ทุกวันเกิด ของขวัญที่ได้รับและได้ใช้ประโยชน์มากที่สุด คือสมุดสำหรับจดบันทึกเล่มโต 1 เล่ม จากพี่ที่เคารพยิ่งที่ให้มาอย่างต่อเนื่องกว่าสิบปี
ถ้าดิฉันจะนับสมุดบันทึกตั้งแต่เริ่มหัดเขียนเมื่ออยู่ประถมห้า ก็ได้เกือบเต็มตู้หนึ่งตู้แล้ว ล่ะค่ะ
เมื่อก่อนก็จดแต่กิจวัตรประจำวัน ไปทำอะไร อย่างไร แต่ต่อมาก็เพิ่มความคิดความเห็น ความฝัน การวิเคราะห์ การไปฟังบรรยาย รวมทั้งคำพูดที่ชอบหรือประเด็นเด่นๆ ไว้
การบันทึก บางครั้งก็เกิดจากความอยากระบายความในใจ
บางครั้งเกิดจากการตกผลึกทางความคิด
บ่อยครั้งเกิดจากความอยากเก็บความทรงจำของช่วงเวลานั้นไว้
บางทีกลับเกิดจากการขาดความมั่นใจจนอยากได้เสียงตอบกลับผ่านตัวอักษรบนแผ่นกระดาษ
แต่ก็บ่อยครั้งที่ดูเหมือนว่าถึงพูดคนเดียว แต่กลับไม่ได้ยินเสียงของตัวเอง
เคยเก็บบันทึกเก่ามาดู แล้วต้องแอบปิดตาตัวเองข้างหนึ่ง เพราะรู้สึกอายจังที่ไปคิด ไปทำอะไรอย่างนั้น แต่ที่เป็นเสมอคือแทบจะไม่ได้เปิดสมุดอ่านบันทึกที่ผ่านไปแล้วมากกว่า
การบันทึกลงบล็อกคงเข้ามาชดเชยตรงที่ได้อ่านบันทึกเก่าของตัวเองด้วยนะคะ
แต่การเขียนลงบล็อกก็มีข้อต้องคำนึงมากกว่าตรงที่ต้องเลือกคำมากขึ้น นึกถึงสิทธิ เสรีภาพและภราดรภาพมากกว่าการเขียนลงสมุดส่วนตัว
หลายคนไม่ชอบการบันทึก และหลายคนก็ไม่ชอบให้ใครมาติดตามเฝ้าบันทึกคำพูดหรือการกระทำของเขา เพราะดูเหมือนมันจะกลายเป็นเครื่องผูกมัดตัวเขาในที่สาธารณะภายหลัง
แต่ถึงจะไม่ชอบการบันทึก พฤติกรรมคนก็คงเหมือนการรวมสมุดบันทึกและบล็อกบันทึกไว้ด้วยกัน
ไม่ว่าจะได้กลับไปอ่านไหม ไม่ว่าจะเกิดจากการเลือกกระทำอย่างไร
บันทึกนั้นก็คงอยู่เพื่อรอการเปิดเผยตัวเองในท้ายที่สุด
อาจารย์ขจิต
อะไรเป็นแรงจูงใจให้อาจารย์ชอบบันทึกคะ
อาจารย์ชายขอบ
ค่ะ การคิดถึงความเป็นสาธารณะในการเขียนบล็อก (หรือเขียนอะไรก็ตามที่ตระหนักว่าเขียนแล้วมีผู้อื่นอ่านด้วย) สำหรับตัวเองแล้ว มองเห็นข้อดีว่า ทำให้เพิ่มจิตสำนึกต่อสังคม และคิดก่อนเขียนมากขึ้นว่าสิ่งที่เขียนจะไม่ทำร้ายใครอย่างเจตนา แต่ไม่ได้หมายความว่าเกร็งกับกฎมากมาย เช่นหากว่า ณ ที่นี้ ต่อไปมีกฎมากขึ้น มีข้อกำหนดน่าอึดอัด วันหนึ่งก็อาจหยุดบทบาทตัวเองบน gotoknow.org อย่างนี้เป็นต้น
เพราะคิดว่าสิ่งที่สำคัญของการได้เขียนและได้อ่านสิ่งที่คนอื่นเขียนก็เท่ากับได้เรียนรู้โลกของความคิดที่กว้างใหญ่ไพศาล ไม่ใช่การต้องอ่านเฉพาะสิ่งที่ถูกกรอบเป็นสูตรสำเร็จไว้แล้วค่ะ
เห็นด้วยกับคุณจันทรัตน์ การเขียนบันทึก
1. บางครั้งก็เกิดจากความอยากระบายความในใจ
2. บางครั้งเกิดจากการตกผลึกทางความคิด
3.
บ่อยครั้งเกิดจากความอยากเก็บความทรงจำของช่วงเวลานั้นไว้
4.บางทีกลับเกิดจากการขาดความมั่นใจจนอยากได้เสียงตอบกลับผ่านตัวอักษรบนแผ่นกระดาษ
5. แต่ก็บ่อยครั้งที่ดูเหมือนว่าถึงพูดคนเดียว
แต่กลับไม่ได้ยินเสียงของตัวเอง
ตรงใจทุกข้อเลยค่ะ ที่สำคัญทุกครั้งที่เขียนบันทึกแล้วไม่มีใครแสดงความคิดเห็น รู้สึกเหงาเหมือนเราไม่มีเพื่อนเลยค่ะ