ศูนย์อนามัยที่3 ชลบุรี จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ
“ความสำเร็จของการทำให้สถานที่ทำงานน่าอยู่ น่าทำงาน” วันที่ 23 – 24
มีนาคม 2549 ที่ผ่านมานี้
เหตุผลที่CKO คุณหมอเตย ...พลิตถิยา
สินธุเสก...น้องใหม่ไฟแรงของศูนย์ฯ
เพิ่งรับราชการเกือบครบวาระ 2 ปี และเพิ่งรับงานKM
เร็วๆนี้...เป็นหญิงเก่ง...ยอดนักประสาน..และเป็นตัวแบบของNote
Taker ของศูนย์ฯ3 ที่ Capture… tacit knowledge
จากเรื่องเล่าได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
...หยิบยกเรื่อง“ความสำเร็จของการทำให้สถานที่ทำงานน่าอยู่ น่าทำงาน”
มาเป็นหัวปลาในการ Train Facilitator และ Note taker
เพราะเป็นประเด็นร่วมที่ทุกคนมีประสบการณ์ในกิจกรรมดังกล่าว
จนศูนย์อนามัยที่ 3 ประสบความสำเร็จร่วมกันและได้รับรางวัลป้ายทอง
การดำเนินเรื่องราวของการ Train Fa และ Note taker คงเป็นสาระปกติ
เหมือนดั่งที่เคยเขียนเป็นเรื่องเล่ามาแล้ว
...แต่ประเด็นที่จะชวนคุย...วันนี้เป็นช่วง AAR
ที่สะท้อนความรู้สึกและวิธีการทำงานKM
...เพื่อการวางแผนต่อ...ได้อย่างน่าสนใจ
ประเด็นคำถามเดียว
ท้ายสุดก่อนปิดการประชุม คือ
หลังจากวันนี้แล้ว...ท่านคิดว่าจะไปทำอะไรต่อค่ะ...เป็นคำถามปลายเปิดของอาจารย์หมอนันทา
อ่วมกุล หัวหน้าทีมวิทยากรของเราอีกเช่นเคย
คุณตา(...หัวหน้าพยาบาล) :
คงทำKMต่อค่ะ ...จะหาประเด็นหัวปลา ... ฝึก Fa และฝึกทีมงาน
คิดว่าจะเริ่มที่กลุ่มพนักงานขับรถ…คุณตา...ถามออกไมค์ต่อว่า...คุณสมชาย(พนักงานขับรถ)...พร้อมมั๊ยค่ะ???
คุณหมอเตย(CKO) : เดิมคิดว่า การทำKM ไป Load งาน...
รู้สึกเครียดค่ะ... แต่จากวันนี้ รวมถึงการได้ไปดูงานKM ที่ศูนย์อนามัยที่1
ความคิดเปลี่ยนไปค่ะ ตั้งใจว่าจะไปทำKM
ต่อเพื่อเพิ่มประสบการณ์ และคิดว่าทีมจะไปทำในหน่วยเล็กๆก่อน
แล้วค่อยทำทั้งองค์กร
คุณเสมอ :
แรกๆรู้สึกหนักใจ ว่าจะต้องไปขยายต่อ หัวหน้าก็สนับสนุนมาก บอกว่า ไปเลย
ไปเลย! นี่เลยไม่รู้ว่า ตัดหางปล่อยวัดหรือเปล่า
ตัวเองรู้ว่าเราเต็ม100 นะ...แต่ต้องไปพัฒนากลุ่มนี่หนักใจอยู่
แต่จากเมื่อวาน...ที่ได้เล่าเรื่องความสำเร็จ...รู้สึกภาคภูมิใจ...และคงต้องขอกำลังใจเสริมฝ่ายบริหารด้วยนะค่ะ
คุณแต๋ม :
หนูว่า...หนูไม่บรรลุการเป็น Fa นะ...เพราะไม่ชอบ
...การทำงานต้องทำตามความถนัดใช่มั๊ยค่ะ …หนูว่าหนูถนัดเป็น Note taker
มากกว่า และการจัดประชุมครั้งนี้
...รู้สึกว่าการประสานงาน การติดต่อ...เป็นเรื่องยาก
เห็นใจคุณหมอเตยและผู้จัดค่ะ
อยากให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนขยายผลให้เกิด
ไม่อยากให้หายไป...และเป็นกำลังใจให้กันและกันทุกคนค่ะ
คุณหมอพนิต (ผอ.รพ.) :
ตอนแรกไม่ได้เป็นกรรมการ และที่เป็นกรรมการKM
เพราะหมอเตยครับ....คุณหมอเตย...จะตามตลอด และคิดว่า
เรายังไม่ค่อยรู้เรื่อง KM เท่าไร มีเวลาเข้าประชุมกับ KM Team
ก็น้อย...จึงจะคอยเอาหนังสือมาวางไว้ให้อ่าน และคอยถามอยู่เรื่อยๆ
...และจากการไปศึกษาดูงานที่ศูนย์อนามัยที่1 ...การทำKM ของศูนย์ฯ1
...เปลี่ยนการประชุม มาใช้ KM
…เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้..เกิดมุมมอง...และเห็นชัดเจน .ที่ศูนย์ฯ1
มี CoP เกิดขึ้นและสนุก เห็นตรงนี้...กำลังใจเกิด
คิดว่าเรา...ปฏิบัติได้เลย ผมรู้สึกว่า...เราอยู่ตรงนี้(ราชการ)
มีความรู้เข้ามาแยะ เราได้เปรียบมากนะ
ถ้าเป็นเอกชน...เรื่องพวกนี้ต้องเสียเงิน....ความรู้ที่ได้ก็อยู่ที่เรา มีคนอื่นเอามาให้ถึงที่
...ทำไมเราไม่คว้ามัน...และคิดกลับว่า...เราจะให้อะไรกลับ...องค์กรบ้าง
ผมขอขอบคุณครับ...ความรู้ที่เข้ามา...ช่วยให้เราเปลี่ยนไป
วันนี้ทำให้เราเห็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น และวันนี้น่าจะเกิด Facilitator
Note taker และคุณกิจหลายคน ...
น่าจะเอาไปใช้ได้มากขึ้น
คุณวรรณดี
: ถามว่าบรรลุวัตถุประสงค์มั๊ยในครั้งนี้
ในฐานะที่รับผิดชอบตัวชี้วัดวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งหลายคนมองว่ายาก
เพราะไม่รู้อะไรเป็นกรอบ อะไรเป็น KM การจัดเวทีKM
ในวันนี้จึงเกิดขึ้นมา และถามต่อว่า
สิ่งที่ได้รับในวันนี้เกินเป้าหมายมั๊ย...ก็ต้องบอกว่า
ปกติทุกคนมีภารกิจแยะมาก และไม่รู้ว่ามีใจหรือเปล่า
แต่จากเมื่อวานจนวันนี้...ดิฉันรู้ว่า...พวกเราทุกคนมีใจค่ะ และคิดว่า
KM ทำได้ไม่ยาก ก็ถือว่าบรรลุเกินเป้าหมายค่ะ
สำหรับตัวเองที่ว่าไม่บรรลุเป้าหมายก็คงเป็นเรื่องการจัดสรรเวลา
ซึ่งก็จะพยายามปรับและจัดสรรเวลาให้ได้ และสุดท้ายสิ่งที่คิดว่าจะกลับไปทำต่อ
...ก็คิดว่าจะต้องไปทำ ตามสัญญาที่ให้ไว้กลับทีมวิทยากรค่ะ
คุณหมอประสิทธิ์ (ประธาน กพร.) :
ผมคิดว่าผมศึกษาทฤษฎีมาแยะเกี่ยวกับKM เคยเป็นประธานKM
ของศูนย์อนามัยที่6 ขอนแก่น ได้วางระบบไว้ที่เขต6
และได้รับรางวัลเมื่อปีที่แล้วจากกรมฯ ...แต่ผมว่า...ผมไม่ OK นะ
และถามว่าภูมิใจมั๊ย...ก็ยัง แต่เมื่อผมไปดูงานที่ศูนย์ฯ1
เร็วๆนี้...ผมเห็น....KM มีความสุข...นะ
ผมคิดว่า....ผมคงต้องทิ้งทฤษฎีไปมั่งแล้วหล่ะ...แล้ว...ลุย...ลุย...ทำให้คิดว่า...น่าจะเหมาะกับเรามั๊ง
...และคงต้องเพิ่มการเขียน การบันทึก
วันนี้ผมได้โปรแกรม(ธารปัญญา
แผนภูมิขั้นบันได) ...ก็..โอเค..ดีใจครับ... 2 วันที่ผ่านมานี้
ค่อนข้างดี...คิดว่า...จะมุ่งมั่น ตั้งใจทำ KM มากขึ้นครับ
คุณหมอชัยพร (ผอ.ศูนย์ฯ3) : ขอให้ทุกคนอุ่นใจ
มีกำลังใจขึ้น และขอให้คิดถึงผมนะ...ผมคิดถึงKM วันนี้
แล้วอดคิดถึงปลาดาวที่ใกล้จะตายซึ่งลอยมาเกยตื้นเป็นร้อยๆกว่าตัวไม่ได้
แล้วก็คิดถึงหลักการเรียนรู้ เหมือนเรื่อง
ปู่กับหลานคู่หนึ่ง....ปู่พาหลานมาเดินชายหาด
เห็นปลาดาวลอยมาเกยตื้น...หลานก็พยายามคว้าปลาดาวเขวี้ยงไปในทะเล...เขวี้ยงตัวแล้ว...ตัวเล่า...ปู่อึดอัด...เหมือนรู้สึก...เป็นตัวถ่วง...ทำให้เดินไปไม่ได้เร็วนัก...จึงบอกหลานว่า...
หลานทำแบบนี้ไม่ได้อะไรหรอก เพราะปลาดาวมีเป็นร้อยเป็นพันตัว
แต่หลานก็ยังคงก้มตัวลง...และคว้าปลาดาว...เขวี้ยงกลับไปในทะเล...เพื่อ...อย่างน้อยก็ทำให้มีสิ่งอะไรดีขึ้นบ้าง
...อันนี้แม้เป็นสิ่งเล็กๆ...ที่มีต่อ2-3
ชีวิตก็ตาม...
แต่ผมก็อยากให้พวกเรามองอะไรแล้วมองหลายๆด้าน
ทั้งมิติที่เป็นเราคนเดียว มิติกว้างยาว มิติแบบกล่อง
มิติที่ขว้างกล่องไปสู่ข้างบนแล้วลงล่าง
และมองในมิติของอารมณ์/จิตใจ
...อยากให้ทุกคนรู้แจ้งเห็นธรรม
และคงต้องฟังกัน
ตอนนี้...ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกันนะครับ
และขอชื่นชมที่หลายคนอยู่ร่วมประชุมกันจนค่ำ
นานา...สาระ...ของช่วงAAR …เป็นเรื่องพึงกระทำค่ะ...สำหรับเราชาว KM
เพราะเรื่องราวดีดี...มักมีเมื่อหนังใกล้จบค่ะ
*_* บ๊าย...บาย
...ค่ะ
อ่านการทำ km.ของศอ.3 รู้สึกเต็มตื้นในหัวใจ ทำให้มองเห็นภาพความสุขจากการทำชัดเจนต่อยอดจากที่เคยรู้สึกกับชุมชนของศอ1.
เสียดายไม่ได้ไปร่วม ดลยไม่ได้รู้จักคุณหมอเตย ที่ดูท่าจะเป็น ผู้เยี่ยมยุทธ(แม้พรรษาจะน้อย)์ในการเคลื่อนงาน สร้างเครือข่าย โดยเฉพาะในการนำพาคนให้่มาสนใจเรื่องดีๆ
ชอบใจที่คุณหมอ พนิตว่า พวกเราอยู่ราชการ ความรู้ฟรีๆมีแยะ แต่ปล่อยให้ผ่านไป ไม่ทำให้กลายเป็นปัญญา (อันนี้ผมพูดเอง)
ฟังนำเสียงท่าน ผอ คงกลัวคนทำ KM หมดกำลังไจ เลยเล่าเรื่องปลาดาวให้ฟัง
ขอเอาใจช่วยให้พบความสุขในการทำ KM มากขึ้นๆ
ทำเรื่อง KM ไปนานๆคงทำให้ซึ้งกับความแตกต่างของคำว่า ข้อมูล ความรู้ และปัญญา มากขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ต้องมานั่งถามหาคำจำกัดความนะครับ
ความสุข และความรู้ที่พิ่มขึ้นจากการทำงานเป็นพลังสำคัญกว่าพลังใดในการทำงานต่อเนื่อง และมีคุณภาพ
ผมเชื่อของผมแบบนั้มานานแล้วครับ