สำนวน สุภาษิต นั้น ปกติเป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่รู้เป็นการทั่วไป และไม่อาจสืบสาวทราบได้ว่า ใครเป็นผู้สร้างสรรค์ ดังนั้น โดยสภาพจึงเป็นไม่อาจมีบุคคลอ้างลิขสิทธิ์ในสำนวนหรือสุภาษิตนั้นได้
เมื่อสำนวน สุภาษิต ไม่มีลิขสิทธิ์ การแปลจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่งโดยหลักจึงไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
รศ.ดร.มานิตย์ จุมปา แห่งคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า
"... หากสำนวน หรือสุภาษิตนั้น เป็นสิ่งที่บุคคลใดเพิ่งสร้างสำนวนหรือสุภาษิตนั้นขึ้นเป็นการเฉพาะ บุคคลนั้นย่อมมีลิขสิทธิ์ในการสร้างสรรค์นั้น การแปลสำนวน สุภาษิต ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เสียก่อน..."
สรุปสั้น ๆ ว่า โดยธรรมชาติของสำนวน สุภาษิต ไม่อาจมีบุคคลใดอ้างลิขสิทธิ์ได้ แต่ถ้ามีบุคคลใดคิดสำนวน หรือสุภาษิตใหม่ ๆ ในปัจจุบันกาล บุคคลนั้นย่อมเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ครับ
.....................................................................................................................................
บันทึกที่เกี่ยวข้อง
ภายในสมุดบันทึก ชื่อ "เทคโนโลยีการศึกษา..เท่าหางอึ่ง"
บันทึกของบล็อกเกอร์ท่านอื่น
.......................................................................................................................................
แหล่งอ้างอิง
มานิตย์ จุมปา. เขียนผลงานวิชาการอย่างไรไม่ละเมิดลิขสิทธิ์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549.
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537. http://www.thnic.co.th/docs/copyright-law.pdf (23 ธันวาคม 2551).
สวัสดีค่ะ คุณว่าจะสวัสดี
จะปีใหม่แล้ว ขอให้มีความสุขสุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัวน่ะค่ะ
คิดอะไรในทางทีดีก็ขอให้สมปรารถนาค่ะ อาโด อาโด
ขอบคุณครับ คุณ ใยมด ... :) ... "วสวัตดีมาร" น่ะครับ อิ อิ