วันก่อนได้มีโอกาสไปทำพาสปอร์ต ออกจากที่ทำงานก็เกือบเที่ยงแล้ว ถึงศาลากลางจังหวัดก็เกือบบ่าย คนเยอะมากกกกก เลยได้คิวที่เจ็ดร้อยกว่า ตอนที่ไปถึงเขาเรียกคิวที่ 165 ก็เลยมานั่งคำนวณเวลาดูว่าเราจะได้ทำกี่โมง คำนวณเสร็จสรรพตัวเลขออกมาว่าอีก 14 ชม.ถึงคิวเรา แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะถ้าได้ทำหลังเที่ยงคืน
ทราบมาก่อนแล้วว่าเขาจะบริการทำให้จนหมดโดยไม่เกี่ยงเรื่องเวลา เลยมานั่งคิดพร้อมกับสงบสติอารมย์ เพราะคนแน่นมาก อากาศก็ร้อน ที่นั่งก็หายาก เลยบ่นกับตัวเองว่า ถ้าเราร้อนไปตามกระแสมีหวังกลับบ้านมือเปล่าแน่ ใจก็คิดไปว่า แล้วเขาทำอยู่ได้อย่างไรถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ทุกวัน ทำไมเขาไม่คิดแก้ปัญหา หรือว่าเหตุการณ์จริงมันไม่ได้เลวร้ายตามที่เราคิด ไหนๆก็มาแล้วดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆก่อนแล้วกัน
พลันก็คิดถึงภาพที่ รพ.เรา คนไข้รอคิวเป็นตับ แน่นไปหมดทั้งๆที่เราก็อยากให้บริการที่ดีที่สุดแก่ทุกๆคนแต่เราก็ทำได้ดังที่เห็น แสดงว่าเขาก็คงเป็นเหมือนเรา คืออยากบริการ เขาก็คงพยายามทำดีที่สุดแล้วและคงได้แค่นี้ ก็เลยเห็นใจและเข้าใจ จึงหาทางออกด้วยการคุยกับคนข้างๆ ชวนเขาออกไปเดินเล่นไปเที่ยว ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส เห็นไหมว่า แม้ในยามทุกข์(เพราะไม่รู้ว่าจะได้ทำหรือเปล่า) ร้อน(เพราะอากาศ) ก็สามารถเก็บเกี่ยวความสุขเล็กๆน้อยๆได้เสมอ ขอเพียงใจเรา "เย็น" และคิดในสิ่งที่ดีเข้าไว้ อย่าตีตนไปก่อนไข้ ถ้าหากไม่เจอคนเยอะอย่างนี้คงไม่มีโอกาสได้เดินเล่นแถวชายหาด คงไม่ได้เพื่อนใหม่ที่น่ารัก (เพราะได้อาศัยรถกลับตอนสี่ทุ่มครึ่ง) เป็นแน่
วันนั้นนอกจากได้ทำพาสปอร์ตเสร็จตามความตั้งใจแล้ว ได้ไปพบเห็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่งมาก (ช่วงที่ออกไปเดินเที่ยวเพื่อรอคิว) เป็นเรื่องของลุงแก่ๆคนหนึ่ง วันหลังจะเล่าให้ฟัง ......เฮ้องานนี้เสร็จสมอารมย์หมายเพราะ "Positive thinking" จริงๆ เพราะถ้าคิด Negative คงกลับตั้งแต่ ได้ตัวเลขจำนวนชั่วโมงที่ต้องรอคิวแล้ว (เหมือนกับอีกหลายๆคน) ต้องขอบคุณ อ.สาทิศ อินทรกำแหงที่ได้เขียนเรื่อง Positive thinking ออกมาให้อ่าน
ไปทำพาสปอร์ตที่ไหนหรือ
เจ้าหน้าที่ทำทั้งวันทั้งคืนเชียว น่ารักจริงๆ
อยากจะเดาว่า คุณ uri เปิดดูพาสปอร์ตไปแล้วเกือบสิบครั้งให้สมกับที่รอนาน
ที่สงขลาค่ะ ใช่ค่ะ เจ้าหน้าที่เขาน่ารักจริงๆเพราะอะไรรู้ไหมคะ Uri รอมาเป็นวันก็เลยเบลอพอถึงคิวตัวเอง เขาเรียกแล้วยืนเฉยค่ะ พอสังเกตุเห็นคนที่คิวหลังเราเขาได้เข้าก่อน สติก็เลยกลับมา น้องเขาน่ารัก เลยให้เข้าคูหาอื่นแทน ตอนนั้นสี่ทุ่มสี่สิบแล้วค่ะ
ตอนที่กลับยังมีคนนั่งรออีกเยอะเป็นร้อยค่ะ คิดว่าเที่ยงคืนคงไม่หมดแน่...........ยังค่ะ ยังไม่ได้รับยังไม่เห็นเลยถึงกำหนดส่งวันนี้ค่ะ เขาส่งให้ทางไปรษณีย์ ยังห่วงอยู่เลยว่าแม่จะลืมรอรับหรือเปล่า เพราะแม่อยู่บ้านคนเดียว ถ้าลืมแล้วแย่เลยเพราะเขากำหนดวันมาให้ชัดเจน
ช่วงนี้มุสลิมทำพาสปอร์ตเพื่อไปซาอุค่ะ เนื่องจากว่าปีนี้ รัฐบาลจำกัดจำนวนในการไป ใครส่งรายชื่อก่อนก็ได้ไป ถ้าเต็มจำนวนก็ปิดค่ะ
ชอบอ่านทุกอย่างที่บอกเกี่ยวกับแนวคิดเชิงบวก
อ่านแล้วมีความสุข
ขอบคุณที่กระตุ้นต่อมความสุข