niruwan


Health Informatics

หลังจากที่ใช้เวลาในการอ่านและค้นคว้าเป็นเวลาหลายเดือนที่อังกฤษ เกี่ยวกับเรื่องสารสนเทศทั้งด้าน e-Health, Public Health Informatics and Information Systems ซึ่งก้อพบว่า สารสนเทศของที่นี่เขาเจริญก้าวไกลไปกว่าเรามากมาย โดยเฉพาะสารสนเทศด้านสุขภาพแล้ว ผู้คนที่นี่เขาได้รับบริการข้อมูลอย่างทั่วถึง อาจจะมาจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเขาเข้าถึงประชาชนได้ทุกที่นั่นเอง ประชาชนเขาสามารถใช้ระบบอินเตอร์เนตได้ตลอดเวลา ในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเข้าโดยผ่านระบบไหน เมื่อเห็นความเจริญของบ้านเมืองที่นี่ จึงคิดว่าอยากจะเขียนอะไรขึ้นมาบ้างเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งหวังว่าจะมีใครบางคนมาร่วมแสดงความคิดเห็น เผื่อบางทีเราจะได้เห็นข้อเสนอแนะที่ดีๆ นำไปการพัฒนาประเทศของเราต่อไป

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 21664เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2006 03:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ช่วงสองสามวันนี้ยุ่งมาก เพราะต้องเตรียมข้อมูลเสนออาจารย์ที่ปรึกษา ก่อนที่จะเดินทางไปเก็บข้อมูลการวิจัย จึงยังไม่สามารถจะเขียนอะไรยาวๆ ได้มาก เอาไว้มีเวลาแล้วจะมานั่งเล่าให้ฟังว่า ประเทศที่เจริญแล้วเขามีการจัดการระบบสารสนเทศสาธารณสุขอย่างไร

ที่หายไปไม่ได้ไม่นานอย่างที่บอกเลย มันหายไปเกือบปีเลยทีเดียวกว่าจะมาสามารถนั่งเรียบเรียงอะไรที่จะเขียนขึ้นมาได้ใหม่ ชีวิตทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัวนี่มันช่างแยกกันไม่ออกเลยจริงๆ เอาหล่ะ ยังไงก็ตกลงจะเขียนอะไรขึ้นมาเพื่อเป็นสาธารณะแล้ว ก็ต้องมีการขีดเส้นรับรองกันว่าจะให้ได้อย่างที่ว่าอย่างไร

วันนี้อ่านเจองานวิจัยเรื่อง Simulation Technology for Health care professinal skills training and assessment จากวารสาร Jama (www.jama.com) จริงๆเขาวิจัยเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 1999 ก็เป็นรายงานที่ดีอีกอย่างในเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการฝึกฝน และพัฒนาด้านสุขภาพ จริงๆ แล้วต้นแบบโปรแกรมคนที่คิดขึ้นเป็นญี่ปุ่น ซึ่งก็มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก คนที่เขียนรายงานวิจัยเรื่องนี้เป็นกลุ่มของแพทย์ที่อเมริกาที่รวมตัวกันจากหลายๆ มหาวิทยาลัย จากงานวิจัยจะเห็นว่า การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการเรียนการสอน โดยเฉพาะทางด้านการแพทย์นั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะระบบ Simulation Technology เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนได้อย่างสม่ำเสมอและไม่ต้องกังวลหรือภาวะความเสี่ยงถ้าฝึกฝนกับคนไข้ ซึ่งตัวโปรแกรมนี้เน้นเรื่องการผ่าตัดหัวใจ ซึ่งในตัวโปรแกรมจะมีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับหัวใจของมนุษย์ รวมทั้งตัวอย่างของโรคหัวใจต่างๆ ที่นักศึกษาสามารถค้นคว้า และทดลองผ่าตัดหัวใจ ก่อนที่จะลงมีดจริงกับคนไข้ ซึ่งตัวโปรแกรมนี้ถูกนำไปใช้ในตั้งแต่นักศึกษาแพทย์ในปีต้นๆ จนกระทั่งคนที่พร้อมจะจบไปเป็นแพทย์เลยทีเดียว ซึ่งจากงานวิจัยนี้ทำให้เราได้ตระหนักถึงว่า การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับสุขภาพนั้นมันมีประโยชน์มากจริงๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท