สติปัญญานั้นเกิดจากจิตใจที่เปิดกว้าง


สติปัญญานั้นเกิดจากจิตใจที่เปิดกว้างเสมอ

          
          สติปัญญานั้นเกิดจากจิตใจที่เปิดกว้าง (Open mind) เสมอ  นับว่าเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริง  เพราะคนเรานั้นจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ  เข้าใจผู้อื่นได้  รู้จักเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ก็ด้วยความเป็นคนเปิดกว้าง  รับฟังผู้อื่น  กระตือรือร้นที่จะหาสิ่งใหม่ๆ ใส่ตัว  หาใช่การปิดกั้นตัวเองไว้ด้วยอคติ อวิชชาหรือความยโส
          โดยเฉพาะในเรื่องของการเชื่อมโยงเรื่องราว  หรือการมองโลก “แบบองค์รวม” (Holistic) นั้น  ต้องเป็นคนที่เปิดกว้าง รับเรื่องราวหลายด้าน หลายแง่หลายมุมและมีสติปัญญาในการเลือกสิ่งที่ตนเห็นว่าดี  และรู้ว่าควรจะปฏิบัติตนอย่างไรให้สร้างสรรค์ต่อสังคม 
          ที่หยิบเรื่อง “การเปิดใจให้กว้าง”  และ “การมองโลกแบบองค์รวม” มากล่าวนั้น  เนื่องมาจากได้รับรู้ รับฟัง รวมทั้งพบเจอด้วยตัวเอง เกี่ยวกับคนที่ไม่ยอมเปิดใจรับฟังผู้อื่น  ต่อให้เขาอธิบายสักเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครได้ยินเสียง  เพราะเขาถูกตัดสิน พิพากษาไปแล้ว  และที่น่าเห็นใจยิ่งกว่านั้นก็คือ  คนที่ตัดสินนั้น ไม่สนใจรับฟังข้อเท็จจริง  ไม่ว่าใครจะมาชี้แจงอย่างไร  และไม่สนใจถึงข้อจำกัดของผู้อื่น  เมื่อตัวเองไม่ชอบใครหรืออะไร ถ้าใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนนั้นหรือสิ่งนั้น  ก็มักจะเยาะเย้ย ถากถาง และตัดสินว่าผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่ดีไปด้วย  โดยไม่ยอมคิดเชื่อมโยงอย่างมีเหตุมีผล  ยิ่งใครมาแนะนำให้ไตร่ตรอง ยิ่งพาลไปกันใหญ่ 

ด้วยอคตินี้เอง  ทำให้บางคนไม่สามารถมองเห็นถึงสิ่งดีๆ ท่ามกลางสิ่งเลวร้าย  ไม่อาจเกิดปัญญาในยามที่สถานการณ์คับขัน  ไม่อาจหาโอกาสได้เจอในยามวิกฤต และแน่นอนว่า เขาย่อมไม่ใช่คนที่จะค้นพบกับ “เพชรในตม”  เพราะเขาตัดสินไปแล้วว่าตมนั้นเป็นอย่างไร
          หากเรามองลึกลงไปจะพบว่า การที่คนเราไม่สามารถเปิดใจให้กว้างได้  หรือมองโลกแบบแยกส่วน  ก็เนื่องมาจาก ระบบการศึกษา และปัจจัยแวดล้อมที่เขาเติบโตมา  ทั้งสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และสื่อ  ทำให้เขาเลือกใช้ชีวิตที่จะยืนอยู่ในฝ่ายของผู้ชนะ  การศึกษาทำให้ระบบการคิดเป็นแบบแยกส่วน  การรียนที่แยกสาขา เชื่อถือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน  บวกกับสังคมที่เขาเติบโตมีค่านิยมในการตัดสิน ชี้ วัด เศรษฐกิจที่ต้องแข่งขัน  การเมืองที่พลิกแพลง ปลิ้นปล้อน สื่อที่รายงานแบบตีไข่ใส่สีตามที่จะทำให้ข่าวขายได้ และตนไม่เสียผลประโยชน์  คนจึงปิดใจตัวเอง เพื่อให้สิ่งที่รับรู้เข้ากับจริตตนเพียงแค่นั้น
          นี่เอง การเปิดใจให้กว้าง  การมองโลกแบบองค์รวม และการจะมีฐานคิดที่ดีได้ ควรต้องฝึกฝนตนเองให้เปิดใจ ลดอัตตาลง และตริตรองคำนึงให้รอบด้าน  ทั้งในแง่สังคม ประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ค่านิยม  และอื่นๆ  ที่สำคัญคือต้องมีศีลธรรมกำกับ จะคิดหรือทำสิ่งใดก็ตาม  หลังจากที่ได้รับฟังอย่างคนที่เปิดใจ  มีระบบคิดแบบองค์รวมแล้ว การเลือกและตัดสิน พิพากษาสิ่งใดควรตั้งอยู่บนฐานของศีลธรรมและเคารพความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นด้วย
                พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้ใช้เตือนตนนั่นล่ะ

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 22784เขียนเมื่อ 6 เมษายน 2006 11:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท