หน้าแรก
สมาชิก
นางสาว วิไลลักษณ์...
สมุด
lampang_network
การประชุมเครือข่า...
นางสาว วิไลลักษณ์ อยู่สำราญ
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การประชุมเครือข่ายฯสัญจร ครั้งที่ 3/2549 (3.1) ต่อ
กองทุนธุรกิจชุมชน เป็นความฝันของพวกเรา เราจึงสร้างขึ้นในแผนที่ภาคสวรรค์ ต่อไปเราจะต้องทำธุรกิจ แต่ว่าถ้าหากเราไม่มีการกระจายเงินมากันเอาไว้ในส่วนนี้แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนทำธุรกิจชุมชน
ในวาระที่ 3 ของการประชุมเครือข่ายฯสัญจร ครั้งที่ 3/2549 เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกับผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับประเด็นการแยกการบริหารจัดการเงินของสมาชิกทั้ง 3 กลุ่ม วันนี้เรามาดูกันต่อดีกว่าค่ะว่าการประชุมจะดำเนินต่อไปอย่างไร
วาระที่ 3 เรื่องสืบเนื่อง (ต่อ)
ผู้เข้าร่วมประชุมท่านหนึ่งได้กล่าวเพิ่มเติมว่าขอให้ทั้ง 3 กลุ่มมาเคลียร์กับเครือข่ายฯในเรื่องบัญชีและเงินว่าทั้ง 3 กลุ่มส่งเงินมาที่เครือข่ายฯเท่าใด และเอาไปจากเครือข่ายฯเท่าใด เพื่อที่จะทำให้บัญชีและเงินของเครือข่ายฯเป็นปัจจุบัน
จากนั้น ประธานกล่าวต่อไปว่า ประเด็นก็คือ มีเงินที่ไหลเข้ามาในเครือข่ายฯ และเงินที่ไหลออกจากเครือข่ายฯ ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่า “เครือข่าย” คือ พวกเรา ต้องเคลียร์ในจุดนี้ก่อนว่า ผมพยายามพูดมาตลอดว่าเครือข่ายฯไม่ใช่สามารถ (ชื่อประธาน) ผมไม่ได้จับต้องเงินของพวกท่านเลยแม้แต่สลึงเดียว เงินเข้ามาสู่บัญชีต่างๆก็ต้องมีบัญชีรับ-บัญชีจ่าย ทีนี้ก็ต้องมาเคลียร์กับคณะกรรมการกองทุนต่างๆ เอากฎระเบียบของกองทุนต่างๆมาคุยกันให้ชัดเจน ให้เข้าใจ เรื่องทำความเข้าใจก็คงคุยกันในเบื้องต้นแค่นี้ก่อนนะครับ คงไม่เป็นปัญหา
ในเรื่องกองทุนต่างๆนั้น ประธานได้เปิดเวทีให้กับรองประธานและคณะกรรมการกองทุนต่างๆ อธิบายกองทุนที่ตนเองรับผิดชอบดูแลอยู่ ลุงคมสันในฐานะรองประธาน และเป็นผู้ดูแลกองทุนกลาง ได้อธิบายเกี่ยวกับเงินในกองทุนกลางว่า ในแต่ละเดือนกลุ่มต่างๆจะส่งเงินเข้ามาที่เครือข่ายฯเพื่อกันไว้เป็นกองทุนกลาง 20% (คิดจากเงินที่เก็บจากการออมของสมาชิกวันละ 1 บาท ใน 1 เดือน เป็น 100% เป็นกองทุนกลางที่จะต้องส่งมาที่เครือข่ายฯ 20%) ซึ่งกองทุนกลาง 20% นี้จะคิดเป็น 100% แล้วแบ่งย่อยออกเป็นอีก 4 กองทุน คือ
1.กองทุนเสริมสภาพคล่อง 30%
2.กองทุนธุรกิจชุมชน 30%
3.กองทุนหมุนเวียน 30%
4.กองทุนค้ำประกัน 10%
คณะกรรมการที่รับผิดชอบกองทุนนี้ถูกเปลี่ยนมือมาตลอด ตอนนี้มาอยู่ที่ผม (ลุงคมสัน) การที่แบ่งเป็นกองทุนย่อยๆเหล่านี้มีความหมายทุกกองทุน กล่าวคือ
กองทุนหมุนเวียน มีประโยชน์สำหรับกลุ่มที่มีกองทุนหมุนเวียนอยู่ หากกลุ่มใดที่ดำเนินการกองทุนหมุนเวียน (เป็นกองทุนที่ให้สมาชิกกู้ยืมเงิน) แล้วเงินไม่พอให้สมาชิกกู้ยืม กลุ่มก็สามารถมากู้ยืมกับทางเครือข่ายฯได้ ตรงนี้ก็จะทำให้เครือข่ายฯได้ดอกผลจากการที่ให้กลุ่มต่างๆกู้ยืม ซึ่งดอกผลเหล่านี้ก็จะนำมาใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่างๆ อาทิ เอาดอกผลไปสมทบกับกองทุนทดแทน (ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในด้านเอกสารของเครือข่ายฯ หรือค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าอาหาร เป็นต้น)
ส่วนกองทุนเสริมสภาพคล่อง เอาไว้ใช้เมื่อกลุ่มใดที่เงินจัดสวัสดิการไม่พอ ก็สามารถทำเรื่องมาขอกู้ยืมเงินในกองทุนนี้ได้ โดยกลุ่มที่ต้องการใช้เงินในกองทุนนี้จะต้องส่งรายงานฐานะทางการเงินของกลุ่มขึ้นมาว่าตอนนี้ฐานะการเงินของกลุ่มเป็นอย่างไร กองทุนสวัสดิการขาดเงินจริงหรือไม่ เงินในกองทุนสวัสดิการที่ผ่านมาเอาไปจ่ายอะไรบ้าง นอกจากนั้นแล้วยังต้องทำรายละเอียดส่งเข้ามาในเครือข่ายฯว่าเมื่อได้เงินไปแล้วจะเอาไปทำอะไรบ้าง เพื่อที่เครือข่ายฯจะได้ทราบว่ากลุ่มนำเงินไปใช้ผิดประเภทหรือไม่ เป็นการให้ยืม ไม่ใช่ให้กู้
สำหรับกองทุนธุรกิจชุมชน เป็นความฝันของพวกเรา เราจึงสร้างขึ้นในแผนที่ภาคสวรรค์ ต่อไปเราจะต้องทำธุรกิจ แต่ว่าถ้าหากเราไม่มีการกระจายเงินมากันเอาไว้ในส่วนนี้แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนทำธุรกิจชุมชน (นี่คือ ที่มาที่ว่าทำไมต้องกระจายเงินกองทุนกลางบางส่วนมากันไว้เป็นกองทุนธุรกิจชุมชน) ตอนนี้หลายกลุ่มก็เริ่มทำธุรกิจชุมชนกันแล้ว โดยนำเงินที่มีอยู่ในกลุ่มมาทำกัน (เงินกองทุนธฑุรกิจชุมชนจะมีอยู่ทั้งในส่วนของชุมชน ซึ่งกันเงินออกมา 30
% จากเงิน 100% ที่เก็บจากสมาชิกวันละ 1 บาท และในส่วนของเครือข่ายฯ ซึ่งนำมาจากการเอาเงินกองทุนกลางที่แต่ละกลุ่มส่งเข้ามาที่เครือข่ายฯ 20% มากระจายออกเป็นกองทุนย่อยๆ) ในขณะที่อีกหลายกลุ่มยังไม่ได้ทำ แต่เอาเงินมาใช้จ่ายในการเสริมสภาพคล่อง (ในขณะที่เครือข่ายฯก็ยังไม่ได้ทำอะไรในส่วนของธุรกิจชุมชน)
ขณะที่กองทุนค้ำประกัน คงยังต้องมีเอาไว้ ไม่ไปไหน ตอนนี้มีเงินอยู่น้อยมาก ไม่กี่ร้อยบาท ต่อไปเราคงต้องมานั่งคุยกันว่าจะยังคงกองทุนนี้ไว้หรือจะตัดออกไป
เมื่อลุงคมสันกล่าวจบ พี่นก ยุพิน ได้ยกมือขอกล่าวเสริมประเด็นนี้ว่า ในเรื่องธุรกิจชุมชน ตอนนี้ดูแล้วเห็นว่าเครือข่ายฯยังรอเวลาอยู่ ซึ่งอาจมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เครือข่ายฯยังทำอะไรไม่ได้ ยังต้องรออยู่ นกเลยอยากจะขอยกตัวอย่างในเรื่องการทำร้านค้าสวัสดิการชุมชนที่ตอนนี้ทางกลุ่มบ้านดอนไชยได้ดำเนินการไปแล้ว ก้าวแรกที่เราเริ่มทำเราก็ได้กำไรแล้ว เดือนที่สองก็ได้กำไรเพิ่มขึ้นอีก เดือนที่สามก็เพิ่มขึ้นอีก (ดูรายละเอียดได้ที่ gotoknow.org/donchai ค่ะ ตอนนี้ทางกลุ่มได้ส่งรายละเอียดมาให้ผู้วิจัยแล้ว จะพยายามบันทึกให้เป็นปัจจุบันที่สุดหลังสงกรานต์นี้ค่ะ) คือ เรารู้ว่าชุมชนเรามีความต้องการอะไร เราควรจะทำอะไร นกดูแล้วว่าตอนนี้มันช้าถ้าเรามัวแต่เคลียร์ (บัญชี) กันอยู่ ถ้ารอเวลาก็จะยิ่งช้า เหตุการณ์ทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงตลอด
เมื่อพี่นกพูดมาถึงตรงนี้ ประธานได้พยายามตัดบท โดยกล่าวว่า โอเค ลุงคมสัน ได้ขออนุญาตที่ประชุมแล้วกล่าวว่า ในเรื่องธุรกิจชุมชนจริงๆแล้วผมคิดว่าเป็นเรื่องของกลุ่มหรือผู้นำกลุ่มในการตัดสินใจมากกว่า เครือข่ายฯจริงๆแล้วทำหน้าที่แค่เป็นผู้ให้คำปรึกษาหรือสนับสนุนในเรื่องเงิน จริงๆแล้วอยู่ที่ว่าคณะกรรมการกลุ่มต้องการที่จะทำอะไร ตอนนี้ต่างคนต่างมอง ต่างคนต่างพูด คือ มีแต่พูดแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจทำอะไรลงไป ยังไม่มีการเสนอโครงการอะไรขึ้นมาที่เครือข่ายฯ เพราะ ต่างคนต่างดู อีกอย่างหนึ่งผมคิดว่าคงจะมีความคิดว่าถ้าเราทำของเราเองก็จะเป็นสัดส่วนของเรา แต่ถ้าเราเสนอตัวนี้เข้ามา คงคิดว่าเครือข่ายฯก็คงปล่อยให้เราทำ เหมือนอย่างตอนนี้ใครทำก็ทำ ที่ไม่ทำก็ไม่ทำ นี่อาจเป็นความวิตกกังวลของแต่ละกลุ่มก็ได้ที่ว่าเมื่อเสนอแล้วก็ต้องเป็นคนทำ
กำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะค่ะ แต่จะขอตัดตอนเล่าแค่นี้ก่อนค่ะ เพราะ ยังมีเรื่องเล่าอีกยาว ในส่วนต่อไปจะเล่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการบริหารจัดการกองทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นค่ะ อดใจรอสักนิดนะคะ
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นางสาว วิไลลักษณ์ อยู่สำราญ
ใน
lampang_network
คำสำคัญ (Tags):
#uncategorized
หมายเลขบันทึก: 23869
เขียนเมื่อ 13 เมษายน 2006 21:53 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:43 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นางสาว วิไลลักษณ์...
สมุด
lampang_network
การประชุมเครือข่า...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท