มารยาทในการรับประทานอาหารแบบยุโรป
เมื่อวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2552 ผมได้มีโอกาสไปสังเกต การฝึกประสบการณ์ภาคปฏิบัติการ "มารยาทในการรับประทานอาหาร" แบบยุโรป ของนิสิตชั้นปีที่ 1 ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชา "ทักษะชีวิต" (001173 Life skills) ณ ห้องกาสะลอง โรงแรมแกรนด์ริเวอร์ไซด์ (Grand Riverside)
ผู้ที่ฝึกอบรมคือ คุณสมชาติ จำปาทอง..ส่วนนิสิตเป็นนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์และอื่นๆ ของม.นเรศวร จำนวน 105 ท่าน (มีน้องภูมิ ลูกชาย รศ.ปรียานันท์ แสนโภชน์ ด้วย-มาทราบภายหลัง)
รายการอาหารประกอบด้วย
- Roll & Butter (ขนมปัง+เนย)
- Cream soup (ซุปข้น)
- Salad (สลัดน้ำข้น)
- Steak (สเต๊กหมู)
- Ice cream
อุปกรณ์ที่ใช้บนโต๊ะอาหารมี 16 ชิ้น
- ผ้า napkin (ผ้ากันเปื้อนและเช็ดปาก)
- แก้วน้ำ
- ช้อนซุป
- มีดสลัด
- มีดสเต๊ก
- มีดปาดเนย
- ส้อมสลัด
- ส้อมสเต๊ก
- ช้อนไอศครีม
- จานขนมปัง
- ถ้วยใส่เนย
- ถ้วยซุป
- จานรองซุป
- จานสลัด
- จานสเต๊ก
- ถ้วยไอศครีม
เมื่อนิสิตมี 105 คน พนักงานต้องเตรียมอุปกรณ์ 1,680 ชิ้น ด้วยกัน
 |
กระบวนการเรียนรู้
- ทางโรงแรมจัดโต๊ะยาวเป็น 3 แถว มีเก้าอี้ 6 แถวๆ ละประมาณ 18 ตัว รวมประมาณ 108 ตัว...นั่งกันอย่างมีระเบียบในภาพ (นิสิต ต้องแต่กายชุดนิสิตที่สุภาพด้วย)
- มารยาทบนโต๊ะอาหาร อย่างแรกคือ ไม่ควรคุยเสียงดัง
- อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารทางขวามือ (ของเรา) ประกอบด้วย
- (ขวาบน) แก้วน้ำ, ช้อนไอศครีม
- (ขวา-เรียงจากด้านนอกเข้ามา) ช้อนซุป, มีดสลัด, มีดสเต๊ก
- อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารตรงกลาง (ของเรา) ประกอบด้วย
- ผ้า napkin
- อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารทางซ้ายมือ (ของเรา) ประกอบด้วย
- (ซ้าย) ซ่อม 2 ชนิด ส้อมสลัด, ส้อมสเต๊ก
- (ซ้าย-ถัดไป) จานขนมปัง+มีดปาดเนย ด้านบนมีถ้วยใส่เนย
มารยาทบนโต๊ะอาหาร
- อุปกรณ์ชิ้นแรก ที่ต้องรู้จักคือ ผ้า Napkin
สำหรับกันเปื้อนและเช็ดปาก ดูภาพการพับได้ที่นี่ <napkinfold> ผ้า napkin มีหลายแบบชมภาพได้ที่นี่
<click> รูปแบบที่นำมาวางบนโต๊ะอาหารมีชื่อเฉพาะว่า
"Bishop's Hat
Napkin"
วิธีใช้คือ เอามือ 2 ข้างจับส่วนติ่งตรงปลาย แล้วดึงออกจากกัน เอาวางบนตัก หันด้านพับตรงกลางอยู่นอกตัว ส่วนที่เป็นชายหันเข้าหาตัว สำหรับกันเปื้อน เวลาจะเช็ดปากให้เอาด้านในเช็ด (จะได้มองไม่เห็นรอยเปื้อน) เวลาลุกจากโต๊ะ ให้วางบนเก้าอี้หรือพนักเก้าอี้
- อุปกรณ์ต่อมาคือแก้วน้ำ (ของเรา) อยู่ขวามือ (ข้างถนัด)
เวลายกแก้วน้ำ ช้อนใต้แก้ว ด้านนอก 3 นิ้ว ด้านใน 2 นิ้ว ดังภาพ
- อุปกรณ์สำหรับเมนูรายการแรก ขนมปัง+เนย
(+จานใส่ขนมปัง) ได้แก่มีดปาดเนย กับ เนย (ก้อน)
(+ถ้วยใส่เนย)...ใช้มีดปาดเนยหั่นขนมปังเป็นชิ้นๆ ก็ได้
ตามใจชอบ..เอามีดปาดเนยหั่นเนยมาทา แล้วใช้มือช่วย
หยิบชิ้นขนมปังที่ทาเนยแล้วเข้าปากได้...
- รายการอาหารต่อมาคือ ซุป...ซุปมี 2 ประเภทคือ ซุปข้น
กับซุปใส...อุปกรณ์ประกอบด้วยถ้วยซุป จานรองซุป
และช้อนตักซุป...เวลาจะทานซุปและซุปยังร้อนอยู่
เราไม่ใช่ปากเป่าให้เย็น (คงไม่มีใครทำหรอก..อิอิ
แต่ก็ไม่แน่น๊ะ) ถ้าเป็นซุปใสให้ปาดเข้าหาตัว
แต่ถ้าเป็นซุปข้นเราให้ปาดออก (จากตัว)
(เหตุผลคือถ้าเกิดเราไปนั่งทานอาหารกับแฟน นั่งอยู่ตรงกันข้าม
เวลาซุปติดถ้วยเขาจะได้มองไม่เห็น..) ซุปในภาพน่าจะเป็นซุปใส
(ผมไม่ได้ทานด้วย เพราะ (1) ไป observe (2) ทานมังสะวิรัติ
ร่วมโต๊ะกับเขาไม่ได้)...ถ้ายังไม่อิ่มให้เอาช้อนซุปไว้ในถ้วย,
ถ้าอิ่มแล้วเอาช้อนวางไว้ที่จานรอง..
- รายการอาหารต่อมาคือ สลัด เป็นสลัดผัก น้ำสลัดมี 2 ชนิด คือ
น้ำข้น กับ น้ำใส ที่นำมาเสริฟเป็นสลัดน้ำข้น
อุปกรณ์ที่ใช้มีจานใส่สลัด มีดสลัดอยู่ขวามือด้านนอก
ส่วนส้อมอยู่ด้านนอกซ้ายมือ..วิธีจับ
ให้จับเข้าไปให้ชิดส่วนที่เป็นมีดและส้อม
ให้จับให้เอียงเข้าหาตัวโดยใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือทั้ง 2
ข้างกดไว้ (อีก 3 นิ้ว กำด้ามช้อนหรือมีดแล้วแต่กรณี)
- ต่อมา เป็นรายการของสเต๊ก ชนิดของสเต๊กมี
- สเต๊กเนื้อวัว เนื้อที่ทำสเต๊กมี T-bone สันนอก สันใน
- สเต๊กหมู มี 2 ชนิด คือ สันนอก และสันใน
- สเต๊กปลา มี 2 ชนิด คือ ปลาแซลมอลและปลากระพง
- ส่วนสเต๊กไก่มี 1 ชนิดคือ เนื้ออกไก่
- อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสเต๊กมี จานใส่สเต๊ก มีดหั่นสเต๊ก
และส้อมสเต๊ก วิธีหั่นสเต๊ก ใช้ส้อมเสียบเนื้อสเต๊ก (เป็นสเต๊กหมู)
อยู่ด้านใน (เข้าหาตัว) เอามีดหั่นด้านนอก (มีอยู่มือขวา
ส้อมอยู่มือซ้าย) หั่นเสร็จจะได้ใช้ส้อมส่งเข้าปากได้เลย
(ได้ชิ้นเล็ก)..เวลาเรายังทานไม่อิ่ม
ให้วางมีดกับส้อมอยู่ตรงกันข้ามกันของจาก
แต่ถ้าอิ่มแล้วก็รวบมาอยู่ด้ายกันด้านขวามือ
- รายการสุดท้ายเป็นไอศครีม..ไม่ต้องมีมารยาทมาก เมื่อพนักงานนำมาเสริฟ ก็ทานได้เลยไม่ต้องรอกันเหมือนรายการอาหารอื่น (ซึ่งต้องรอให้พร้อมกันก่อนถึงจะทานได้) อุปกรณ์ก็มีถ้วยไอศรีมกับช้อนไอศครีม..(ไม่มีภาพให้ชมนะครับ เพราะรายการอาหารของผมมี 2 อย่าง เป็นข้าวผัดมังสะวิรัติและไอศรีมช็อคโกแลต..ช่วงนี้จึงทานไอศครีม ไม่ได้ไปถ่ายภาพ..อิอิ)
- เกร็ดเล็กน้อย ไวน์มี 3 ชนิด มีไวน์แดง ไวน์ขาว และไวน์ชมพู ดีกรีของไวน์ อยู่ระหว่าง 11-13.5 ดีกรี..ส่วนเบียร์มีดีกรี ระหว่าง 4-6.5...และสุราหรือเหล้า มีดีกรี 35-43..
สำหรับค่าอาหารนั้น ทางมหาวิทยาลัยจ่ายให้ (จากค่าลงทะเบียน) อัตราคนละ 150 บาท อาจารย์ผู้ควบคุมฟรี ได้แก่ ผศ.ดร.ปาจรีย์ ทองสนิท..ส่วนผมก็ได้อาศัยทานฟรีด้วย และพี่ๆ ที่รับลงทะเบียน (และหอบเงินมาจ่ายให้ทางโรงแรมด้วย) นิสิต 2 คน ทานผัดซีอิ้ว
 |
พี่สมชาติ บอกน้องๆ ว่า พี่ไปเรียนมา อาจารย์เขาให้พูดให้เขาฟัง (กันสองต่อสอง) ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง แต่พี่พูดให้น้องฟัง 45-60 นาที ระหว่าง 11.20-12.20 น. น้องๆ เรียนภาคปฏิบัติแล้วหวังว่าคงนำประสบการณ์นี้ไปใช้อนาคตอันใกล้ต่อไป...สวัสดี
beeman หวังว่าความรู้ที่ capture มาได้ (ครั้งแรก) คงเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่เข้ามาเยี่ยมไม่มากก็น้อย ส่วนข้อผิดพลาดที่มี ถือเป็นความไม่รู้ของ beeman ท่านที่ทราบกรุณาช่วยแก้ไขมาด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้า...
 |
|
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์ |
ความเห็น (24)
มีประโยชนดีมากครับ แล้วจะตามมาอ่านด้วยความระทึกใจพลัน
เป็นโครงการที่ดีค่ะ แต่ต้องฝึกบ่อยๆ ไม่งั้นเดี๋ยวก็ลืม
ปกติข้าราชการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้รับการอบรมเช่นกันจะได้ฝึกก็ตอนไปประชุมสัมมนานี่ล่ะค่ะ แต่แอบลืมบางเรื่องเหมือนกันค่ะ
ดีค่ะอาจารย์ที่มีการฝึกให้นักศึกษา โตขึ้นเวลาต้องเจอจะได้ไม่เคอะเขิน พวกที่ไม่เคยก็จะมีปัญหา แบบว่ากลัวทำไม่ถูกแล้วอายคนอื่น เคยไปงาน sit down dinner ของสถานฑูตมาเลย์แล้วมีนักข่าวที่รู้จักบังเอิญมานั่งโต๊ะเดียวกัน เขาบอกว่าโชคดีนะถ้าไม่เจอเราก็ต้องแอบดูคนอื่นว่าทำไง เลยต้องบอกตลอดรายการ ไม่งั้นหยิบช้อนหยิบส้อมผิดเซ็ต แต่ส่วนตัวนะคะ ถ้ามีแต่คนรู้จักสนิทกันทั้งโต๊ะก็ไม่แคร์ ใช้อะไรก็ได้ พอมีคนอื่นก็ต้องทำตามธรรมเนียมให้ถูกต้องเพื่อมารยาท
- ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมน๊ะครับ
- และขอขอบคุณทุกความเห็นที่มีประโยชน์ และ share ประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมรับประทานอาหารยุโรปกับแขก
- ตัวผมเองก็กลัวลืมจึงเขียนบันทึกไว้เตือนความจำด้วย..อิอิ
โอ้วว..อยากเรียนมั้งจัง...เห็นอาหารแล้วหิวจังเลย...
รายการอาหารประกอบด้วย
- Roll & Butter (ขนมปัง+เนย)
- Cream soup (ซุปข้น)
- Salad (สลัดน้ำข้น)
- Steak (สเต๊กหมู)
- Ice cream
- กาแฟเย็น....อร่อย
- รู้ภาษาจีนด้วยเก่งจังเลย Notebook ที่บ้านเห็นเป็นภาษาจีน ส่วนเครื่องที่ทำงานเห็นเป็นตัวอะไรไม่รู้..อิอิ
DEK<<k-Me>>NU
ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ นะคะ
มันมีประโยชน์ในการสอบมากเลยคะ
สุภาพร สารบุญเป็ง
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
มันทำให้หนูมีโอกาศได้คะแนนเยอะขึ้นอีก
ขอบคุณมากนะคะที่ให้สิ่งดีๆคะ
เรียน bioกะอาจารย์สนุกมากๆ
ขอบคุณสำหรับ comment ของ
- DEK<>NU
- สุภาพร สารบุญเป็ง
ใครคิดสิ่งใดที่ดีๆ ก็ได้สิ่งนั้นตอบแทน..
Dear Aj.Beeman,
It's a very good experience for our students. Table manners show how educated people are. Students need not only academic knowledge but cultural skills as well. Very impressive ^_^ Thanks for sharing kha.
สวัสดีครับอ.อ้อม
- อยู่ต่างประเทศใช้ภาษาอังกฤษง่ายกว่า
- ส่วนผมก็มีปัญหาในการสื่อภาษาอังกฤษเหมือนกัน
- ชอบที่ว่า "นิสิตได้เรียนรู้วัฒนธรรมการรับประทานอาหารของชาวยุโรปด้วย
- ตอนสุดท้ายเหมือนจะมี AAR ตัวแทนนิสิต 2-3 คน สะท้อนมุมมองที่จัดให้เขามาทานอาหาร ดีมากเลย แต่ผมไม่ได้ captureมา
- มี 1 คน ที่นิสิตเขาออกค่าอาหารเองด้วย (150 บาท)
ว้าว...ตอนไปรับประทานอาหารที่โรงแรม
ไม่ได้พกสมุดโน๊ตไปจด
พอได้มาอ่านแล้วก้อเก็ทเลยค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้
ไฟนอล ผ่านฉลุยแน่เลยค่ะ
- comment ของปุ้มปุ้ยเป็นกำลังใจให้คนเขียนมาก
ขอบคุณมากมายนะคะ ดีจังเลยที่มีเนื้อหามาให้ นู๋ลืมไปหมดแร้วค่า
ตอนแรกก๊กลุ้มใจอยู่ ตอนนี้หายห่วงแล้ว
นู๋จะสอบวันอังคารนี้
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
- เปลี่ยนจากละอองดินเป็นละอองดาวได้ไหม..อิอิ
- เป็นกำลังใจให้ครับ
สวัสดีค่ะ
มาเรียนรู้มารยาทการทานอาหารแบบยุโรปค่ะ
รายละเอียดเยอะค่ะ
ทานที่บ้านก็จะสบายในสไตล์ตัวเอง แต่ถ้าเข้าสังคมก็จะทำตามกาลเทศะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
- ทานอาหารที่บ้านเราก็ต้องมี สไตล์ของตัวเองครับ
- ผมชอบทานอาหารที่บ้านครับ..style vegetarian
- ส่วนมากไปทานนอกบ้าน (ที่มีเจ้าภาพ) เขามักไม่ค่อยเตรียมอาหารให้เรา
- แต่เรื่องมารยาทในการรับประทานอาหารเราก็จำเป็นต้องเรียนรู้ เพราะเป็นมารยาทในสังคม และวัฒนธรรมของการอยู่ร่วมกัน..เราต้องปรับตัวครับ..ถือเป็นกำไรชีวิต..อิอิ
เอกกมล ค้าสม
เป็นความรู้ที่ดีมากคับ
ผมจะได้นำไปปรับปรุง
โรงแรมที่ผมทำงาน
ครับ
ขอบคุณมากครับ
- ดีมากครับ น้องเอกกลม
- ยินดีครับ ที่บันทึกนี้มีประโยชน์ให้สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานได้
มีประโยชน์จริงๆ ค่ะดิฉันเคยเรียนที่วิทยาลัยครู(นานมากแล้ว)อาจารย์ก็พาไปและสามารถนำไปใช้ได้จริง และยังนำมาสอนเด็กได้ด้วย
ดีมากเลยค่ะ จะได้ปฏิบัติได้ถูกต้อง
...ตามมาอ่านค่ะอาจารย์บีแมน
- คงพอใช้ได้นะครับ
- บางเรื่องผมก็ลืมไปแล้ว