จากผลที่ได้จากการทดลองครั้งที่แล้ว
ต้องทดลองต่อ เพื่อความแน่นอน
โชคดีมากที่มีแปลงนานักเรียนชาวนาอีกท่านที่ยังไม่ได้หว่านข้าว
อยู่ในช่วงการไถหมักดินไว้ นั้นคือ พี่เสวก
มาลัย ที่อยู่บ้านไผ่แขก
ตำบลดอนโพธิ์ทอง จึงรีบชักชวนให้ร่วมทดลอง
พี่เสวก ยินดี และแบ่งนานาให้ทดลองเปรียบเทียบประมาณ 1
งาน
โดยพี่เสวกเลือกที่บริเวณที่มีหญ้าขึ้นมากที่สุดให้ทดลอง
ทดสอบขั้นที่2
เพิ่มความมั่นใจ
น้ำหมักจากผลไม้ควบคุมการงอกของเม็ดหญ้า
จากการทดลองครั้งที่ 1 ซึ่งใช้สาร ทดลองทั้งหมด 5
ชนิดนั้น ได้ผลพบว่าสารจากน้ำหมักจากผลไม้
เมื่อนำไปฉีดพ่นสามารถ ควบคุมการเจริญเติบโตของหญ้าได้
จึงทำการทดลองครั้งใหม่อีกครั้งโดยใช้ฉะเพราะน้ำหมักจากผลไม้
ซึ่งใช้แปลงนาของคุณเสวก มาลัย นักเรียนชาวนา บ้านไผ่แขก
ต.ดอนโพธิ์ทอง มีขั้นตอนดังนี้
1.
หว่านข้าววันที่ 1 ก.พ. 2549
2.
ฉีดยาคุมหญ้าเคมี วันที่
3 ก.พ. 2549 (ข้าวอายุ 2 วัน)
ในแปลงเคมี
3.
ฉีดยาฮอร์โมนน้ำหมักผลไม้ 7
ก.พ. 2549 (ข้าวอายุ 6 วัน)
ในอัตรา 80
ซีซี น้ำ 15 ลิตร ( 5.3 ซีซี / 1
ลิตร )
ในแปลงน้ำหมัก
4. ฉีดยาเคมีคุมฆ่าหญ้าครั้งที่
2 วันที่ 14 ก. 2549
(ข้าวอายุ 13 วัน)
ในแปลงเคมี
5.
ฉีดยาน้ำหมักผลไม้ครั้งที่ 2
วันที่ 14 ก.พ. 2549 (ข้าวอายุ 13
วัน) ใน
อัตรา 30 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร )
ในแปลงน้ำหมัก
6.ปล่อยน้ำเข้านา วันที่ 17 ก.พ. 49 (ข้าวอายุได้ 16
วัน)
ส่วนผสมน้ำหมักผลไม้
เนื่องจากน้ำหมักที่ใช้ในการทดลองครั้งที่ 1
ที่ทดลองกับน้านคร นั้นหมด
จึงต้องหมักน้ำหมักสูตรผลไม้ขึ้นมาใหม่
ซึ่งทำการหมักในวันที่ 30 มกราคม 2549
โดยมีส่วนผสมดังนี้
1.
มะละกอสุก 1 ส่วน ( 1 กก.)
2.
กล้วยสุก 1
ส่วน ( 1 กก.)
3.
ฟักทองแก่ 1 ส่วน ( 1 กก.)
4.
กากน้ำตาล 1 ส่วน ( 1 กก.)
5.
สัปปะรด ¼ ส่วน ( 0.25 กก)
6.
น้ำจุลินทรีย์ 100
ซีซี
หั้นวัสดุทุกชนิดให้เป็นชิ้นเล็ก
ๆ
หมักรวมกันในถังพลาสติก ควรหมักไว้อย่าน้อย 7
-15 วัน ไม่ควรหมักไว้นาน
ขั้นตอนการทดลอง
หลังจากที่หว่านข้าวในวันที่ 1 ก.พ. และคุณเสวก
ได้ทำการฉีดยาคุมเคมีในแปลงทั่วไปในวันที่ 3 ก.พ.
ซึ่งข้าวมีอายุได้ 2
วันนั้น เป็นการฉีดเพื่อไม่ให้เมล็ดหญ้างอก
ในตอนแรกตั้งใจว่าจะฉีดน้ำหมักผลไม้
ในวันที่ฉีดยาคุมเคมี
แต่ต้นข้าวที่หว่านต้นข้าวยังเล็กมาก สูงประมาณ
1 เซนติเมตร
เนื่องจากกลัวว่าน้ำหมักจะทำให้ยอดต้นข้าวไหม้
จึงเลื่อนการฉีดน้ำหมักผลไม้อออกไป
และฉีดในวันที่ 6 ก.พ. ข้าวมีอายุได้
5 วัน และมีความสูงประมาณ 5
เซนติเมตร
คุณเสวกได้ใช้น้ำหมักในอัตรา 80 ซีซีต่อน้ำ
15 ลิตร
เนื่องจากคุณเสวกกลัวยอดข้าวไหม้
ผลจากฉีดเมื่อข้าวอายุได้ 9 วัน
เมื่อตรวจแปลงนา
พบว่ามีหญ้าขึ้นน้อยมาก
เมื่อเทียบกับแปลงที่ใช้สารเคมีคุมหญ้า
ซึ่งจะมีหญ้าขึ้นมากกว่า
และพบว่าแปลงนาที่ฉีดพ่นสารน้ำหมักผลไม้ต้นข้าวมีต้นที่เขียวและสูงกว่าแปลงนาที่ฉีดยาคุมยาเคมี
ต้นข้าวเจริญเติบโตได้เร็วกว่า
แปลงนาข้าวอายุได้ 6 วัน ฉีดน้ำหมักผลไม้
ในวันที่ 14 ก.พ
ซึ่งต้นข้าวมีอายุได้ 13
วัน
คุณเสวกได้ทำการฉีดพ่นสารเคมีฆ่าและคุมหญ้าในแปลงนาเคมีอีกครั้งเนื่องจากมีหญ้าขึ้นจำนวนมาก
คุณเสวก เล่าว่า สารคุมหญ้าที่ฉีดไปครั้งแรกนั้น
ยาเคมีที่ฉีดนั้นจะไปปกคลุมที่ผิวดิน
เพื่อไม่ให้หญ้างอก ยาจะมีฤทธิ์อยู่ประมาณ
5-7 วัน
เมื่อหมดฤทธิ์สารเคมีเมล็ดหญ้าก็จะงอกขึ้นมาได้
ตามรอยดินที่แตกระแหงจะพบหญ้างอกออกมา
แต่แปลงที่ฉีดด้วยน้ำหมักผลไม้นั้น
ตามรอยดินแตกไม่มีหญ้างอก
มีหญ้าขึ้นบาง ๆ และมีใบประมาณ 2 ใบ สูงไม่ถึง
1 เซนติเมตร ในวันที่ 14
คุณเสวกจึงฉีดพ่นน้ำหมักผลไม้อีกครั้ง ในอัตรา 30
ซี ซี ต่อน้ำ 1 ลิตร
ตารางเปรียบเทียบการฉีดการกำจัดวัชพืช
ฉีดพ่นสารเคมี |
ฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ |
-
มีปริมาณหญ้าขึ้นมากกว่า |
-
มีปริมาณหญ้าขึ้นน้อยกว่า |
-
ต้นข้าวมีสีเหลืองปลายใบไหม้ |
- ต้นข้าวมีสีเขียว
ต้นข้าวแข็งแรง |
- ต้นข้าวเตี้ยกว่า |
- ต้นข้าวสูงกว่า |
แปลงนาที่ฉีดยาคุมและฆ่ายาเคมี ข้าวจะเหลืองปลายใบไหม้
แปลงนาที่ฉีดน้ำหมักผลไม้ ต้นข้าวจะเขียวและสูงกว่า
ไม่มีความเห็น