การนำเอาสิ่งของที่เก็บรักษามานานอันเป็นสิ่งสะท้อนวิถีไทยมามอบให้วัดได้จัดแสดง คือ การนำเอาความภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนมาให้ผู้อื่นได้ร่วมชื่นชมเมื่อปลายเดือนมีนาคมได้มีโอกาสไปชมวัดบางอ้อยช้าง ในพื้นที่ของ อบต.บางสีทอง ดิฉันไปเพื่อศึกษาการทำผนังของพระอุโบสถ แต่สิ่งที่ได้เห็นกลับตื่นตาตื่นใจจนต้องนำมาเล่าให้ฟัง เพราะที่วัดบางอ้อยช้างได้มีการเก็บรวมรวมสิ่งของที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น นำมาจัดไว้เป็นหมวดหมู่ มีเรือนไทยที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ดิฉันได้พบกับหลวงพี่รูปหนึ่งท่านเป็นผู้ดูแลอาคารพิพิธภัณฑ์ ดิฉันอยากจะเรียกท่านว่า"ปราชญ์ชาวบ้าน" จริงๆนะ....น่าเสียดายดิฉันลืมถามชื่อของท่าน...มัวแต่ชื่นชมกับสิ่งของจำพวกตู้พระธรรม ตู้พระไตรปิฎก ถุงผ้าไหมที่เก็บสมุดข่อย ยิ่งตื่นตาตื่นใจมากขึ้นไปอีกเมื่อหันไปเห็นปิ่นโตโบราณที่มีลายดอกสีสดใด อย่านึกของใหม่นะ โบฯมากๆๆๆๆ(ขอบอก) โอ้ย...ขนแขนสแตนอัพเลยนะคะ โอย....ทึ่งอึ้งกิมกี่ไปเลยค่ะ ท่านเล่าถึงเรื่องราวของสิ่งของประดามีในพิพิธภัณฑ์ได้รับมอบมาจากชาวชุมชนเป็นส่วนใหญ่ รวมกับของวัดเองบ้างบางส่วน ที่สำคัญ คือ ของทุกชิ้นมีประวัติความเป็นมา เพียงเท่านี้ก็คุ้มค่ากับการได้มาชมแล้ว แต่ที่เหนือกว่าข้าวของที่นำมาจัดแสดงไว้....คือ วิธีคิดของชาวชุมชนวัดบางอ้อยช้าง ที่มุ่งรักษาวิถีชีวิตของท้องถิ่นโดยไม่ยึดเอาสิ่งของทางวัฒนธรรมไว้กับตนอย่างมีอัตตา แต่กลับหวงแหนวัฒนธรรมอย่างผู้มีจิตวิญญาณไทย พร้อมที่จะนำมาให้ทุกคนไทยได้ชื่นชม นี่น่าจะเป็นอีกภาคหนึ่งของKM เป็นKMแบบของชาวบ้านที่แม้จะไม่ได้เรียนรู้เรื่องKM แต่ชาวบ้านเขาก็มีวิธีคิดแบบของเขา การนำเอาสิ่งของที่เก็บรักษามานานอันเป็นสิ่งสะท้อนวิถีไทยมามอบให้วัดได้จัดแสดง คือ การนำเอาความภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนมาให้ผู้อื่นได้ร่วมชื่นชม เพราะการเก็บไว้ก็ชื่นชมได้คนเดียวดูไม่คุ้มค่าเลย แต่ถ้านำมาให้วัดได้จัดแสดงคนอื่นก็ได้ชื่นชมด้วย นี่แหละวิธีคิดแบบชาวบ้าน แล้วจะไม่ให้เรียกว่าท้องถิ่นแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร คนบางอ้อยช้างนี่น่าทึ่งจริงๆ
"การนำเอาความภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนมาให้ผู้อื่นได้ร่วมชื่นชม" เรื่องนี้ที่ชุมชนเกาะเรียน อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่ดำเนินงานตามโครงการไตรภาคีร่วมพัฒนาสุขภาพชุมชน กำลังดำเนินการอยู่ครับ โดยการนัดกันทุกวันศุกร์ "แหลงเรื่องแต่แรก" (เล่าเรื่องความภูมิใจในประวัติศาสตร์ชุมชน)
ผมไปนั่งฟัง แล้วรับได้ถึงความสุข เป็นการรื้อฟื้นของดีขึ้นมาเรียนรู้สู่การปฏิบัติใหม่ด้วยครับ
วิธีคิดของชาวชุมชนวัดบางอ้อยช้าง ที่มุ่งรักษาวิถีชีวิตของท้องถิ่นโดยไม่ยึดเอาสิ่งของทางวัฒนธรรมไว้กับตนอย่างมีอัตตา แต่กลับหวงแหนวัฒนธรรมอย่างผู้มีจิตวิญญาณไทย พร้อมที่จะนำมาให้ทุกคนไทยได้ชื่นชม นี่น่าจะเป็นอีกภาคหนึ่งของKM เป็นKMแบบของชาวบ้านที่แม้จะไม่ได้เรียนรู้เรื่องKM แต่ชาวบ้านเขาก็มีวิธีคิดแบบของเขา
"ภูมิปัญญา" ที่มีเสมือนเป็น มรดกไทย..ที่คนไทยเราควรลุกขึ้นมาหวงแหน และรักษา...ว่า"คนไทย"..ไม่เคย "อับจนปัญญา"...
หากเราลุกขึ้นมาช่วยกัน..มองให้เห็นและสนับสนุนให้โดดเด่น..แน่นอน...."ประเทศไทยเรา"..ไม่เพลี้ยงพล้ำต่อเหตุใดใด..เป็นแน่แท้
ดีใจมากคะที่ได้เปิดมาเจอ "บันทึก" เรื่องเล่าของอาจารย์...
เมื่อใดที่เราให้ชุมชนร่วมในการจัดการเรียนรู้
เมื่อนั้นคนรุ่นใหม่จะเห็นคุณค่า ภูมิปัญญาท้องถิ่น
จะรักและหวงแหนท้องถิ่นค่ะ
ศมส. (ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร) ได้ทำวิจัยรวบรวม พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น หรือพิพิธภัณฑ์ชุมชน ไว้ทั่วประเทศ ดูได้ที่นี่ http://infoma.sac.or.th/www/database/museums/GM-Content/index.htm ที่ ศมส. มีวีซีดีของบางพิพิธภัณฑ์ด้วย น่าจะติดต่อขอซื้อได้
วิจารณ์ พานิช