Block to Blog เพราะขาดสมาธิ


จะควบคุมใจ และ พฤติกรรม ให้ทำตามที่สมองวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญไว้ได้อย่างไร

ช่วงนี้ ห่างหายไปจากการเขียนบันทึกบนบล็อก บ่นๆ กับนายไมโตฯ ที่เพิ่งกลับมาจากแดนปลาดิบ ว่าช่วงนี้ เขียนไม่ออกเลย  นายไมโตฯ ก็ตอบกลับมาให้ใจชื้นว่า “เหมือนผมเลยครับ ตอนนี้เกิดอาการ block เขียนไม่ออกเหมือนกัน”  แล้วเราสองคนก็ปรับทุกข์.. อุ๊ย ไม่ใช่ค่ะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และได้ข้อสรุปว่า สาเหตุสำคัญเพราะเราทั้งคู่ “ขาดสมาธิ ในการเขียน

ส่วนว่านายไมโตขาดสมาธิหลังจากกลับมาเมืองไทย เนื่องด้วยเพราะเหตุใด ก็คงต้องตามอ่านจากบันทึกของเธอเอาเอง (หากมี) ส่วนบันทึกนี้ ขอเล่า (จะเรียกว่าบ่น หรือ แก้ตัวก็ไม่ผิดนัก) ให้ฟังว่า อะไรทำให้ตนเองขาดสมาธิในเวลานี้บ้าง
 
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ Nidnoi ที่ทำให้เกิดบันทึกนี้ขึ้น เป็นเพราะข้อสรุปสั้นๆ ที่ให้กำลังใจคนที่ไม่รู้จะเขียนอะไรดีว่า “เขียนให้ตัวเองอ่าน เขียนอย่างที่ใจอยากเขียน”  ก่อนหน้านี้ ตนเองจะเขียนเฉพาะเรื่องที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านแน่ๆ แต่บันทึกนี้ เป็นเรื่องบ่นค่ะ คงไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านมากนัก แต่เพราะ "ใจสั่งมา" จึงขออนุญาตบ่นสักครั้ง
 
ช่วงนี้ ตนเองเกิดอาการกระเจิดกระเจิงทั้งความคิดและการกระทำค่ะ  ประมาณว่า ตากำลังจับจองเรื่องหนึ่ง (เซ็นต์เอกสารในแฟ้ม)  สมองกลับคิดอีกเรื่องหนึ่ง  แต่ใจกลับคิดถึงอีก..อีกเรื่องหนึ่ง โอ๊ย มันตีกันไปหมด จนไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลัง

จึงลองทบทวนเรื่องที่คาใจ รบกวนสมาธิในการทำงาน ตอนนี้ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ค่ะ

1. งานที่คั่งค้างทำไม่เสร็จ หรือทำได้ไม่ตามเป้าหมาย 
          - ส่วนรวม คือ งานของภาคฯ ก่อนหน้านี้ ลงแรงกับเรื่องการพัฒนาบุคลากร เรื่อง KM รวมทั้งเรื่องวารสารและบล็อกค่อนข้างมาก  ให้มีเวลากับส่วนอื่นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะการพัฒนางานบริการในภาพใหญ่ รวมไปถึงเป้าหมายระยะสั้น คือขอรับรอง ISO 15189 ในเดือนกรกฎาคมนี้
          - ส่วนตัว คืองานในฐานะเป็นอาจารย์คนหนึ่ง ที่มีทั้งการเรียนการสอน การวิจัย และบริการ งานการเรียนการสอนไม่เท่าไร เพราะมีกำลังทดแทน แต่งานบริการ ซึ่งยังคงรับภาระเหมือนตอนที่ไม่มีตำแหน่งบริหาร กับงานวิจัย ซึ่งมีทั้งงานวิจัยเดิมที่ทำต่อเนื่องก่อนรับตำแหน่ง เป็นชุดโครงการ (รับผิดชอบหลัก 2 ใน 3 โครงการย่อย) รับทุนระยะ 3 ปี (47-49) ซึ่งกำลังจะหมดทุน แต่ดูแววแล้วน่าเป็นห่วง เนื่องจากไม่มีเวลาไปดูแลงานอย่างใกล้ชิด ทำให้งานเดินไม่เป็นไปตามเป้า  แถมด้วยโครงการวิจัยใหม่ในปีนี้ ซึ่งทำกับนักศึกษา ป.โท ตามโครงการสนับสนุนให้อาจารย์ในภาคฯ รับนักศึกษา ป.โท ของอ.พรพรต รองหัวหน้าภาคฝ่ายวิจัย อันเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการผลักดันงานวิจัยของภาคฯ
 
2. งานที่ได้รับมอบหมายให้ทำเพิ่ม โดยไม่ได้คาดคิดหรือวางแผนมาก่อน  แบ่งเป็น 2 ส่วน
          - ส่วนรวม คือผลพวงของผลงาน KM ผ่านกิจกรรม Patho OTOP และ ชุมชนบล็อก Smart Path ทำให้มีภาระงานด้าน KM เพิ่ม โดยไม่คาดคิดมาก่อน  ทั้งการช่วยงาน KM คณะฯ ในฐานะกรรมการ และการรับเชิญไปแลกเปลี่ยน (บรรยาย) เรื่อง KM ให้กับกลุ่มเครือข่าย discharge planning  (ระหว่าง 3 รพ.) ที่พี่จุด (จุฑารัตน์ เกียรติศิริโรจน์) เป็นคุณอำนวยอยู่ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า  การบรรยายครั้งนี้ เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับตนเองมาก เพราะไม่มีประสบการณ์เรื่องการทำเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมทั้งไม่ใช่นักทฤษฎี คงต้องทำการบ้านมากพอดู   อาจมีคำถามว่า แล้วทำไมจึงรับงานนี้หล่ะ คำตอบก็คือ ทั้งสองงาน เป็นเรื่องผู้ใหญ่ขอมา และก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนรวมของคณะฯ หากพอมีแรงและสมองช่วยได้ก็คงต้องทำ
           - ส่วนตัว  คือการทำหน้าที่เป็น “แม่” และ “แม่บ้าน” ค่ะ ก่อนหน้านี้ยกหน้าที่นี้ให้คุณป้า และคุณยายของเด็กๆ ทำค่ะ ทั้งคู่ไปเที่ยวเมืองนอก 2
สัปดาห์กว่า ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ  ก็เลยเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสเช่นกัน กับงานหลายๆ อย่างที่ต้องทำเอง   

ตอนนี้ ยังไม่มี solution ให้กับตัวเอง ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร หมายถึงปัญหา "สมาธิกระเจิดกระเจิง"  เท่าที่รู้ ก็คือการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังและบริหารเวลา จัดก็คงจัดได้ 1, 2 , 3.. แต่จะควบคุมใจ และ พฤติกรรม ให้ทำตามที่สมองวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญไว้ได้อย่างไร นี่ซิ เป็นเรื่องยาก ใครมีข้อแนะนำอะไรดีๆ ช่วยบอกที  

คำสำคัญ (Tags): #cko#blog#สมาธิ
หมายเลขบันทึก: 24264เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2006 10:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ที่อาจารย์เขียนมาก็มีข้อคิดสอดแทรกด้วยค่ะ ดีค่ะ

การนั่งสมาธิ อาจช่วยอาจารย์ได้นะคะ

สุชานาถ Blog กองกลาง มมส.

ขอบคุณ คุณ สุชานาถค่ะ
  • ดีใจและขอบคุณค่ะ  ที่เห็นว่าบันทึกของ noi สามารถให้กำลังใจได้
  • บันทึกนั้น  นอกจากเขียนเพื่อตนเองแล้ว  ยังเขียนเพราะอยากให้ "คุณกิจตัวจริง"  ได้อ่าน  เผื่อจะมีแรงบันดาลใจ   เพราะเท่าที่คุยกับเพื่อนๆ  หลายๆ คนมา  ส่วนใหญ่จะบอกว่า  "ไม่รู้จะเขียนอะไร"   เนื่องจากมองงานที่ตัวเองทำ  ดู "ธรรมด๊า..ธรรมดา"  จนไม่อยากเล่าให้ใครฟัง
  • ในมุมมองของคนที่รออ่านอย่าง noi  มองว่าวารสารและบล็อก  ประสบความสำเร็จมากเลยค่ะ  
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ เพราะกลับจากบ้านผู้หว่านเมื่อวานนี้เอง...
  • ท่าน CKO สู้ๆ...ท่านสั่งมาเราก็ไม่เคยบ่นนิ!
  • ท่าน CKO สู้ๆ.. อาจารย์วิจารณ์ฝากย้ำมาว่า ต้องไปวงเสวนาคุณเอื้อ ที่บ้านผู้หว่าน ต้นเดือนหน้าให้ได้ด้วยค่ะ
  • ท่าน CKO สู้ๆ.. พี่เม่ยมี ไอเดียมาฝากค่ะ จะทะยอยส่งให้ทางเมล์ละกันค่ะ

ขอโทษอาจารย์ด้วยนะคะที่เพิ่มงานให้ ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยอีกคนค่ะ หากมีอะไรให้พี่จุดช่วยบอกได้นะคะ อยากบอกอาจารย์ว่าช่วงนี้อาจารย์เหนื่อยก่อนนะคะ เมื่อผลของการทำที่เหนื่อยออกผล คงจะช่วยให้อาจารย์หายเหนื่อยไปได้เยอะ เพราะความเหนื่อยของอาจารย์ช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสบรรเทาอาการลง หรือมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้แม้คนมีเงินก็ไม่สามารถหาซื้อได้ แต่เขาเหล่านั้นดีขึ้นได้  เพราะ Heart  Head  and  Hand  " ของผู้มีนามว่า ปารมี  ทองสุกใส  " ค่ะ

กำลังใจจากทุกคน และผลลัพธ์อันจะส่งผลดีต่อผู้ป่วย เป็นแรงผลักให้ ยอมเหนื่อยสุดใจขาดดิ้นเลยค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท