KM ที่มีชีวิต กับ KM หุ่นยนต์


เมื่อวันศุกร์ คุยกับคุณไมโตฯ เกี่ยวกับ KM ที่มีชีวิต ซึ่งคุณไมโตฯ เคยเขียนในบันทึกก่อนแล้วว่า ใช่จะมีทุกอย่างของปลา: หัว ตัว และ หางปลา ตามโมเดลปลาทูของอ.ประพนธ์แล้ว จะเป็น KM คงต้องดูด้วยว่า เป็นปลาทูที่มีชีวิตหรือไม่  ทำให้นึกไปถึงว่า KM ไม่มีชีวิต ก็อาจจะเปรียบได้กับ KM หุ่นยนต์

สมัยเด็ก ที่เราเริ่มเรียนวิทยาศาสตร์ เราท่องว่า สิ่งมีชีวิต คือ สิ่งที่สามารถเคลื่อนไหวได้ หายใจได้สืบพันธุ์ได้ เจริญเติบโตได้ นั่นเป็นเพียงคุณลักษณะพื้นฐานเท่านั้น จริงๆ แล้ว สิ่งมีชีวิตมีระบบซับซ้อนอีกมากมาย เพื่อรักษาดุลยภาพของร่างกาย และการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์  แต่ในบันทึกนี้ จะขอลองวิเคราะห์เปรียบเทียบ KM ที่มีชีวิต และ KM แบบหุ่นยนต์ (ไม่มีชีวิต) ในคุณลักษณะพื้นฐานเหล่านี้ก่อน

KM ที่มีชีวิต (Life KM)

KM หุ่นยนต์ (Robotic KM)
เห็นการเคลื่อนไหวแบบอิสระ การเคลื่อนไหว เกิดจากความต้องการและความรู้สึกนึกคิดของตนเอง (คนในกลุ่ม)
การเคลื่อนไหวที่เห็น เกิดจากการกดปุ่มเป็นครั้งๆ โดยผู้บังคับหุ่นยนต์ (ผู้นำหรือผู้สั่งการ) การเคลื่อนไหวอาจต่อเนื่องเป็นชุดได้ แต่เป็นการตั้งโปรแกรมที่ผู้สร้างหุ่นยนต์ทำไว้
การเคลื่อนไหวที่เห็น เป็นผลจากปฎิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหลายๆ คน ซึ่งมีบทบาทแตกต่างกันไป ทั้งคุณเอื้อ คุณอำนวย คุณกิจ คุณลิขิต คุณประสาน ฯลฯ  คู่ของการปฏิสัมพันธ์เป็นไปแบบข้ามไปมาทุกทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นระหว่าง คุณกิจ-คุณกิจ คุณกิจ-คุณอำนวย คุณอำนวย-คุณเอื้อ ฯลฯ และบ่อยครั้ง คุณๆ ทั้งหลายมามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันในคราวเดียวกัน การเคลื่อนไหวที่เห็น เป็นจากการตัดสินใจของคนกดปุ่ม ซึ่งเป็นคนๆ เดียว หรือเป็นมากกว่านั้นก็ไม่เกิน 2-3 คน ผลของการกระทำ เป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่าง สมองของคนกดปุ่มกับกลไกหน่วยประมวลผลอิเลคทรอนิกส์ในตัวหุ่นยนต์
มีอารมณ์ มีความรู้สึก และเป็นไปในทางบวกคือ รัก ชอบ ชื่นชม ปรีดา ดังนั้นทุกคนใน KM แบบนี้ จึงมีความสุข
คนใน KM หุ่นยนต์ ไม่แสดงออกอารมณ์ให้เห็น พวกเขาเก็บกดอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้ เพราะการแสดงออกนั้น อาจนำภัยมาถึงตัว ผู้สร้างหุ่นอาจลงโทษโดยถอด chip ตัวในตัวหนึ่ง ทำให้เขาทำงานได้ไม่สมบูรณ์
KM ที่มีชีวิตจะมีการพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองขึ้นไปได้เรื่อยๆ เพราะการเพิ่มพูนต่อความรู้ซึ่งกันและกัน จากการมีปฏิสัมพันธ์ทุกทิศทาง
การพัฒนาความสามารถขึ้นกับผู้สร้างหุ่นยนต์ หากผู้สร้างหุ่นยนต์ หยุดพัฒนา  หุ่นยนต์ตัวนี้ ก็จะอยู่กับที่

นี่เป็นเพียงแค่คุณลักษณะพื้นฐานเท่านั้น  KM ทั้งสองแบบยังแตกต่างกันขนาดนี้  ก็เลือกกันตามชอบนะคะ ว่าท่านจะสร้าง KM แบบไหน เป็น Life KM หรือ Robotic KM

หมายเลขบันทึก: 22262เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2006 16:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
ในปลาทูตัวหนึ่ง มีทั้ง Life KM และ Robotic KM อยู่ด้วยกันได้ ถ้าปลาทูนั้นตัวใหญ่พอ..
ในฝูงปลาตะเพียนฝูงหนึ่ง มีปลาตะเพียนบางตัวเป็น Life KM และบางตัวเป็น Robotic KM ได้?...
พี่เม่ยคิดว่า การที่ KM ทั้งสองอย่างมาอยู่ร่วมกันอาจเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของปลาทูตัวนั้น หรือปลาตะเพียนฝูงนั้น ความสำคัญคือต้องอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขและก่อประโยชน์ให้แก่ปลาทั้งฝูง...
เขียนเองก็ยัง..งง..งง..คือพยายามจะบอกว่า ธรรมชาติของ KM น่าจะประกอบด้วยทั้งสองแบบที่ท่าน CKO บอกค่ะ เพียงแต่ต้องมีความสมดุลกันเท่านั้นเอง
     การทำ KM แบบที่มีชีวิต และ การทำ KM แบบหุ่นยนต์ ในบริบทที่อาจารย์เขียนเปรียบเทียบนั้น จริงอยู่ว่าทั้งสองอย่างเป็นการทำ KM ในโมเดลปลา คือมีหัวปลา ตัวปลา และหางปลา ครบถ้วน สิ่งที่ต่างกันคือความมีชีวิต ความมีจิตวิญญาน ความรู้สึกผูกพัน หรืออาจรวมไปถึงความสุขในการทำ KM ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นนามธรรมทั้งสิ้น คือความมีอยู่แต่จับตัองไม่ได้ สิ่งเหล่านี้น่าจะมีกุญแจแห่งความสำเร็จในการทำ KM รวมอยู่ด้วย ในการทำให้การจัดการความรู้เป็นไปอย่างเติบโต ขยายวงกว้างขึ้น เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และเป็นไปอย่างยั่งยืน
     ในความเห็นของผม
     Life KM คือ KM ที่เกิดขึ้นมาเพื่อเติบโตเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร สามารถผลิดอกออกผล ให้คนในองค์กรได้เก็บเกี่ยวความรู้ภายในองค์กรมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นับวันก็ยิ่งฝังรากลึก เติบใหญ่อย่างแข็งแรงและเป็นไปอย่างยั่งยืน
     Robotic KM คือ KM ที่เกิดขึ้นมาตามแฟชั่น หรือความต้องการให้เกิดของใครบางคน ขาดการดูแล ใส่ใจ ในกระบวนการต่างๆ เป็นการเกิดขึ้นมาเพื่อรอวันที่จะจากโลกนี้ไป
เห็นด้วยกับคุณ mito. ค่ะว่า Life KM จะเกิดขึ้นและเติบโตเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรได้อย่างยั่งยืนกว่า
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท