบันได้รับการพัฒนามาในช่วง ค.ศ.1950
หรือก่อนหน้านั้นเล็กน้อย แนวการพัฒนายังใช้ฐานแนวคิด
และหลักการของทฤษฎีองค์กรสมัยดั้งเดิมและสมัยใหม่มาปรับปรุง
โดยพยายามรวมหลักการทางวิทยาการหลายสาขาเข้ามาผสมผสานที่เรียกว่า
สหวิทยาการ(Multidisciplinary Approach)
ทฤษฎีนี้มีความเชื่อว่าทฤษฎีสมัยดั้งเดิมนั้นพิจารณาองค์กรในลักษณะแคบไป
ฉะนั้นควรวิเคราะห์สิ่งต่างๆเข้าด้วยกันดีที่สุดเป็นการวิเคราะห์องค์กรในเชิงระบบ(System
analysis) ประกอบด้วยส่วนต่างๆ5ส่วนคือ
1)Input 2) Process 3)Output 4)Feedback 5)Environment
ดังนั้นองค์กรในแนวคิดนี้จึงต้องมีการปรับตัว(adaptative)ตลอดเวลา (5)
ประโยชน์ของทฤษฎีองค์กร
จะเป็นการพิจารณาในอีกด้านหนึ่งนั่นคือการสนใจหรือเข้าใจศาสตร์ที่เกี่ยวกับการบริหารตัวองค์กรจากเป้าหมายและเนื้อหมายของงาน
ซึ่งหมายถึงการมองทรัพยากรต่างๆขององค์กรทั้งหมดกับภายนอก
ทฤษฎีองค์กรจะช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจว่าองค์กรต่างๆควรจะสามารถจัดขึ้นมาเป็นโครงสร้างได้อย่างไร
และมีส่วนที่สามรถนำมาปรับปรุงให้องค์กรมีประสิทธิภาพสูงหรือใช้งานได้ดีขึ้น
ต่อไป
http://www.lopburi1.net/km/modules.php?name=News&file=print&sid=259
ไม่มีความเห็น