นี่ข้อมูลไม่กี่ปี ผมเลยเกิดข้อสงสัยว่า นักการเมืองไทยเราไม่ดี หรือคนไทยเบื่อง่าย...ก็ไม่รู้ได้ใครทราบ...ช่วยบอกผมที...นะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก-
http://www.cabinet.thaigov.go.th/pm_his.htm
ไม่ได้เบื่อการเมืองไทยหรอกคะ
เบื่อนักการเมืองไทยมากกว่า
อาจจะเป็นเพราะว่า
นักการเมืองไทยส่วนใหญ่
ทำการเมืองให้เป็นอาชีพมั่งคะคุณขจิต
ไม่มีนักการเมืองอาชีพ มีแต่อาชีพ นักการเมือง
ไม่มีจุดยืน ไม่มีอุดมการณ์ ไม่ชัดเจน
แหะๆๆ พูดแรงไปหรือเปล่าคะอาจารย์ ขอโทษนะคะ
ที่ประชาชนธรรมดาพูดแรงไปหน่อย
มันอินมั่งคะ
ขอบคุณที่ไป เยี่ยม เลยแวะมา เยือน ครับ
โอกาสหน้า ได้ถกกันยาวๆครับ แบบ เล็ก ยาว ลึก
โห ....ขอบคุณค่าหายไปนานยังจำกันได้ อิอิ
ก้อทักทายสวัสดีกันวันนี้ แบบเหนื่อยๆ เจ้าพ่อเจ้าแม่หลายรายเป็น
ครูนักสู้ ไม่ยอมออกง่ายๆ หรอก สนุกจะตายไป
แม้เหนื่อยก็จะทนเพื่อเป็นปูชะนีให้เด็กไล่เบี้ยต่อไป ฮ่าๆๆๆ
ส่วนการเมืองขอแจมหน่อยนะ
เรื่องมันยุ่งเพราะคนไม่ยุ่งและกลัวยุ่ง
คนไทยติดนิสัยมีคนจัดการให้
ติดสบาย ไม่ชอบจัดการน่ะ
กลัวยุ่ง ผลก็เลยสะสมมาเรื่อยๆ
จนยุ่งอีรุงตุงนัง กันหมดละ
อย่างนี้แหละ เจ้าค่ะ มักง่ายแล้วแต่เขาไง อิอิ
แวะมาเยี่ยมอีก 1 บล็อก
สบายดีนะครับ
ไปสอนกี่โมงครับอาจารย์
ให้ท่าน ดร.ขจิต ช่วยคิดที เรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ
ตากับตีน
ตีนกับตา อยู่กันมา แสนผาสุก
จะนั่งลุก ยืนเดิน เพลินหนักหนา
มาวันหนึ่ง ตีนทะลึ่ง เอ่ยปรัชญา
ว่าตีนมี คุณแก่ตา เสียจริงๆ
ตีนช่วยพา ตาไป ที่ต่างๆ
ตาจึงได้ ชมนาง และสรรพสิ่ง
เพราะฉะนั้น ดวงตา จงประวิง
ว่าตีนนี้ เป็นสิ่ง ควรบูชา
ตาได้ฟัง ตีนคุยโม้ ก็หมั่นไส้
จึงร้องบอก ออกไป ด้วยโทสา
ว่าที่ตีน เดินไปได้ ก็เพราะตา
ดูมรรคา เศษแก้วหนาม ไม่ตำตีน
เพราะฉะนั้น ตาจึง สำคัญกว่า
ตีนไม่ควร จะมา คิดดูหมิ่น
สรุปแล้ว ตามีค่า สูงกว่าตีน
ทั่วธานินทร์ ตีนไปได้ ก็เพราะตา
ตีนได้ฟัง ให้คั่งแค้น แสนจะโกรธ
วิ่งกระโดด โลดไป ใกล้หน้าผา
เพราะอวดดี คุยเบ่ง เก่งกว่าตา
ดวงชีวา จะดับไป ไม่รู้เลย
ตาเห็นตีน ทำเก่ง เร่งกระโดด
ก็พิโรธ แกล้งระงับ หลับตาเฉย
ตีนพาตา ถลาล้ม ทั้งก้มเงย
ตกแล้วเหวย หน้าผา ทั้งตาตีน
เหมือนคนไทยที่ทำเพื่อชาติตอนนี้เลยค่ะ อาจารย์
อิ อิ มาตามหาบันทึกแรกของ อ.ขจิตค่ะ