สวัสดีคนไม่มีราก
วันนี้คงได้รับข่าวดีเรื่องผลสอบนะครับ
บันทึกนี้เป็นอีกบทความหนึ่งที่ชอบ ความจริงก็มักจะชอบความคิดของคนไม่มีราก เพราะมีมุมมองทึ่คล้ายกัน (ตีขลุมนิดหน่อย) แม้ในเรื่องที่มองต่างมุมก็ยังทำให้ได้โลกทัศน์ใหม่ที่น่าทึ่งขึ้นอีก
หนังสือ The Spirit of Silence ของ John Lane นี้ พี่อ่านเป็นภาคภาษาอังกฤษ ตั้งแต่อยู่ออสเตรเลีย เพราะเพื่อนแนะนำให้อ่านและชอบมาก เพิ่งรู้ว่ามีคนแปลเป็นภาษาไทย คงต้องขอยืมอ่านบ้างเมื่อมีโอกาส
ในหนังสือเล่มนี้มีส่วนที่อ้างถึงคำพูดของ Jame Lees ... แปลเป็นไทยด้วยภาษาของพี่เองคือ
"....ผมนอนบนพื้นหญ้า เฝ้ามองดอกแดนดิไลออน อย่างเพ่งพิศ รู้สึกราวกับได้เห็นลึกเข้าไปถึงรากเหง้าของดวงอาทิตย์ กลีบดอกไม้นั้นกลมกลืนก้นอย่างแนบเนียน เมื่อได้คิดว่าดอกแดนดิไลออนนับล้านดอกที่บักกิงไชร์ ที่ดาษดาไร้ค่านั้น แท้จริงแล้วคือดวงดาวอัศจรรย์แห่งความงามสีทอง มนุษย์เราตาบอดกับสิ่งดีงามที่มีรายรอบตัว กลับเพ่งมองแต่สิ่งเลวร้าย..."
บางครั้งบางครา เรามักมองข้ามสิ่งดีงามใกล้ตัว คนใกล้ตัว ไม่เห็นคุณค่า ตั้งแง่กับคนที่เรารักและรักเรามากที่สุด...ลืมเห็นความรัก ความตั้งใจดีที่เขามีให้เราอย่างเต็มเปี่ยม ....
รอฟังข่าวดีนะครับ
*****************************
พี่คนตัดไม้คะ
คัดลอกบทเดียวกันที่แปลโดยคุณสดใส ขันติวรพงศ์มาให้อ่านค่ะ...
ผมนอนบนพื้นหญ้า มองดอก (แดนดิไลออน) ดอกหนึ่งอย่างใกล้ชิด ผมรู้สึกเหมือนได้มองเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของดวงอาทิตย์ กลีบดอกไม้ว่ายวนลามเลียกันและกัน เมื่อคิดไปว่า ดอกแดนดิไดออกนนับล้าน ๆ ดอกที่บักกิงแฮมไชร์ ซึ่งไร้คนใส่ใจนั้น แท้จริงแล้วคือดวงดาวอัศจรรย์แห่งความงามสีทอง มนุษย์เราตาบอดกับสิ่งดีที่สุดที่มีอยู่รอบกาย เห็นแต่สิ่งเลว ๆ
เจมส์ สีส์ - ไมล์น
ขออนุญาตบอกว่า...ชอบบทที่...พี่แปลมากกว่าค่ะ ให้พี่เลือกหนังสืออีก 1 เล่มแล้วก้นค่ะ ตอบแทนที่แปลได้สละสลวยและถูกใจค่ะ
(^__^)
เมื่อ อา. 28 ก.ย. 2551 @ 21:35
847587 [ลบ]
เรียนท่าน ฅ ฅน ไม่ มี ราก เครียดมากเกิด นิ่วใหมนี่
อิอิ