แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการความรู้ มีหลากหลาย ทั้ง หนังสือ เอกสาร ตำรา เว็บไซต์ แต่ที่ดีที่สุด คือประสบการณ์ความรู้ในบุคคลที่ได้ผ่านการปฏิติงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ทั้งหลาย แต่ยากที่จะสัมผัสได้ ยากที่จะอ่าน หรือสะกัดออกมาให้ย่อยได้ง่าย ดังนั้น ถ้าจะหาแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับ เรื่อง การจัดการความรู้ แล้ว คงหนีไม่พ้น แหล่งเรียนรู้ที่มีราคาถูก พกพาง่าย นั่นก็คือหนังสอ
หนังสือเกี่ยวกับการจัดการความรู้
การจัดการความรู้ (KM) ฉบับขับเคลื่อน LO | |
หนังสืออ่านสนุก ว่าด้วย KM (Knowledge Management) หรือ การจัดการความรู้ ผลงานของผู้เขียนหนังสือขายดี "การจัดการความรู้" เนื้อหากลั่นและกรอง "ความรู้" จากการปฏิบัติ จากการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก และจากประสบการณ์กว่า ๓ ปี ในการดำเนินการขับเคลื่อน "การจัดการความรู้" ในสังคมไทยของสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) สำหรับนักปฏิบัติการ KM เพื่อใช้ในการยกระดับความเข้าใจ และยกระดับวิธีการปฏิบัติ KM ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของงาน ผลต่อการพัฒนาคน และพัฒนาองค์กรไปสู่องค์การการเรียนรู้ และสำคัญที่สุด ช่วยแนะแนวทาง "ทำ KM ให้สนุก" ทุกคนที่ร่วมกันทำเกิด "ความสุข" และไม่เป็นการเพิ่มภาระ | |
หนังสือเล่มนี้จะมีทั้งเนื้อหาในเชิงทฤษฎี และตัวอย่างของการปฏิบัติที่เกิดขึ้นจริง การจัดหมวดหมู่ภายในหนังสือจะแบ่งออกเป็น 6 บท โดยมีโครงสร้างที่ประกอบด้วย พื้นฐานการจัดการความรู้ โครงสร้างและปัจจัยประกอบ เกณฑ์การประเมินผลการจัดการความรู้ แนวปฏิบัติการจัดการความรู้ ตัวอย่างการประยุกต์การจัดการความรู้ และผลลัพธ์ของการจัดการความรู้ ซึ่งจะมีการจัดลำดับไว้ ช่วยให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจและจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในการนำเอาความรู้ที่ได้รับในแต่ละบทไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ การจัดการความรู้ภายในองค์กรของผู้อ่านได้อย่างเหมาะสม | |
ชุมชนแนวปฏิบัติ : การจัดการความรู้สายพันธุ์ใหม่/ Etienne Wenger, Richard McDermott, Willam, M. Snyder | |
การจัดการความรู้/ , โทมัส เอส.ดาเวน | |
การจัดการความรู้ : พื้นฐานและการประยุกต์ใช้/ ผศ.น้ำทิพย์ วิภาวิน | |
การจัดการความรู้ กระบวนการปลดปล่อยมนุษย์สู่ศักยภาพและความสุข ประเวศ วะสี |
|
ผู้บริหารองค์กรอัจฉริยะ ฉบับนักปฏิบัติ ผู้แต่ง/แปล : ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช | |
นานา เรื่องราวการจัดการความรู้ ผู้แต่ง/แปล : ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช | |
บทที่ 1 ปฐมบท ซึ่งในบทนี้จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายของการจัดการความรู้ที่ถูกต้อง ทราบว่าการริเริ่มการจัดการความรู้เริ่มอย่างไร ใน บทที่ 2 ความสำคัญของการจัดการความรู้ ในบทนี้จะทำให้ทราบว่าคุณเอื้อ คุณอำนวย คุณกิจ คุณประสาน คุณลิขิต และคุณวิศาสตร์ คือใคร มีบทบาทอย่างไร ใครคือผู้เสริมพลังความรู้/นายหน้าความรู้ นอกจากนี้ สรุปท้ายบทนี้ชี้ให้เห็นว่า คนสำคัญที่สุดในระบบการจัดการความรู้ คือ ผู้บริหารหมายเลข 1 ขององค์กรหรือหน่วยงาน เนื้อหาใน บทที่ 3 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดระบบการจัดการความรู้ อะไรคือทฤษฎีขนมเปียกปูน ทฤษฎีขนมชั้น ในบทนี้จะทำให้ทราบว่าการจัดการความรู้นั้นต้องมีระบบอะไรบ้าง บทที่ 4 การฝึกอบรม ในบทนี้ผู้เขียนได้เขียนไว้ว่า การฝึกอบรมเพื่อเริ่ม “การเดินทาง” จัดการความรู้ (ผู้รู้กล่าวว่า การจัดการความรู้เป็น journey ไม่ใช่ destination) ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการบรรยาย กล่าวคือ ไม่มีความจำเป็นต้องแยกการฝึกอบรมออกจากการปฏิบัติ สามารถบูรณาการการปฏิบัติกับการฝึกอบรมไปด้วยกันได้ จึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า การฝึกอบรมนั้นจะอบรมแก่ใคร เพื่อเป้าหมายอะไร อีกสิ่งที่น่าสนใจ บทที่ 5 ผู้อ่านจะได้ทราบถึงการเริ่มต้นการจัดการความรู้ มีประเด็นที่น่าสนใจที่ผู้เขียนได้เขียนไว้ อาทิ วางแผนการดำเนินการโดยเริ่มจากเล็กไปใหญ่จากง่ายไปยาก ใช้พลังความสำเร็จเล็กๆ เป็นพลังขับเคลื่อน นำทุนปัญญาในตัวบุคคลมาสร้างคุณค่า/มูลค่าเพิ่ม เมื่ออ่านจบบท ผู้อ่านจะทราบว่าจะต้องเริ่มต้นการจัดการความรู้ได้อย่างไร บทที่ 6 การดำเนินการจัดการความรู้ ในบทนี้ผู้เขียนได้เขียนถึงองค์ประกอบของการดำเนินการจัดการความรู้ไว้อย่างชัดเจน โดยเริ่มจากสร้างวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความรู้ การสร้างทีมจัดการความรู้ขององค์กร เริ่มจาก “ทุนปัญญา” ที่มีอยู่แล้วหรือหาจากภายนอกได้โดยง่าย สร้างบรรยากาศแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างเข้มข้นในกลุ่มพนักงานระดับล่าง จัดการความรู้ควบไปกับกิจกรรมพัฒนาสินค้าหรือรูปแบบการทำงานใหม่ๆ เน้นการจัดการองค์กรแบบ “ใช้พนักงานระดับกลางเป็นพลังขับเคลื่อน” หลัก เปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเป็นแบบ “พหุบท” (Hypertext) สร้างเครือข่ายความรู้โลกภายนอก สร้างวัฒนธรรมแนวราบ การสื่อสารอย่างอิสระทุกทิศทาง สร้างวัฒนธรรมการจดบันทึก ประเมินผลการดำเนินการจัดการความรู้ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ อะไรคือช่วงฝึกกับช่วง “บินได้” ชุมชนแนวปฏิบัติ การจัดพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เครือข่ายการจัดการความรู้ บทที่ 7 เครื่องมือ บทนี้ผู้อ่านจะได้ทราบถึงเครื่องมือการจัดการความรู้ อะไรคือ โมเดลปลาทู โมเดลปลาตะเพียน “หัวปลา” “ตัวปลา” “หางปลา” คืออะไร อะไรคือการเล่าเรื่อง (Story telling) ผู้อ่านจะทราบถึงวิธีการและขั้นตอนการเล่าเรื่อง ซึ่งผู้เขียนได้เขียนไว้ว่า “เป้าหมายสำคัญที่สุดคือการเล่าเรื่อง คือ ปลดปล่อยความรู้ที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ (ความเชื่อ) ในส่วนลึกของสมอง (ความคิด) และส่วนลึกของร่างกาย (การปฏิบัติ) ออกมาเป็นคำพูด และหน้าตาท่าทาง (Non Verbal Communication) การเปลี่ยนความรู้จากการปฏิบัติ ผู้เปลี่ยนจะมีสภาพที่มีทั้งจิตใต้สำนึกและจิตสำนึก (Subconscious & Conscious)” นอกจากนี้ ผู้อ่านจะทราบและเข้าใจเทคนิคการแลกเปลี่ยนความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge) และวิธี “สกัด” ความรู้จากการปฏิบัติ ผู้เขียนได้เขียนไว้ว่า “แปลกแต่จริง ความรู้ฝังลึกนี้มันขี้อาย ถ้าไม่มีการสร้างบรรยากาศเชิงบวก เชิงชื่นชมยินดี มันจะไม่ค่อยโผล่ออกมา นอกจาก “ขี้อาย” แล้ว ความรู้ฝังลึกยัง “ระเหยง่าย” อีกด้วย ถ้าไม่ “ไล่ตะครุบ” และจดบันทึกให้ดีเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว เมื่อบรรยากาศช่วงนั้นหายไป ความรู้ฝังลึกที่โผล่ออกมาก็หายตัวไปเสียแล้ว” อะไรคือเครื่องมือของธารปัญญา วงจรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ยกกำลังสาม บวกคว้าและบันทึก เรียนรู้ก่อน - เพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Assist) เรียนรู้ระหว่าง – AAR เรียนรู้ภายหลัง – Retrospect ชุมชนแนวปฏิบัติ การสร้างความรู้จากลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ และการตรวจสอบความรู้ บทที่ 8 ฐานข้อมูลความรู้ บทนี้เป็นบทที่แสดงให้เห็นว่า การจัดการความรู้ต้องมีฐานข้อมูลความรู้ (Knowledge Base) ทราบว่า สิ่งที่บรรจุอยู่ในฐานข้อมูลความรู้มีอะไรบ้าง มีคำที่น่าสนใจที่จะทำความเข้าใจ อาทิ หน้าเหลือง (Yellow Page) ชุมชนแนวปฏิบัติ (Cop – Communication of Practice) เรื่องเล่า (Storytelling) ขุมความรู้ (knowledge Assets) แก่นความรู้ (Core Competence) ตารางแห่งอิสรภาพ (Self – Assessment table) บล็อก (Blog หรือ Webblog) บทที่ 9 เครือข่ายการจัดการความรู้ บทนี้ผู้อ่านจะได้ทราบถึงวิธีการสร้างเครือข่ายการจัดการความรู้ เครือข่ายการจัดการความรู้ที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ พื้นที่ประเทืองปัญญาของเครือข่าย ทั้งพื้นที่จริง (Real Space) เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบ F 2 F (Face to Face) และพื้นที่เสมือน (Virtual Space) เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบ B 2 B (Blog to Blog) บทที่ 10 ทางแห่งความล้มเหลว และบทที่ 11 ทางแห่งความสำเร็จ ใน 2 บทนี้ ผู้เขียน ได้เขียนให้เห็นถึงทางแห่งความล้มเหลวไว้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร อาทิ หลงของปลอม หลงใช้ทฤษฎี “ขนมชั้น” ภาวะผู้นำที่บิดเบี้ยว วัฒนธรรมอำนาจ ไม่เปิดโอกาสให้ทดลองวิธีใหม่ๆ ไม่รับรู้การเปลี่ยนแปลงภายนอก ไม่คิดพึ่งตนเองด้านความรู้ เป็นต้น และแนวทางของความสำเร็จ อาทิ สร้างนวัตกรรมใหม่ สร้างวิสัยทัศน์ร่วม เรียนลัด จัดพื้นที่หรือเวที พัฒนาตน ระบบให้คุณให้รางวัล จัดทำขุมความรู้ เป็นต้น และบทสุดท้ายคือ การจัดการความรู้ในสังคมไทย : กรณีความสำเร็จ ในบทนี้ผู้อ่านจะเห็นตัวอย่างความสำเร็จของการจัดการความรู้ของหน่วยราชการ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ที่ผู้อ่านสามารถศึกษา วิเคราะห์ และนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการความรู้ในหน่วยงานหรือองค์กรของตนเองได้ |
|
การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้สร้างองค์กรอัจฉริยะ
|
|
องค์กร แห่งการตื่นรู้ Awakening Organization |
|
สิ่งดี ๆ ที่หลายหลากสไตล์ Km Best Practice - km style ผู้แต่ง/แปล : สถาบันส่งเสริมการจัดการความความรู้ |
|
การจัดการความรู้ เพื่อการพัฒนาองค์กรอัจฉริยะ ผู้แต่ง/แปล : ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด ISBN : 978-974-7628-31-9 |
|
Part I : Overview Part II : Tools and Techniques Part III : Today and Tomorrow |
|
บางเล่มที่ศูนย์หนังสือจุฬามีขายครับ แต่ที่แน่ๆ ที่ห้องสมุดมอนอมีครับ
หนังสือแต่ละเล่มของอาจารย์น่าอ่านมากเลยครับ
หนังสือที่อาจารย์ได้ให้ข้อมูลมาเป็นหนังสือที่ดีและน่าสนใจมากๆครับ น่าที่จะซื้อเก็บไว้อ่านจะได้มีความรู้เรื่องของการจัดการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น
สวัสดีค่ะ อาจารย์หนึ่ง
ห้องสมุดต้องตรวจสอบแล้วค่ะว่ามีหนังสือ KM ครบถ้วนหรือยัง
ที่อาจารย์แนะนำมาช่วยให้การคัดเลือกหนังสือเข้าห้องสมุดสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
สวัสดีครับ อ.พงษ์เอก แล้ว อ.พงษ์เอกล่ะครับสนใจหนังสือเล่มไหน
ห้องสมุดอย่างสะสมหนังสือ KM อย่างเดียวนะครับ ถ้าได้เรียนรู้แล้วนำไปใช้ด้วยก็จะดีมากครับ คุณวันเพ็ญ และต้องขอโทษด้วยที่ลิเวอร์พูลทำให้เชลซี ตกรอบเมื่อคืน