เงินยังชีพเพิ่ม 200 ถูก "ดอง" อนาถวันผู้สูงอายุ


เงินยังชีพเพิ่ม 200 ถูก "ดอง" อนาถวันผู้สูงอายุ คลังยันส่งท้องถิ่นจ่ายแล้ว แฉก้อนเดิมโดน "หัก-งาบ" อีก 6 ปีไทยสู่ "สังคมคนแก่"
     เผยอีก 6 ปี  ไทยเข้าสู่ "สังคมคนแก่" ยอดพุ่งเฉียด 10 ล้าน พม. รับเบี้ยยังชีพผู้เฒ่ายังมีปัญหา บางพื้นที่จ่ายไม่ครบ หักหัวคิว ไม่โปร่งใส อนาถยังไม่ได้เพิ่มเป็น 500 บาท ตาม กม. แต่คลังยันส่งเงินให้แล้ว ลูกกตัญญู  6.5 แสนขอลดหย่อนภาษี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 13 เมษายนของทุกปี ถือเป็น "วันผู้สูงอายุ" แต่สถานการณ์ปัจจุบันมีจำนวน       ผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีจำนวนไม่น้อยต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง ขาดลูกหลานคอยดูแลปรนนิบัติ      ต้องเผชิญปัญหาขาดรายได้ยังชีพ รายได้จากรัฐที่ควรจะได้รับเพิ่มขึ้นตาม พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546        จากเดือนละ 300 บาท เป็น 500 บาท ผ่านมาแล้ว 2 ปี ก็ยังไม่ได้เพิ่มให้ นอกจากไม่ได้เพิ่มแล้วยังมีปัญหาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) บางแห่งจ่ายเงินไม่ครบ บางแห่งหักหัวคิว บางแห่งบริหารจัดการไม่โปร่งใส
นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงกรณีตัวแทนผู้สูงอายุข้องใจเรื่องยังไม่ได้ปรับเงินเลี้ยงชีพผู้สูงอายุจาก 300 บาท เป็น 500 บาทต่อเดือนว่า การเบิกจ่ายเงินดังกล่าวต้องดำเนินการ   ตามระเบียบว่าด้วยการเบิกจ่ายของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นตัวกลางรับเงินอุดหนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศจากกรมบัญชีกลาง  หลังจากนั้นกรมจะจัดสรรเงิน

ให้ อปท. ต่าง ๆ ตามที่ขอเบิกเข้ามา คงต้องไปติดตามดูว่ามีปัญหาในขั้นตอนระเบียบปฏิบัติที่ใด    "มีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนท้องถิ่นทุกปี ปีละหลาย ๆ งวด ต้องดูว่าปีนี้ไม่ได้รับเพราะอะไร เนื่องจากเราเพิ่งเบิกจ่ายไปให้     เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และแต่ละปีจ่ายไม่เคยขาดตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.รายจ่ายงบประมาณ ตั้งแต่ปรากฏเป็นข่าวผมตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ดูแล้วว่าไม่มีส่วนติดขัดอะไรที่กรม" นายบุญศักดิ์กล่าว
นายพิมล แสงสว่าง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพิทักษ์ผู้สูงอายุ (สทศ.) สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้สูงอายุในปัจจุบันว่า จากข้อมูลทะเบียนราษฎรจำนวนผู้สูงอายุสิ้นปี 2547 มีจำนวน 6.2 ล้าน หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และอีก 6 ปีข้างหน้า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 9.2 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้ถือว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา อาทิ ทำให้เศรษฐกิจไม่ขยายตัว เพราะประชากรวัยแรงงาน    ไม่ขยายตัว และต้องเพิ่มภาระการดูแลผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ทำให้ระบบเศรษฐกิจไม่ขยายตัว รวมทั้งปัญหาการจัดการด้านสิทธิต่าง ๆ ของผู้สูงอายุอาจไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึงเป็นธรรม อย่างสิทธิการรักษาพยาบาล เป็นต้น
นายพิมลกล่าวถึงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ได้รับเพิ่มจากเดือนละ 300 บาท เป็น 500 บาท ว่าปัจจุบันมีผู้สูงอายุมีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพจำนวน 1.07 ล้านคน แต่ยังมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการรับจ่ายเงินอยู่ตลอดเวลา อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางจังหวัด ยังหักค่าหัวคิวเบี้ยเลี้ยงยังชีพ ทำให้ผู้สูงอายุได้รับเงินไม่ครบ และบางพื้นจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สูงอายุไม่ถูกต้อง  บางคนอายุไม่ถึง 60 ปี กลับมีชื่อได้รับเบี้ยยังชีพ ส่วนการปรับเพิ่มเป็น 500 บาทนั้น ยอมรับว่ายังไม่คืบหน้า เพราะต้องรอจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วถึงจะคัดเลือก   คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานผู้สูงอายุแห่งชาติเข้ามาพิจารณาในเรื่องนี้
นายวินัย วิทวัสการเวช ที่ปรึกษาด้านพัฒนาแผนภาษี กรมสรรพากร เปิดเผยว่า ฐานข้อมูลในปีภาษี 2547 ซึ่งเป็นปีแรกที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยขอหักค่าลดหย่อนเลี้ยงดูบุพการี 595,000 ราย จากจำนวนผู้ยื่นแบบเสียภาษีทั้งสิ้น 7.3 ล้านราย ในปีภาษี 2548 มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านราย   ดังนั้น ผู้ใช้สิทธิเลี้ยงดูบุพการีน่าจะขยายตัวในสัดส่วนที่สอดคล้องกัน คือประมาณ 8.5%  หากเพิ่มในอัตราดังกล่าวก็คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิเลี้ยงดูบุพการีประมาณ 6.5 แสนราย ต่อไปจะประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีการเลี้ยงดูบุพการีมากขึ้น เชื่อว่าจะมีผู้รับรู้ข้อมูลและมาใช้สิทธิกันมากขึ้นตามลำดับ ทำให้ยอดรวมสูงกว่าปีที่แล้วแน่นอน  อนึ่ง กรมสรรพากรได้ให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าเลี้ยงดูบุพการีมาหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายได้  โดยค่าเลี้ยงดูบิดามารดารายละ 3 หมื่นบาท

มติชน 14 เม.ย. 49

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 24160เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2006 11:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 11:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
นางกรองทอง เขียวรอด

อายุครบ 60 ปีวันที่ 31 กรกฎาคม 2553 เขตสวนหลวงนัดให้มาแจ้งลงทะเบียบคนวัยชราเพื่อขอรับเบี้ยเลี้ยงชีพ เดือน พฤศจิกายน 2553 ถึงวันนี้เดือนเมษายน 2554 ยังไม่ได้รับเงินสักบาทเดืยว ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุอันใด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท