นอกจากคุณครูจะดูดีแล้ว NETDESING คงสอนเรื่องนี้ด้วย

 

การออกแบบเว็บไซต์นั้นแท้จริงแล้วคือการทำสื่อสิ่งพิมพ์ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
และถูกแบ่งลักษณะไปตามวัตถุประสงค์ของเว็บนั้น เช่นเดียวกับ
สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ

หนังสือพิมพ์, นิตยาสาร, หนังสือเพลง, หนังสือเรียน, ตำราอาหาร, โบว์ชัว
สิ่งพิมพ์ต่างๆ เหล่านี้ก็มีหลักในการจัดทำตามแต่หน้าที่การใช้งานที่แตกต่างกันไป

สำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์มือใหม่ถ้าขาดความเข้าใจในสิ่งที่
กำลังจะนำเสนอผ่านช่องทาง internet แล้ว 
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการเผยแพร่คงหนีไม่พ้น
คำถามที่จะขึ้นในใจของผู้ใช้แต่ละคน

-ไปตรงไหน
- อยู่ไหน (วะ/นะ)
- ไม่เห็นมีเลย
- หายาก (ชะมัด)
- download อันไหนดี
- ทำไมใช้ยากจัง
- ช้าจัง... กว่าจะมา
- ลายตา
- ตัวเล็กอ่านยาก
- มีแค่นี้เอง
- อ่านแล้ว...ไม่เห็นเข้าใจเลย
- ไม่ update เลยเว็บนี้
- น่าจะมีรูปประกอบด้วย
- ไม่สวยเลย
และอื่นๆ

ทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นกับทุกคนที่เป็นมือใหม่ ไม่ว่าจะเป็น
-บรรณาธิการ มาทำเว็บ (ก็ไม่เคยใช้โปรแกรมสร้างเว็บหนิ)
-นิสิตวิทยาการคอม มาทำเว็บ (ก็ไม่เคยเป็นบรรณาธิการมาก่อนหนิ)

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ช่องทางสื่อสารนี้กับผู้ใช้
ก่อนที่จะลงมือพัฒนาเว็บไซต์ขึ้นมา

ซึ่งข้อควรพิจารณาก็มีลำดับดังนี้
-เป้าหมาย (ทำไปเพื่ออะไร ต้องการสื่อสารอะไรกับคนอื่นบ้าง)
-ผู้ใช้ (ใครจะเข้ามาใช้เว็บที่เราสร้างบ้าง เป็น เด็ก นักศึกษา หรือคนทำงาน)
-เนื้อหา (เนื้อหาตรงกับความต้องการของผู้ใช้)
-ความคุ้มค่า (ทำไปแล้วได้อะไร)

ในขั้นต่อไปคงหนีไม่พ้นเรื่องของ เทคนิคที่ผสานกับศิลปะได้อย่างลงตัว

เทคนิคต้องอาศัยการเรียนรู้และการฝึกฝน
ส่วนศิลป์นั้นต้องอาศัยความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์
บวกกับกลวิธี, ลูกล่อลูกชน, เล่ห์เหลี่ยม เพื่อให้ศิลปะได้
ผสมผสานเข้ากับขบวนการเชิงเทคนิคได้อย่างลงตัว
ซึ่งขั้นตอนนี้ก็คือการออกแบบส่วนแสดงผลที่มีหน้าที่ติดต่อกับผู้ใช้นั้นเอง
(
"แข็งกระด้าง"> เทคนิคนั้นเป็นเรื่องของความถูกต้องเป็นเหตุเป็นผล 
"ไม่มีกฎเกณฑ์"> ส่วนศิลปะเป็นสิ่งที่ตอบสนองทางอารมณ์และความรู้สึก
"ยืดหยุ่น"> กลวิธีเป็นกระบวนการคิดเพื่อสร้างหลุมพรางหรือชักจูงให้เกิดการทำตาม
)

โป้ง-เขียน