ปลาบู่ทอง
นิทานพื้นบ้าน ปลาบู่ทอง เป็นนิทานที่ดีและมีความร้เกี่ยวกับปลาชนิดต่าง ๆ
ทำให้เรารู้ว่ามีปลาหลากหลายชนิดและทำให้เราได้ร้ว่านิทานพื้นบ้านมีความสำคัญมาก
ทำได้ดีมาก
ขอให้ทำดีอย่างนี้นะ
ชายผู้หนึ่งชื่อ นายทอง เป็นชาวบ้านเมืองพาราณสี นายทองมีภรรยา ๒ คน ชื่อขนิษฐาและขนิษฐี
ขนิษฐาเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตา โอบอ้อม ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ขนิษฐามี ลูกสาวที่สวยน่ารัก ๑ คน
ชื่อ เอื้อย ซึ่งเป็นเด็กสาวที่มีจิตใจดีงาม ขนิษฐี
ภรรยาอีกคนหนึ่งของนายทอง เป็นผู้ที่มีจิตใจหยาบกระด้าง อิจฉาริษยาขนิษฐาและเอื้อยอยู่ตลอดเวลา
ขนิษฐีมีลูกสาววัยไล่เลี่ยกับเอื้อย ๒ คน ชื่อ อ้ายกับอี่ ซึ่งอุปนิสัยและจิตใจเช่นเดียวกับผู้เป็นแม่
ขนิษฐีและลูกสาวทั้งสองมักหาโอกาสกลั่นแกล้ง รังแกขนิษฐาและเอื้อยโดยหวังกำจัดให้พ้นไปจากบ้าน
วันหนึ่งนายทองออกไปจับปลาตั้งแต่เช้าจนเที่ยงได้ปลาบู่มาหนึ่งตัว
จึงนำมาบ้านให้ขนิษฐาทำ ต้มยำปลาบู่ ขนิษฐาพยายามขอชีวิตปลาบู่ไว้แต่ไม่สำเร็จ
จึงทำทีว่าจะฆ่าปลาบู่แล้วแกล้งปล่อยให้หนีลงน้ำไป นายทองและขนิษฐีโกรธจัดจับขนิษฐาลงเรือบังคับให้ออกไป
จับปลากลับมาทำอาหาร แต่ขนิษฐาไม่สามารถ จับปลาได้ ซ้ำยังประสบอุบัติเหตุ
จนตกจากเรือจมน้ำเสียชีวิตไป ขนิษฐีอยู่บนบ้านเห็นขนิษฐาตกน้ำก็ดีใจ
และไม่ได้ช่วยเหลือแต่อย่างใดเอื้อยกลับมาบ้านในตอนเย็นและทราบว่าแม่ตกน้ำหายไปก็ร้องให้เศร้าโศกเสียใจ
ด้วยผลแห่งกรรมดีที่ขนิษฐากระทำไว้
เทวดาจึงยอมให้ขนิษฐาซึ่งเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์กลับลงมาอยู่ใกล้ๆเอื้อยในร่างของปลาบู่ทอง
เมื่อเอื้อยรู้ว่าแม่กลับมาเกิดเป็นปลาบู่ทองอยู่ที่ท่าน้ำก็ดีใจ ทุกวันเอื้อยจะมาพูดคุย
และนำอาหารมาให้แม่ปลาบู่ทอง ขนิษฐีและๆ สงสัยที่เห็นเอื้อยมีความสุข
จึงสะกดรอยตามเอื้อยจนรู้ เรื่องปลาบู่ทอง และวางแผนฆ่าแม่ปลาบู่ทองได้สำเร็จ
แม่เป็ดเก็บเกล็ดปลาบู่ทองได้และนำมาให้เอื้อย ขณะเดียวกันขนิษฐาก็อ้อนวอน
เทวดาขอลงมาอยู่กับลูกอีก เอื้อยนำเกล็ดปลาไปฝังไว้ในดิน
เทวดาสงสารขนิษฐาจึงแปลงร่าง ให้กลายเป็นต้นมะเขือ
ต่อมาขนิษฐีสงสัยว่าต้นมะเขือที่มีผลหวานอร่อยคือขนิษฐากลับมาเกิด
จึงทำลายต้นมะเขือทิ้งไป บังเอิญอี่ทำลูกมะเขือหล่นลงไปใต้ถุนบ้าน ปูนาซึ่งเป็นเพื่อนของเอื้อยเก็บได้
จึงนำไป ให้แม่เป็ด เอื้อยได้รับลูกมะเขือจากแม่เป็ดก็แอบไปฝังที่ชายป่า
เทวดายอมให้ขนิษฐาลงมาอยู่กับลูกอีกครั้งเป็นต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง
ซึ่งเมื่อต้องลมก็จะบังเกิดเสียงไพเราะดังกรุ๊งกริ๊งกริ๊ิ๋ง
เอื้อยก็มีโอกาสมาหาแม่ที่เป็นต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองได้ทุกวันโดยสามแม่ลูกไม่สงสัย
วันหนึ่งพระเจ้าพรหมทัตผู้ครองกรุงพาราณสีเสด็จประพาสย่านหัวเมืองเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร
เมื่อมามาถึงชายป่า ทรงสดับเสียงกรุ๋งกริ๋งที่ไพเราะ จึงทรงม้าออกตามหาที่มาของเสียง
จนพบต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองและเอื้อย เอื้อยตกใจวิ่งหนีไปก่อน
พระเจ้าพรหมทัตมีพระราชประสงค์จะนำต้นโพธิ์ไปปลูกในวัง
แต่ก็ไม่สามารถนำไปได้ จึงทรงประกาศว่าผู้ที่เคลื่อนย้ายต้นไม้ได้จะได้รับรางวัลอย่างงาม
วันรุ่งขึ้นมีคนมาแสดงตัวเป็นเจ้าของของต้นโพธิ์หลายรายหนึ่งในนั้น
คือขนิษฐีและลูกสาวทั้งสอง ซึ่งไม่สามารถทำได้
เอื้อยเห็นความมุ่งมั่นของพระเจ้าพรหมทัต และคิดว่าแม่จะมีความสุขหากได้เข้าไปอยู่ในวัง
จึงขอให้แม่ยอมเข้าไปอยู่ในวัง แล้วตนจะเข้าไปทำงานรับใช้ในวังเพื่อดูแลต้นโพธิ์จึงยอมขยับเขยื้อน
พระเจ้าพรหมทัตดีพระทัยและประกาศรับ
เอื้อยเข้าวังเป็นมเหสี ท่ามกลางความอิจฉาเคียดแค้นของขนิษฐี อ้ายและอี่ที่เห็นเอื้อยได้ดีต่อหน้าต่อตา
หลายเดือนผ่านไป ขนิษฐี และลูกสาวทนเก็บความริษยาไว้ไม่ได้
จึงออกอุบายไปส่งข่าวบอกเอื้อยว่าพ่อเจ็บหนักให้กลับมาเยี่ยม พอทราบข่าวเอื้อยก็รีบไปทันที
สามแม่ลูกวางแผนให้เอื้อยเดินข้ามสะพานไม้ที่วางหลอกไว้จนเอื้อยตกน้ำ
ตาย แล้วให้อ้ายเข้าไปในวังแทน เอื้อยเมื่อตายไป เทวดาเห็นว่ายังไม่สิ้นอายุขัยจริง แต่ไม่สามารถกลับเป็นมนุษย์ได้
ทันทีจึงกลายเป็นนกแขกเต้าบินกลับเข้าวัง และตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าพรหมทัตจนพระเจ้าพรหมทัตเกิดความสงสัย
ขณะเดียวกันก็ทรงเอ็นดูนกแขกเต้าเป็นอันมาก จึงทรงจับมาเลี้ยงในกรงและเอาใจใส่เป็นอย่างดี
กระทั่งอ้ายเกิดความไม่พอใจ และแคลงใจว่านกตัวนี้มีอะไรที่เกียวพันกับเอื้อยก็เป็นได้
จึงหาทางกำจัดแต่นกแขกเต้าก็สามารถหนีไป
ได้เมื่อหลบหนีออกมาจากวัง นกแขกเต้าต้องเผชิญกับอันตรายอีกหลายครั้ง จนกระทั่งพบฤาษีในป่าจึงชุบชีวิตให้นก
แขกเต้ากลับกลายเป็นเอื้อยดังเดิม และยังได้เสกเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อลบ ให้เป็นลูกของเอื้อยเพื่อคลายเหงา
ผ่านไปหลายปี เจ้าลบเกิดความสงสัยว่าพ่อเป็นใคร เอื้อยจึงเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง
ทำให้ลบร้องขอที่จะเข้าไปในวังเพื่อกราบทูลพระเจ้าพรหมทัตให้ทรงทราบความจริง
เอื้อยได้ร้อยพวงมาลัยฝากไปถวายพระเจ้าพรหมทัตด้วย ลบเดิน
ทางมาถึงพระราชวัง ก็พยายามหาทางจนได้โอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าพรหมทัตและถวายพวงมาลัย
พระเจ้าพรหมทัตเห็นฝีมือร้อยมาลัยก็จดจำได้ว่าเป็นฝีมือของเอื้อย
ลบจึงกราบทูลเรื่องราวของเอื้อยถวาย พระเจ้าพรหมทัตดีพระทัยที่เอื้อยยังมีชีวิตอยู่
และทรงกริ้วที่ขนิษฐีกับลูกสาวทั้งสองก่อกรรมทำเข็ญไว้กับเอื้อย จึงให้คุมขังสามแม่ลูกเพื่อรอการประหาร
และเสด็จไปรับเอื้อยกลับคืนสู่พระราชวัง เมื่อทราบว่าสามแม่ลูกจะถูกประหารชีวิต
เอื้อยจึงขอพระราชทานอภัยโทษจากพระเจ้าพรหมทัต ให้ลงโทษด้วยการขับออกนอกวังกลับบ้านไป
และให้ถือศีลบำเพ็ญความดีตลอดชีวิต เอื้อยและต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองก็มีชีวิตที่สงบสุข นับจากนั้นเป็นต้นมา
ดีมาก
ขอให้ทำดีต่อไปนะ
ชอบนิทานปรัมปราแบบไทยๆ..
พาลูกๆ ดูเสมอเมื่อมีเวลา
แล้วเราก็จะคุยกันถึงเรื่องราวความเป็นไทย...ในเรื่องนั้นๆ
....
ขอบคุณครับ