จัดการความรู้ ตำบลกะหรอ


การประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ตำบลกะหรอ กิ่งอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช

มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 121 คน ระหว่างรอคณะกรรมการแต่ละหมู่บ้านก็ได้ชม VCD รายการเวทีเมืองคอน ซึ่งทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และทีมวิจัยชุมชนกะหรอออกรายการโทรทัศน์ ทางช่อง 11 เมื่อคณะกรรมการแต่ละหมู่บ้านมาโดยพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็เริ่มประชุมตามกำการที่วางไว้

โดย คุณวีระ หัวหน้ากิ่งอำเภอนบพิตำเป็นคนกล่าวเปิดงาน ท่านได้พูดถึง โครงการ SML (โครงการที่พัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน) โดยได้เน้นย้ำให้แต่ละหมู่บ้านรีบเสนอโครงการเพื่อเสนอของบประมาณ โดยพิจารณาจากจำนวนสมาชิกในหมู่บ้านโดยใช้เกณฑ์ดังนี้

หมู่บ้านที่มีสมาชิกตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 500 คน งบประมาณ 200,000 บาท

หมู่บ้านที่มีสมาชิกตั้งแต่ 501 คน ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1,000 คน งบประมาณ 250,000 บาท

หมู่บ้านที่มีสมาชิกตั้งแต่ 1,001 คน ขึ้นไป งบประมาณ 300,000 บาท

และโครงการที่เสนอต้องเป็นโครงการที่ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่หน่วยงานรัฐที่เสนออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นท่านก็ได้ฝากถึงคณะกรรมการทุกคน ให้ทำงานด้วยความสุจริต เพราะท่านบอกว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” และฝากถึงผู้ปกครองทุกท่านช่วยดูแลลูกหลานของตนเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระทางสังคม

จากนั้น คุณอนุสร ศรีประจัน หัวหน้าพัฒนาชุมชน ได้พูดคุยเกี่ยวกับ “เศรษฐกิจพอเพียง” คือพยายามเน้นย้ำให้ชาวบ้านรู้จักตนเองว่าอยู่ในสภาวะการณ์แบบใด รู้จักประหยัด อดออม ให้ช่วยเหลือตนเองก่อน ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น โดยท่านเน้นเรื่องความพอเพียง โดยการพึ่งตนเอง คือ

  • การทำเกษตรโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์
  • การแปรรูปและการถนอมอาหาร เพื่อเก็บไว้บริโภคในครัวเรือนของตนเอง
  • การปลูกพืชผัก ไว้รับประทาน
  • การปลูกพืชสมุนไพร
  • การประกอบอาชีพที่สุจริต
  • การออมเงิน
  • การทำเกษตรแบบผสมผสาน ตามหลัก “ทฤษฎีใหม่”
  • การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคนอื่นในชุมชน
  • การทำผลิตภัณฑ์จากชุมชน เพื่อเป็นสินค้า OTOP ประจำตำบล

 

คุณสมรักษ์ ใจกล้า ท่านได้พูดถึงบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ

การทำงานแบบบูรณาการมี 5 ขั้นตอน ดังนี้

  1. เผยแพร่แนวคิด เช่น การทำประชาคม
  2. การสำรวจ วิเคราะห์
  3. กำหนดรูปแบบและแนวทางการดำเนินงาน
  4. ขั้นทำแผน
  5. ติดตามประเมินผล

และท่านได้กล่าวถึงเรื่องการพิจารณาเงินกู้ ว่าประชาชนที่กู้เงินได้นำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และเน้นถึงให้กรรมการทุกคน “มีความรักและสามัคคี”

คุณอวบ

ท่านได้เล่าถึงประสบการณ์ในการไปศึกษาดูงาน อ.รัตภูมิ ว่าเขามีการบริหารจัดการกองทุนที่ดีมาก มีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ถึง 10 กว่าล้านบาท ทุกกองทุนเป็นกองทุนรวม มีทั้งหมด 20 กองทุน และถ้าหากตำบลกะหรอมีการบริหารจัดการที่ดีตำบลเราก็น่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนได้ และประชาชนทุกครัวเรือนก็คงจะอยู่ดี กินดี มีสุข

คุณปราโมทย์ แก้วสุวรรณ

ท่านได้กล่าวถึงการยกระดับกองทุนหมู่บ้านเป็นนิติบุคคล โดยจะยื่นคำขอจดทะเบียนที่พาณิชจังหวัด โดยมีวัตถุเพื่อการดำเนินงานของกลุ่ม ให้มีการกู้ยืมเงินเพื่อเข้าไปสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้และเป็นทุนหมุนเวียนในหมู่บ้าน

คุณพัชรี วารีพัฒน์

ได้กล่าวสรุปเกี่ยวกับกองทุนหมู่บ้านตำบลกะหรอว่า ได้มีการจัดการทำทะเบียนบัญชี โดยใช้แบบฟอร์มเดียวกันทั้งหมด 9 หมู่บ้าน และการบริหารจัดการให้กองทุนเข้มแข็ง แล้วมีการจัดประชุมสัญจรทุกหมู่บ้าน และทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตำบลกะหรอก็จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการ เวลา 13.00 น. จากนั้นก็ได้ให้แต่ละหมู่บ้านเสนอความคิดเห็นว่าตำบลกะหรอควรจะเดินหน้าต่อไปหรือหยุดอยู่กับที่ในการที่จะพัฒนาตำบลกะหรอให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ตัวแทนแต่ละหมู่บ้านก็เห็นด้วยในการที่จะช่วยกันทำให้ตำบลกะหรอทุกครัวเรือนอยู่ดีกินดีมีสุข

ตอนนี้ก็มาถึง นาทีประทับใจ เพราะนักวิจัยจาก มวล. ก็ได้ขึ้นไปนำเสนอ แต่เพื่อเป็นการเปลี่ยนอริยาบถของผู้เข้าร่วมประชุม ก็ได้มีการเล่นเกมส์เป็ด เมื่อเล่นเกมส์เสร็จ อาจารย์โรจน์ก็เล่านิทานให้ฟัง1 เรื่อง คือ เรื่อง “สามเกลอ”

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 2139เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2005 14:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท