หนูรี
นารี เอี่ยมวิวัฒน์กิจ ชูเรืองสุข

ขนมตาล 'เก็บลูกตาลสุกมาทำขนม"


ไม่ต้องใช้สารเคมีที่ทำให้ขึ้นฟู เพียงแต่ใช้ยีสต์จากธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากเนื้อลูกตาลสุก ที่ต้องอาศัยเวลาในการหมักบ่ม และนี่คือเสน่ห์ของขนมตาล

☺วันก่อนได้ลูกตาลสุกมา 3 ลูก เลยไปเปิดตำราขนมไทย เพราะอยากทำขนมตาลมานานแล้ว เมื่อได้ทดลองทำก็ถ่ายรูปเก็บไว้ตามระเบียบ เมื่อก่อนไม่ได้บันทึกใน gotoknow ก็จะเก็บไว้ในคอมฯ แต่ตอนนี้ได้นำมาแบ่งปันให้ชื่นชมกันค่ะ ด้วยความภูมิใจในภูมิปัญญาของคนไทยที่สามารถนำสิ่งของที่ไม่น่าจะรับประทานได้มาทำเป็นขนมที่มีรูปร่างหน้าตาน่ารับประทานยิ่งนัก ไม่ต้องสารเคมีที่ใช้ทำให้ขึ้นฟูอย่างเช่นในปัจจุบัน เพียงแต่ใช้ยีสต์จากธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากเนื้อลูกตาลสุกที่ต้องใช้เวลาในการหมักบ่ม และนี่คือเสน่ห์ของขนมตาลที่หอมหวานเหนียวนุ่มเป็นธรรมชาติ

☺ส่วนประกอบของขนมตาล มีส่วนประกอบที่ง่ายๆ ได้แก่

แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง

กะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง

 น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง

และเนื้อลูกตาลสุกทับน้ำแล้ว 1 ถ้วยตวง

☺วิธีการทำ นำส่วนมานวดรวมกัน หมักทิ้งไว้ให้ขึ้นฟู 4-5 ชั่วโมง

 ☺แล้วหยอดใส่กระทงใบตอง นึ่งจนสุก

 รับประทานกับมะพร้าวทึนทึกขูดเส้นคลุกเกลือป่นเล็กน้อย

☺ถ้ามีวัตถุดิบเราก็สามารถนำมาทำเป็นอาชีพเสริมได้อีกอย่างหนึ่งค่ะ

☺มาลองดูภาพขั้นตอนการทำกันนะค่ะ

       

ลูกตาลสุก ล้าง ปอก ขูดเนื้อตาลออก

              

เนื้อตาลที่ได้ ส่วนเมล็ดตาลนำไปขยำกับน้ำให้เนื้อออกให้หมด 

       

กรองด้วยกระชอน แล้วกรองด้วยถุงผ้าขาวหนา  แขวนไว้ให้น้ำตกจนหมด ทำก่อนใช้ 1 คืน

       

นำเนื้อตาลที่ได้มานวดกับแป้งแล้วเติมกะทิ(ผสมกับน้ำตาลทรายตั้งไฟให้เดือดพักให้เย็น)

          

นวดเนื้อลูกตาลกับแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน แล้วค่อยๆเติมกะทิที่เคี่ยวไว้จนหมด 

   

เมื่อเติมกะทิจนหมดได้ลักษณะดังภาพ ปิดฝาพักไว้ 4-5 ชั่วโมงจนขึ้นฟู (เป็นฟองปุดๆๆ)

หยอดใส่ในกระทงใบตองนึ่ง 15 นาที

☺ขนมตาลมีขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยากจนใครๆต้องบอกว่าซื้อกินดีกว่าเพราะใช้เวลาทำตั้ง 2 วัน

☺แต่ถ้าคนรุ่นเก่าท่านแก่เฒ่าไม่มีเรี่ยวแรงจะทำขาย คนรุ่นหลังไม่มีความรู้เรื่องการทำขนมไทยๆแล้วใครกันจะทำขนมมาขาย และเราจะหาซื้อได้จากที่ไหนกัน

 ☺ฉันจึงอยากจะนำความรู้ที่พอมีอยู่บ้างมาช่วยกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาของคนไทยรุ่นเก่าเอาไว้เพื่อเราจะได้มีขนมไทยได้รับประทานกันไม่ต้องรับประทานขนมต่างชาติที่ปนเปื้อนสารเคมีอย่างเช่นทุกวันนี้

เรามารับประทานอาหารและขนมของไทยๆกันเถอะค่ะ

สวัสดีค่ะ♥

หมายเลขบันทึก: 213093เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2008 22:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2014 14:37 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (49)

สวัสดีครับ น้องหนูรี

น้ำลูกตาลที่ย้อยจากถุงผ้า อย่าทิ้งน่ะครับ

เอาโคมไปรองน้ำไว้ ใส่น้ำปูนไสพอประมาณ

จะได้วุ้นลูกโหนด ที่หอมเน้อลูกโหนดน่ากินมาก

หวันเที่ยงๆใส่น้ำผึ้งเหลว หอมกลิ่นลูกโหนดสุก บวกกลิ่นน้ำผึ้งเหลว

ฮาย ไม่แหลงแล้ว

สวัสดีค่ะ บังหีม

ตอนนี้หม้ายมีลูกตาลแล้วได้มา 3ลูกนั่นแหละ

ที่บ้านหาหม้ายต้นโหนดค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ คนพลัดถิ่น

ขอบคุณแสงจันทร์ยามค่ำคืนค่ะ

สวัสดีฮะ คุณหนูรี

แวะมาดูขนมตาล ขอบคุณนะฮะ

ซื้อกินดีกว่า ผมก็ว่าอย่างนั้น แต่ที่นุ่มๆ อร่อยๆ ก็หายากนะฮะ หึ หึ หึ

และขอบคุณ แสงจันทร์สีทอง ด้วยฮะ คุณธีรัชภัทร

สวัสดีค่ะ คุณ seen ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม

☺มาเที่ยวสงขลาจะหาซื้อให้ชิมค่ะอร่อยหอมนุ่มๆๆ

☺ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ

เล่าขั้นตอนละเอียดมากครับ มีภาพประกอบด้วย

วุ้นลูกโหนดสูตรพี่บังหีมท่าทางน่าอร่อย ผมยังไม่เคยเห็นเลย สงสัยว่าจะคล้ายวุ้นมะพร้าวหรือเปล่า...

สวัสดีค่ะ

  • สงสัยขอขนมตาลไปแจกใครต่อใครไม่ทันแล้วค่ะ
  • เพราะมาช้าไป
  • พี่คิมชอบค่ะขนมแบบไทย ๆ แต่ต้องไม่หวานเกิน
  • ขอขอบคุณนะคะ

อยากทานนะคะ ซื้อกินไม่ค่อยหอมอร่อย

ได้ยินว่ามีแป้งขนมลุกตาลสำเร็จรูปนะคะ

พี่ประกาย

สวัสดีค่ะหนูรี

  • อันนี้ทำเป็นค่ะ
  • ของธรรมชาติ อร่อยและไม่เป็นพิษเป็นภัยนะคะ
  • ขอบคุณหนูรีมากค่ะ ที่ทำให้ระลึกถึงของดี ๆ ของไทยเรา

โห...คิดถึงตอนเด็กๆ เลยค่ะ เมื่อก่อนที่บ้านตาครูแอนมีต้นโหนดเยอะเลยค่ะ (จนกระทั่งต้นโหนดเหล่านั้นกลายมาเป็นไม้ทำอุปกรณ์ในบ้านน้าสาวครูแอนในปัจจุบันนี้ได้เลยน่ะค่ะ) ...ตอนนั้นตาชอบเอาลูกตาลสุกไปให้แป๊ะที่ร้านหน้าตลาด  อาแป๊ะแกก็ใจดีตอบทำขนมตาลมาฝากตาเยอะเลยค่ะ  จนพวกเราพุงกาง555

เลยเป็นขนมโปรดนับแต่นั้นมาค่ะ  ...แต่ทำม่ายเป็น...เป็นแต่กินอย่างเดียว...อร่อยนะคะ

ตอนนี้หายากจังนะคะต้นโหนดแถวๆ บ้านเรา

น่าเสียดายนะคะ...พร้อมกับที่หายไปคือ "ขนมตาล" เนี่ยล่ะค่ะ

ขอบคุณนะคะ

สวัสดีครับ หนูรี  แหมเก่งจริงๆ แบบนี้เปล่าที่เรียกว่า เสน่ห์ปลายจวักทำแต่ขนมที่ชอบทั้งนั้นเลย  นี่ถ้าอยู่ใกล้กันต้องขอเป็นแฟนขนม....อิอิ.อิ  ขอให้อายุมั่นขวัญยืนนะหนูรี โชคดีมีชัย  ขอบคุณ

P คุณธ.วั ช ชั ย   Pคุณ Lioness_annP คุณ ครูคิม  P คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวนP  คุณประกาย~natachoei   Pท่านผอ.ประจักษ์~natadee

☺สวัสดีค่ะทุกๆคนทุกๆท่าน

☺ขอบคุณน่ะค่ะที่แวะเยี่ยม

☺ดีใจมากค่ะที่ยังมีคนสนใจขนมโบราณ (คนใต้ ชอบเรียกเล่นๆกัน ว่า ของบ้านๆๆ)

☺อยากอนุรักษ์ไว้ค่ะ ฝากวิธีการทำเอาไว้เผื่อใครเห็นความสำคัญได้นำไปใช้ประโยชน์ หรือเพียงเล่าให้ลูกๆหลานๆฟังได้ว่า ลูกตาลในอดีตนั้นเขาเอามาทำขนมกินได้ อร่อยด้วยค่ะ

☺ที่สำคัญปลอดภัยจากสารเคมีใดๆๆ เพราะมาจากธรรมชาติจริงๆๆเหมือนที่คุณครู วรางค์ภรณ์  บอกมาค่ะ

☺ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพดีทั้งใจกาย สมองปลอดโปร่ง คิดสิ่งใดสมใจนึก ค่ะ

 

สวัสดีค่ะคุณวิชินี

♦ตามที่คุณได้ถามเรื่องเทคนิคการทำขนมตาลมานั้นขอตอบผ่านบล๊อกนะค่ะ เพื่อจะได้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันค่ะ

♦เทคนิคการขนมตาลน่ะค่ะ จากข้อเสนอแนะของหนูรี

♦เนื่องจากเราใช้ยีสต์จากธรรมชาติที่มาจากลูกตาล ดังนั้นการขึ้นฟูจึงควบคุมยากกว่ายีสต์สำเร็จรูปค่ะ 

♦การทำขนมตาลให้ขึ้นฟูนั้น มีปัจจัยต้องคำนึงถึง เช่น

1.ความสุกของลูกตาล... ซึ่งเราควรเลือกลูกตาลที่สุกงอมมากๆนิ่มมากๆและมีกลิ่นหอมยีสต์มากๆ ถ้าใช้ลูกตาลที่ยังแข็งอยู่ก็จะมีเชื้อยีสต์น้อยค่ะ ขนมอาจไม่ขึ้นฟู

2.การเคี่ยวน้ำเชื่อม(กะทิกับน้ำตาลทราย )หลังเคี่ยวควรวางพักไว้จนอุ่นเกือบเย็น เพราะถ้าน้ำเชื่อมร้อนเกินไปจะทำให้เชื้อยีสต์ตายขนมจะไม่ขึ้นฟูเช่นกัน

3.หลังผสมการหมักเราควรใส่ในภาชนะที่เป็นโลหะ เช่นหม้อเคลือบหรือหม้อสแตนเลส ปิดฝา...แล้วนำไปตากแดด เพราะภาชนะโลหะช่วยแป้งในหม้ออุ่นเร็วกว่าภาชนะชนิดอื่น การตากแดดช่วยให้ยีสต์ขึ้นฟูได้ดีขึ้น (ถ้าอากาศเย็นๆ แป้งขนมก็ไม่ขึ้นเช่นกัน)

4.การหมักแป้งถ้าทำครั้งแรกจะขึ้นฟูน้อย...จากนั้นก็ให้เราเก็บแป้งที่หมักครั้งแรกนี้เหลือไว้บางส่วน (เรียกว่าแป้งก้นหม้อค่ะ) ไม่ใช้วันต่อไปค่ะ ให้ผสมลงในแป้งที่ทำครั้งที่2 ด้วยได้เลย ขนมที่ทำจากแป้งที่ผสมแป้งก้นหม้อจะฟูกว่าวันแรกค่ะ

ลองทำดูตามนี้นะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหนูรี ขอขอบคุณอย่างมากเลยนะคะสำหรับคำแนะนำที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ทำครั้งหน้าแล้วจะส่งผลแจ้งมาให้ทราบอีกครั้งค่ะ

สวัสดีคะพี่หนูรี

น้องหนูทำขนมตาลไม่ขึ้นเลยคะ

เป็นเพราะอะไรคะ

ทำตามสูตรทุกอย่างคะ

Hi ขอเป็นเเฟนคลับอีกคนนะคะ

เคล็ดลับของคุณทำให้พวกเราสองคนทำขนมได้

ขอบคุณจริงๆค่ะ

มากินขนมลูกตาล ของหนูรี ช้อบ ชอบ หาทานยากนะคะ อร่อยจัง ของบคุณค่ะ

ก็ดีค่ะได้ความรู้ค่ะfuns

ขอบคุณค่ะสำหรับสูตรขนมไทยที่นับวันหาอร่อยๆ ทานได้ยากขึ้นทุกวัน

ขอเป็นแนวรวมในการอนุรักษ์ขนมไทยค่ะ

ป้ายา(แม่หนูแตงกวา)มาส่งการบ้าน เธอน่ะดีใจมากที่ทำขนมตาลสำเร็จ

ขอบคุณมากนะครับสำหรับวธีการทำขนมตาล

ผมจะเขาไปทำโครงงานครับ

ขอบคุณมากนะคับ

ที่ทำงาน เพื่อนๆ พากันทำขนมตาล แต่ทำที่ไร ขนมแข็งโป๊ก ไม่ขึ้นฟู แต่พอค้นเจอสูตรที่คุณหนูรีบอกลองทำตามทุกขั้นตอน ดีใจและตื่นเต้นมากที่ขนมออกมาดี ทุกคนขอสูตรกันใหญ่เลยค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์แบ่งปันความรู้ให้พวกเรา

ผมได้ลูกตาลจากวัดเสาธงใหม่ บางปะหัน อยุธยา ก็เปิดมาเจอสูตร ก็จะทำรับประทานเองครับ

แล้วน้ำที่เหลือจากการทำขนมตาลเอามาทำอะไรได้บ้างอีกค่ะ

คือเนื้อที่ทำลูกตาลเอามาทำขนมส่วนน้ำมันก็เสียดายถ้าจะทิ้งพี่ๆๆมีวิธีไหนบ้างไหมค่ะที่จะไม่ต้องทิ้งอะค่ะ

เสียดายจัง

น่ากินมากมากก

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมบันทึกน่ะค่ะ

อยากทำขนมตาลก็เปิดหาสูตรทุกครั้งไป พอดีได้ลูกตาลมาจากกัมพูชา ใกล้ ๆ กรุงพนมเปญมีต้นตาลเยอะมาก

สวัสดีค่ะคุณปภินวิช pap2498 ถนอมวงศ์

ทำแล้วเป็นอย่างไรบ้างสำเร็จเป็นขนมตาลหรือป่าวอย่าลืมแวะมาส่งข่าวน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

พอดีเก็บน้ำลูกตาลที่หยดจากเนื้อตาลไว้ กะว่าจะทำวุ้น ไม่ทราบว่าจะทำได้หรือไม่ ส่วนการทำขนมเริ่มชำนาญขึ้น แต่ยังต้องฝึกอีกมาก ขอขอบที่ให้สูตร เคยพบแม่ค้าขนมตาลบอกว่าสูตรของเขาห้าหมื่นก็ไม่ขาย

สวัสดีค่ะคุณปภินวิช pap2498 ถนอมวงศ์

วุ้นเหมือนวุ้นมะพร้าวนั้นใช่ป่าวค่ะ ทำยากค่ะ แต่ยังไม่เคยได้ศึกษาแบบแจ่มแจ้งเคยอ่านผ่านๆนานมากแล้ว ทราบว่าต้องใช้หัวเชื้อด้วย:)

ขอบคุณน่ะค่ะที่แวะมาเยี่ยมบ่อยๆ ยินดีค่ะ

ได้อ่านการทำขนมลูกตาลของหนูรีพร้อมภาพประกอบที่สวยงาม ไปเต้นแอโรบิคที่หาดสุรินทร์ (ภูเก็ต)เกือบทุกวันซึ่งมีต้นลูกตาลมากมาย ไม่รอช้าค่ะเก็บมา 3 ลูก ซึ่งเมื่อวาน

ได้ทำถุงผ้าใส่เนื้อลูกตาลแขวนไว้แล้วค่ะ เช้านี้จะเริ่มทำแล้วค่ะ บอกเพื่อนๆ ไว้แล้วถ้านึ่งแล้วฟูสวยจะนำไปฝาก แล้วจะรายงานให้มราบน่ะค่ะว่าประสบความสำเร็จหรือเปล่า

 

เห็นภาพนี้แล้ว คิดถึงแม่และแม่เฒ่า(ยาย)เลย
คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ต้นตาล
ภาพอดีตถูกฉายซ้ำโดยทันใด

เห็นแล้วมีความสุขดี

ขอบคุณคุณหนูรี

สวัสดีค่ะคุณพี่ปู#2465466

ขอบคุณน่ะค่ะ จะรอชมผลงานค่ะ^^

นมัสการค่ะท่านพระมหาแล อาสโย ขำสุข

"คิดถึงแม่และแม่เฒ่า(ยาย)เลยคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ต้นตาลภาพอดีตถูกฉายซ้ำโดยทันใดเห็นแล้วมีความสุขดี"

ขอกราบขอบพระคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหนูรี

เมื่อวานนี้ 12/06/11 ได้ทำแล้วค่ะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ฟู หน้าแตกเป็นริ้วๆ (ขนม)  เหมือนกับมืออาชีพเลย ( เพื่อนบอก) เมื่อวานมัวแต่ตื่นเต้นได้กินแค่ 2 อัน

นำไปให้เพื่อนชิมกัน วันนี้ได้ลูกตาลมาอีกก็เลยทำต่อ

ขอบคุณมากค่ะสำหรับขนมตาลอันแสนอร่อย

พี่ปู

ลองทำแล้วไม่ขึ้นฟูเพราะว่าเราหาตาลสดไม่ได้เราต้องไปซื้อมาจากตลาด

เราใส่เนื้อตาล 2 ขีด แป้งข้าวเจ้า 4 ขีด และนำกะทิ 3 ถ้วย ยีสต์แห้ง 1/2

มักทิ้งไว้ 3-4 ช.ม

น่าจะมีแป้งตาลขาย จะได้ทำขนมตาล กินตลอดปี แบบ ว่าชอบกินขนมตาลมาก

 รอตาลต้นหน้าบ้านที่เชียงใหม่ออกลูก

แล้วพี่ดาจะทำสูตรที่น้องหนูรีสอน ขอบคุณมากนะคะ

 

 

ขอขอบคุณสำหรับขั้นตอนการทำมากเลยนะคะ เป็นประโยชน์กับหนูมากๆเลยค่ะ คือ..หนูกำลังทำโครงงานเรื่องขนมตาลอยู่ ^^

โดนใจมากกับประโยค... " ฉันจึงอยากจะนำความรู้ที่พอมีอยู่บ้างมาช่วยกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาของคนไทยรุ่นเก่าเอาไว้เพื่อเราจะได้มีขนมไทยได้รับประทานกันไม่ต้องรับประทานขนมต่างชาติที่ปนเปื้อนสารเคมีอย่างเช่นทุกวันนี้ " ขออนุญาตินำประโยคนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงงานนะคะ ><

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ ขอบคุณค่า :)

ขอขอบคุณทุกๆท่านเข้ามาอ่านบันทึกนะคะ 

พี่หนูรี แวะมาทักทาย วันนี้ด้ายลูกตาลสุกมา ตอนทำใช้หัวกะทิข้นผิด? หมักทิ้ง1คืน ขนมไม่มีฟองขึ้นเลย ใส่ผงฟูไม่ได้ใส่ยีสต์ แล้วนึ่งขนมไม่ฟูเลยเปียกต่างหาก จะขอแก้ตัวใช้วิธีของพี่หนูรี. รักขนมไทยๆ

ขอบคุณ. สำหรับสูตรขนมตาลจะ ลองทำครั้งแรกวันนี้ค่ะ   

ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามอ่านบันทึกนะคะ

คุณเฌอรี ขอให้ประสบผลสำเร็จและมีความสุขในการทำขนมนะคะ :)

ขอทราบสูตร ถ้าแป้งข้าวเจ้า 1 กิโล ต้องเป็นสูครเท่าไร การตวงถ้วยนะ ถ้วนแห้ง กับถ้วยนำต่างกันใช้หรือไม่ ช่วยตอบหน่อยนะ

แป้งข้าวเจ้าแห้ง 1 ถ้วย หนัก 100 กรัม ค่ะ 

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ 

>> http://www.gotoknow.org/posts/239150

สวัสดีค่ะ พี่หนูรี วันนี้ได้ลูกตาลสด ทำตามวิธีของพี่ แต่หมัก4ชั่วโมงติดธุระด่วน จึงนึ่งเลย แป้งก่อนนึ่งฟูดี นึ่งแล้วขนมยิ้มใส่

แต่ไม่เยอะ คิดว่าน่าจะเกิดจากหมักน้อยไปนิด เนื้อตาลไม่ขม ไม่เฉิ่มเหมือนคราวก่อน แต่ไม่มีมะพร้าวเพราะไม่ได้เตรียม

สมาชิกทานแล้วติดใจ 

สงสัยนิด หากเราหยอดใส่ถ้วยกระเบื้อง ต้องนึ่งถ้วยก่อน พอเปิดรังถึงหยอดจนหมด ถ้วยเริ่มเย็น ถามว่ามีผลต่อขนมไหมคะ

ฝากขอบคุณพี่หนูรี ที่ทำให้มีขนมอร่อยๆทาน และช่วยอนุรักษ์ขนมไทยไว้นานๆ

ขอขอบคุณทุกๆท่านนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท