-
เข้าฟังการอบรมโปรเจคของพี่ที่ได้รับรางวัลของ NECTEC
เรื่องการพัฒนาการใช้งานระบบพิมพ์งานโดยใช้ Mambo
-
ระบบปฏิบัติการที่ใช้ คือ Fedroa Core 3 เป็นตัว server ใช้
radius ,Windows XP เป็น user
-
ใช้หลักการพัฒนา component บน Mambo
-
โปรเจคนี้เป็นการพัฒนาแบบต่อยอด ในเรื่องการนำ Component
มาพัฒนาต่อบน Mambo เนื่องจากในเรื่องของ Component และเรื่อง Mambo
ก็มีเนื้อหาอยู่แล้ว หากเราสามารถนำมาพัฒนาและใช้งานได้จริง
ก็จะมีประโยชน์กว่า และง่ายกว่าการไปศึกษาทำเรื่องใหม่ ๆ ตั้งแต่ต้น
ซึ่งจะต้องใช้เวลาที่ยาวนานกว่าในการทำโปรเจค
-
โปรเจคนี้เป็นโปรเจคที่เกี่ยวกับ การใช้งานระบบการพิมพ์โดย
ผู้ใช้บริการสามารถทำการเติมเงินโควตาการพิมพ์ได้เลย
เหมือนกับการซื้อบัตรเติมเงิน และยังสามารถตรวจสอบวัน-เวลา
การเติมเงิน ว่าเติมไปเท่าไร และใช้พิมพ์งานอะไรไปเท่าไร
ในวันใดบ้าง มียอดคงเหลือเท่าไร เป็นต้น
-
มีการใช้ database ที่ไม่ใช่ของ Mambo ด้วย คือใช้ Pykota
Server
-
สามารถทำการเพิ่มเครื่อง printer, เพิ่มงานพิมพ์, เพิ่ม
user
-
การทำงานจะมีทั้งฝั่งของ user และ ฝั่งของ Admin
-
frontend : การทำงานที่ติดต่อกับฝั่ง user
-
backend : เป็นหน้าในส่วนของ Admin ทำงานติดต่อกับ Admin
-
การติดตั้ง Component จะต้องมีตัว Installer และ
Uninstaller
-
ตัว Installer file เขียนด้วยภาษา XML
-
ต้องมีความรู้ php, My SQL และการเขียน Function ต่าง ๆ ของ
php
-
ในการเขียนส่วนของโปรแกรมจะต้องแยกส่วนของรูป และส่วนของโปรแกรม
ไว้ต่างหาก คือถ้าเป็นรูปก็ต้องใส่รูปก่อนให้หมด
แล้วค่อยใส่ส่วนของโปรแกรม เพื่อให้รูปขึ้นครบ
และถ้านำทั้งรูปและส่วนของโปรแกรมมาปนกัน จะทำให้ติดตั้งไม่ได้
-
โครงสร้างทุกอย่างที่จะใช้ต้องใส่ใน XML หมด
ไม่อย่างนั้นจะเรียกใช้ Component ไม่ได้
-
การตั้งชื่อของ Component ในส่วนของการใช้งานของ user หรือ
(Frontend) คือชื่อ Componet.php เพื่อเป็นตัวบอกว่าที่หน้าของ
user มี link ไปไหนบ้าง และเวลา link จะต้องใช้ target = "cwindow"
เท่านั้น
-
การกำหนดชื่อของ Component ในส่วนของ Backend นั้น จะกำหนดว่า
Admin.ชื่อ Component.php ซึ่งจำเป็นจะต้องเขียนแบบนี้
ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้ และการกำหนดชื่อ Component
นั้น จะเป็นการกำหนดให้ Mambo เรียกใช้งาน
Componentตามที่เรียกมา
-
ในโปรเจคนี้จะมีการดึง Component ออกมาด้วย javascript
-
การสร้าง query จะต้องสร้างใน XML
-
ในการที่จะถอด Component ออก จะต้องทำการ Uninstall ด้วย
-
ในการค้นหา function เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาการเขียน
function ของ Mambo สามารถทำการค้นหาด้วยคำว่า Mambo+API
-
Mambo ที่ใช้ในการทำงานนี้เป็น version 4.5.1A
และสามารถนำมาใช้ใน version 4.5.2 ได้ด้วย
-
Mambo คนละ version กันก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป