ปัญหานี่เพิ่งเกิด
ตอนที่กลับมาเมืองไทยนี่เอง
ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นไม่เคยรู้สึกว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาสักเท่าใด
อาจเป็นเพราะตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น
ต้องรับผิดชอบกับการทำแล็บอย่างเดียว
เพราะฉะนั้นการเขียนบล็อกจึงสามารถทำได้ตลอดเวลา
แล้วรู้สึกว่าสนุกกับการเขียนด้วย ดังนั้นการเขียน การอ่าน
จึงเป็นสิ่งที่สามารถนำไปสอดแทรกระหว่างการทำแล็บได้ตลอด
อยากเขียนตอนไหน หรือมีเวลาตอนไหนก็เขียนได้ทันที
ส่วนเรื่องการทำแล็บก็ขยับขยายเวลาออกไป เริ่มสายนิด
หรือไม่ก็กลับบ้านให้ค่ำขึ้น
เท่านี้ปัญหาเรื่องการเขียนบล็อกก็หมดไปแล้ว
แต่พอกลับมาเมืองไทย
มีงานอีเหละเขะขะที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็เป็นงาน
กินเวลาได้เหมือนกัน
อีกทั้งการที่จะใช้คอมพิวเตอร์ของหน่วยมานั่งเขียนบันทึกนานๆ
ก็เกรงว่าจะเป็นที่ครหา สภาพก็เลยกลายเป็นว่ามีเวลาเป็นช่วงๆ
ช่วงละเล็กช่วงละน้อย ไม่สามารถจดจ่อให้เขียนได้เป็นเรื่องเป็นราว
ก็เลยห่างหายการเขียนบันทึกออกไป ตอนที่ไม่ได้อยู๋หน้าจอก็มีบางเรื่องที่คิดว่าอยากจะเขียนเป็นบันทึก
แต่พอนั่งอยู่หน้าจอจริงๆ กลับจำไม่ได้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี สับสน
ปนเป
ไม่มีสมาธิพอที่จะรวบรวมความคิดให้เขียนเป็นเรื่องเป็นราว
ส่วนถ้ากลับไปถึงบ้านดูเหมือนเวลาจะหมดไปกับเจ้าตัวน้อยๆ สองตัวนั่น
ก็เขียนไม่ได้อีกเช่นกัน หลังจากได้คุยกับท่าน CKO
ก็เลยรู้ว่าเราเริ่มประสบปัญหาเดียวกัน คือ
การไม่มีสมาธิเพียงพอที่จะเขียนบันทึก
ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะเคยประสบกับปัญหานี้หรือไม่
วิธีแก้ไขปัญหาของผมตอนนี้ คือผมพยายามขจัดเรื่องต่างๆออกไป
อะไรที่ต้องรับผิดชอบก็รีบทำเสียให้เสร็จ
ส่วนเรื่องใหม่ก็ยังพอมีเวลาออกไป ไม่ได้รีบร้อนต่อไป
ส่วนปัญหาคอมพิวเตอร์ก็ใช้วิธีเนรมิตให้เจ้า notebook
ส่วนตัวสามารถใช้ internet ได้ จะได้ไม่ต้องไปคอยแย่งเครื่องคอมกับใคร
พอมีเวลามากขึ้นประกอบกับ notebook ส่วนตัวแค่ขยับตัวก็ใช้ internet
ได้แล้ว ปัญหาต่างๆก็เลยดูลดน้อยลงไปได้เยอะ
ถ้าจะยังมีอีกก็เป็นเรื่องการหาข้อแก้ตัวเสียมากกว่า
เพราะทุกอย่างดูเหมือนกับเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง
หลังจากนี้ถ้าเห็นผมหายไปอีก ก็บอกได้เลยครับว่า โรคขี้เกียจกำเริบ อีกแล้ว