การวิจัยทางการบริหารการศึกษา
ความหมายของการวิจัย
ได้มีการให้คำจำกัดความของการวิจัยไว้ในหลาย ๆ แห่ง
Hagman และ Schwertz กล่าวว่า " การวิจัยเป็นวิถีทาง ( means ) ที่นำแนวความคิดมาดำเนินการให้บรรลุความสำเร็จ "
Jones และเพื่อน ๆ ของเขาคิดว่า การวิจัยเป็นเครื่องมือหาคำตอบของคำถาม " การวิจัยเป็นวิธีการที่เป็นระบบเพื่อให้ได้มาซึ่งคำถามที่เป็นข้อสงสัย "
Moehlman กล่าวว่า "การวิจัยจะเกี่ยวข้องกับการเก็บ รวบรวม จัดลำดับวิเคราะห์และแปรข้อมูล ทั้งการประเมินผลสภาพปัจจุบัน และสำหรับปรับปรุงระดับการปฏิบัติงานในปัจจุบัน"
จากคำจำกัดความเหล่านี้ เราสรุปได้ว่า การวิจัยเป็นกระบวนการค้นหาความจริง
( fact-finding process ) เป็นการค้นหาความรู้ เป็นความพยายามในการสำรวจหาความจริง การวิจัยเป็นการค้นหา พัฒนาและการทำความกระจ่างในความรู้ โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์และการรวบรวมแนวความคิดหรือข้อสมมุติฐาน (hypothesis) การสังเกตข้อเท็จจริง การวิเคราะห์ การทำความกระจ่าง และการสรุปขั้นสุดท้ายเป็นทฤษฎี
การวิจัยมีประโยชน์ต่อการทดสอบแนวความคิด การตอบคำถาม การแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจ ผู้บริหารอาจต้องการรู้กระบวนการที่ดีที่สุดในการจัดกลุ่มนักเรียน หรือสาเหตุที่เด็กสอบตกออกกลางคัน การวิจัยสามารถให้คำตอบต่อสิ่งเหล่านี้และปัญหาอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันก่อนที่ผู้บริหารจะแก้ปัญหาใด ๆ เขาจะต้องดูผลของการวิจัยก่อนที่เขาจะแก้ปัญหา เพื่อให้การแก้ปัญหานั้นได้ผลจริง ๆ
การวิจัยมีความหมายแตกต่างกันตามจุดมุ่งเน้น กระบวนการและสาขาวิชา ดังจะเห็นได้จากการให้ความหมายของการวิจัยจากแหล่งอ้างอิงดังต่อไปนี้
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 โดยอธิบายว่าวิจัยหมายถึงการค้นคว้าเพื่อหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนตามหลักวิชา (ราชบัณฑิตยสถาน 2525 : 742)
เฮล์มสแทดเตอร์ (Helmstadter. 1970 : 5) ได้ให้ความหมายของการวิจัยว่า การวิจัยเป็นกิจกรรมในการแก้ปัญหาซึ่งนำไปสู้ความรู้ใหม่โดยใช้วิธีการสืบสวนหรือตรวจสอบซึ่งเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้น
เบสท์ (Best. 1970 : 8-9 ) ได้อธิบายว่า การวิจัยเป็นกระบวนการที่เป็นระบบ เป็นพิธีการและการวิเคราะห์อย่างกว้างขวางด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ การวิจัยเป็นกิจกรรมที่เป็นระบบที่นำไปสู่การค้นพบและการพัฒนาและการพัฒนาความรู้ใหม่
แอรี และคณะ (Ary Jacobs and Razavieh. 1972 : 21) ได้ให้ความหมายของการวิจัยว่าเป็นการนำเอาวิธีการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้เพื่อศึกษาปัญหา โดยมีจุดประสงค์ที่จะหาคำตอบของปัญหาโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
Pan Pacific Science Congress จัดให้มีการประชุมกัน ณ สหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1961 ที่ประชุมได้สรุปความหมายของ Research ตามความหมายในตัวอักษรดังนี้ (จุมพล สวัสดิยากร 2520 : 10)
R = Recruitment and Relationship
หมายถึง การฝึกคนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้มีความรู้และปฏิบัติงานร่วมกันติดต่สัมพันธ์ประสานงานกัน
E = Education and Efficiency
หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีการศึกษา มีความรู้และมีสมรรถภาพสูงในการวิจัย
S = Sciences and Stimulation
หมายถึง ศาสตร์ที่ต้องพิสูจน์เพื่อค้นคว้าหาความจริงและผู้วิจัยจะต้องมีพลังกระตุ้นใจใน
ความคิดริเริ่ม กระตือรือร้นที่จะวิจัยต่อไป
E = Evaluation and Environment
หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องรู้จักการประเมินผลดูว่ามีประโยชน์สมควรจะทำต่อไปหรือไม่ และต้องรู้จักใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในการวิจัย
A = Aim and Attitude
หมายถึง มีจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่แน่นอน และมีทัศนคติที่จะต้องติดตามผลของการวิจัย
R = Result
หมายถึง ผลของการวิจัยที่ได้มาจะเป็นผลทางไหนก็ตาม จะต้องยอมรับผลการวิจัยนั้นอย่างดุษฎี เพราะเป็นผลที่ได้จากการค้นคว้าอย่างมีระบบ
C = Curiosity
หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีความอยากรู้อยากเห็น มีความสนใจและขวนขวายในงานวิจัยอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าความอยากรู้อยากเห็นจะเป็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม
H = Horizon
หมายถึง เมื่อผลการวิจัยปรากฏมาแล้ว ย่อมทำให้ทราบและเข้าใจปัญหาเหล่านั้นได้เหมือน
กับเกิดแสงสว่างขึ้น แต่ถ้ายังไม่เกิดแสงสว่างผู้วิจัยจะต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าจะพบแสงสว่าง
นักวิชาการไทยได้ให้ความหมายของการวิจัยไว้ ดังเช่น
ดร. วิทย์ วิศทเวทย์ ได้อธิบายว่า มนุษย์เริ่มกระทำกิจกรรมทางปัญหาอย่างเป็นระบบระเบียบเพื่อการแสวงหาความรู้ กิจกรรมนั้น ๆ ก็คือการวิจัยโดยการแสวงหาความรู้นั้นเป็นแบบที่ต้องตีความซึ่งเป็นการโยงความหลายหลากให้เข้าเป็นหนึ่งเดียว (วิทย์ วิศทเวทย์ 2526 : 9 - 15)
ดร.เจตนา นาควัชระ ได้ชี้ให้เห็นความแตกต่างของการวิจัยทางมนุษย์ศาสตร์กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดยอธิบายว่าการแสวงหาความรู้ทางมนุษย์ศาสตร์นั้นขึ้นอยู่กับการตีความและการวินิจฉัยประสบการณ์ ถ้าจุดประสงค์สุดยอดของมนุษย์ศาสตร์คือการแสวงหาคุณค่าของความเป็นมนุษย์แล้วการวิจัยด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางปัญญาบางอย่างในทาง มนุษย์ศาสตร์ อาจเป็นเรื่องที่มิอาจพิสูจน์ได้ เช่น การพิจารณาความงามทางศิลปะ
ดร.มารค ตามไท ได้อธิบายความหมายของการวิจัยทางปรัชญาว่า การวิจัยในสาขาปรัชญาคือ การดำเนินกิจกรรมที่ทำให้เกิดความก้าวหน้าในปรัชญา ความก้าวหน้านี้เกิดจากการพยายามแก้ปัญหา
นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา และคณะ ได้ให้ความหมายของการวิจัยว่า “วิจัยเป็นกระบวนที่ใช้เหตุผลหาข้อเท็จจริงหรือกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ แล้วใช้ข้อเท็จจริงหรือกฎเกณฑ์ธรรมชาติเหล่านั้นมาใช้ในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพิเคราะห์ประเมินผลที่เกิดภายหลังจาดแก้ปัญหาแล้วว่าถูกต้องมากน้อยเพียงใด”
จากความหมายของการวิจัยที่กล่าวมาแล้วพอจะสรุปได้ว่า การวิจัยเป็นกระบวนการที่เป็นระบบเพื่อความก้าวหน้าทางวิชาการ เพื่อตอบปัญหาที่มี หรือเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ด้วยวิธีการที่เชื่อถือได้ และเป็นที่ยอมรับกันในสาขานั้น ๆ
การวิจัย หมายถึง การเสาะแสวงหาความรู้ใหม่ วิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ คำตอบใหม่โดยใช้กระบวนการที่เชื่อถือได้ หรือกระบวนการที่ยอมรับในศาสตร์นั้นๆ
การวิจัยทางการศึกษา คือ การเสาะแสวงหาความรู้ใหม่ วิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ หรือคำตอบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โดยใช้วิธีการที่ยอมรับในศาสตร์การศึกษา
การเสาะแสวงหาความรู้ใหม่ เช่นคุณสมบัติของนักเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทฤษฎีการสอนเด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับสังคมไทยวิธีแก้ปัญหาใหม่ เช่น เทคนิควิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งในโรงเรียน วิธีแก้ปัญหาเด็กวัยรุ่นที่มั่วสุมหรือตีกัน
คำตอบใหม่ เช่น นักเรียนไทยรู้คำศัพท์ภาษาไทยกี่คำ
ความหมายของการวิจัยการบริหารการศึกษา
การวิจัยการบริหารการศึกษา ประกอบด้วยคำสำคัญสองคำคือว่า วิจัย และ การบริการการศึกษา การวิจัยคือการศึกษาค้นคว้า เมื่อรวมกันเข้าก็หมายถึงการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการบริหารการศึกษา
คำว่า บริหาร มีผู้ให้คำจำกัดความไว้หลายอย่าง แต่ก็มีความหมายคล้าย ๆ กัน
วิจิตร ศรีสอ้าน ได้สรุปความหมายไว้ว่า
1. การบริหารเป็นกิจกรรมของกลุ่มบุคคล (ตั้งแต่สองคนขึ้นไป)
2. ร่วมมือกันทำกิจกรรม
3. เพื่อให้วัตถุประสงค์ร่วมกัน
4. โดยใช้กระบวนการและทรัพยากรที่เหมาะสม
จากคำจำกัดความนี้ เราอาจให้ความหมายของการวิจัยการบริหารการศึกษาดังนี้
1. การวิจัยการบริหารการศึกษาเป็นการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับกิจกรรมของครู นักเรียน และ ผู้บริหาร
2. ในการร่วมมือกันจัดการเรียนการสอน
3. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการศึกษา
4. โดยการใช้กระบวนการและทรัพยากรที่เหมาะสม
คเนเซวิช (Knezevich) ได้ให้คำจำกัดความของการบริหารการศึกษา โดยเน้นกระบวนการ ดังนี้
การบริหารโรงเรียน คือ กระบวนการทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างการรักษา การกระตุ้น และการประสานสัมพันธ์พลังของบุคคลและวัสดุอุปกรณ์ของระบบโรงเรียนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
ความหมายของการวิจัยการบริหารการศึกษาตามคำจำกัดความนี้ ก็คือ การศึกษากระบวนการทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับ
(1) การเสริมสร้าง
(2) การรักษา
(3) การกระตุ้น
(4) การประสานสัมพันธ์ทรัพยากรมนุษย์และวัสดุอุปกรณ์เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
ขอขอบคุณ ในความรู้ที่ได้ครั้งนี้ และคิดว่าจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ขอบคุณมากค่ะกำลังเรียนโทและกำลังจะเริ่มเรียนวิชานี้พอดีเลยค่ะ.....ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้