การปลูกกล้วยหินของเกษตรกรมีความหลากหลายในวิธีการปฏิบัติ ไม่มีเทคโนโลยีในการปลูกที่ตายตัว อาศัยประสบการณ์กับศักยภาพของพื้นที่ ทำให้ได้ปริมาณผลผลิตต่อไร่ มีความแตกต่างกันในการผลิตกล้วยหินให้ได้ปริมาณและคุณภาพ ประกอบด้วย
1. สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม
กล้วยหินเจริญเติบโตได้ดีและตกเครือตลอดปีในสภาพอากาศแบบร้อนชื้น อุณหภูมิ 23-32 องศาเซนเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 30-89 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำฝนประมาณ 2,280 มิลลิเมตรต่อปี มีเนื้อดินบนเป็นดินร่วน ดินร่วนปนเหนียว หรือดินร่วนปนดินทราย สีของเนื้อดินเป็นสีน้ำตาล สีเหลือง หรือสีแดง เป็นดินลึก มีความลาดชัน 5-20 % การระบายน้ำดี มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติปานกลางถึงค่อนข้างต่ำ ค่าความเป็นกรด ด่าง (PH) ประมาณ 4.5-5.5
2. ฤดูปลูก
ส่วนใหญ่จะปลูกในช่วงต้นฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กันยายน และพบว่าเมื่อเกษตรกรปลูกในเดือนสิงหาคม - กันยายน มีเปอร์เซ็นต์รอดตายสูงมาก การปลูกในช่วงต้นฤดูฝนกล้วยหินจะตั้งตัวได้เร็วและแตกยอดอ่อนได้ภายใน 1 เดือน
3. การคัดเลือกพันธุ์
พันธุ์กล้วยหินที่เกษตรกรนิยมใช้ปลูก มี 2 ชนิด
1. ชนิดผลสีเขียวเข้ม มีเนื้อสีเหลือง จะมีสีสวยชวนให้น่ารับประทาน มีรสชาติหวานหอม เฉพาะตัว
2. ชนิดผลสีเขียวอ่อน มีเนื้อออกสีขาวนวล มีรสชาติหวานหอมเช่นเดียวกัน
สำหรับส่วนต่าง ๆ ของกล้วยหินที่ใช้ขยายพันธุ์มีตั้งแต่หน่อใบกว้าง หน่อใบแคบ หน่ออ่อน เหง้า และตาเหง้า แต่เกษตรกรนิยมปลูกด้วยหน่อที่มีอายุประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งเป็นหน่อใบแคบหรือ “หน่อดาบ” โดยคัดเลือกจากต้นกล้วยหินที่ให้ผลผลิตดี ผลใหญ่ หวีดก
4. การปลูก
โดยการขุดหลุมปลูกขนาด 50 เซนติเมตร กว้าง x ยาวและลึก ตากดินทิ้งไว้ 15 วัน จากนั้นใช้ปุ๋ยร็อกฟอสเฟต หรือปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอื่น ๆ สัก 1 บุ้งกี๋ รองก้นหลุม วางหน่อพันธุ์ลงหลุมให้ลึกประมาณ 25 เซนติเมตร แล้วกลบดินที่เหลือให้เต็มปากหล ระยะปลูกขนาด 5 x 8 เมตร ระยะระหว่างแถวและระหว่างต้น 5 - 6 เมตร แต่ถ้าปลูกแซมร่วมกับไม้ผล ควรปลูกระหว่าง 7 - 8 เมตร จะใช้หน่อกล้วยประมาณ 25 - 64 หน่อ/ไร่
5. การใส่ปุ๋ย
จะใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อกอ หรือใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก 3 บุ้งกี๋ต่อกอ จะได้ผลผลิตประมาณ 1,200 หวีต่อไร่ต่อปี
6. การตัดแต่งหน่อ
กล้วยหินแตกหน่อเป็นจำนวนมาก โดยจะเริ่มแทงหน่อเมื่ออายุประมาณ 5 - 6 เดือน แต่ละกอจึงไม่ควรเกิน 4 ต้น ตัดแต่งหน่อปีละ 1 - 2 ครั้ง พร้อมตัดแต่งใบที่แห้งหักลงมาออกเสียด้วย
7. โรคและแมลงศัตรูกล้วยหิน
1. โรคตายพราย เกิดจากเชื้อรา ใบเหลือง จะเหลืองไหม้ ตายนึ่ง ผลลีบเล็กไม่สม่ำเสมอ
2. โรคเหี่ยว เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ใบอ่อนเหี่ยว หักตรงก้านใบ หน่อกล้วยที่กำลังแตกยอดบิด จึงควรใช้หน่อกล้วยที่ไม่เป็นโรคทำพันธุ์
3. โรคใบจุด ลักษณะใบจุดและผลลามติดต่อกัน ทำให้เกิดใบไหม้ ส่งผลให้มีหวีน้อย ผลเล็ก ลง จึงควรตัดใบที่เป็นโรคไปเผาไฟ
8. การเก็บเกี่ยวผลผลิต
หลังจากปลูกประมาณ 8 เดือน ก็เริ่มออกปลี และใช้ระยะเวลา 3 - 4 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ การเก็บเกี่ยวเครือที่แก่จัดสังเกตจากสีของผลเป็นสีเขียวเข้ม อาจจะมีจุดสีดำปนเหลือง จะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี
http://gotoknow.org/blog/mitree-suk/113180
นายหามะ เจ๊ะดอมะ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ข้อมูล/เล่าเรื่อง
รายละเอียดและรูปประกอบดูที่นี่
ชอบทานกล้วย ขอชมภาพหน่อย กล้วยหิน เพิ่งได้ยินชื่อ ขอบคุณ
สวัสดีครับ อ.ขจิต
สวัสดีครับ อ.ประจักษ์
สวัสดีครับ พี่เขียว
สวัสดีครับ lovefull
มีกล้วยหินขายทั้งหน่อและผล
ขอทราบจากผู้รู้ในเรื่องการรักษาโรคแต่ละชนิด ของกล้วยหิน