กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง
กิจกรรมสามารถมีความหลากหลายของเนื้อหา แล้วแต่ตามสภาวะภูมิสังคมของแต่ละโรงเรียน แต่ที่สุดแล้วต้องปลูกฝังให้เด็กและเยาวชน มีวิธีคิด อุปนิสัยและพฤติกรรม ที่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง
เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการหลักโดยนักเรียน และมีครูเป็นผู้นำหรือผู้สนับสนุน
- จำนวน นักเรียน/ครู ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้นๆ ไม่ควรน้อยกว่า ๒๕% ของจำนวนบุคลากรทั้งหมดของโรงเรียน
- นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ควรมีความประพฤติดี สมัครใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนอยู่ในระดับปานกลางถึงดี และมีสุขภาพดี
- ครูที่เข้าร่วมโครงการก็ควรมีความประพฤติดี สมัครใจ และมีความพร้อม ในการเข้าร่วมกิจกรรม
เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เกิดความก้าวหน้าไปพร้อมกับความสมดุล ทางเศรษฐกิจ/สังคม/สิ่งแวดล้อม ของโรงเรียน และสามารถขยายผลออกสู่ชุมชนได้
- พอประมาณกับภูมิสังคม : สอดคล้องกับ ความต้องการ/ความจำเป็น ของโรงเรียน/คนในชุมชน และเหมาะสมกับภูมิประเทศ สภาพแวดล้อม และความคิด ความเชื่อ วิถีชีวิต
- สมเหตุสมผล : มีหลักคิดและหลักปฏิบัติของกิจกรรม ที่สอดคล้องกับหลักวิชาการที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดของโครงการแสดงถึงความรอบคอบของการวางแผนดำเนินโครงการ
- ภูมิคุ้มกันที่ดี : การวางแผนโครงการคำนึงถึง ความเสี่ยงในการดำเนินโครงการ โดยมีข้อเสนอทางเลือก หากมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้น
- ส่งเสริม ความรู้และคุณธรรมของผู้เข้าร่วมกิจกรรม : กิจกรรมต่างๆ ต้องส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วม มีความรอบรู้มากยิ่งขึ้น เปิดโอกาสให้ได้มีการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ ส่งเสริมการมีคุณธรรม (เช่น ความมีระเบียบวินัย มีสัมมาคารวะ ซื่อสัตย์สุจริต มีความกตัญญูกตเวที มีสติปัญญา แยกแยะถูกผิด ควรไม่ควร มีความขยันหมั่นเพียร อดทน สนใจใฝ่รู้ มีจิตสำนึกเห็นประโยชน์ของการช่วยเหลือผู้อื่น และทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม)
ตัวอย่างกิจกรรม
การจัดการ การผลิต/การบริโภค ในโรงเรียน/ชุมชน ให้เกิดความพอเพียง และสมดุล – กินพอดี อยู่พอดี - เช่น โครงการอาหารกลางวัน การส่งเสริมการผลิตเกษตรอินทรีย์ / เกษตรผสมผสาน บนพื้นฐานของการพึ่งตนเอง การรักษาสมดุลของสังคม และธรรมชาติ
การพัฒนาอาชีพ/สร้างรายได้เสริม โดยประยุกต์ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือโดยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม หรือ ต่อยอดกับภูมิปัญญาท้องถิ่น
การจัดการ และการจัดระบบองค์กรความร่วมมือ ทางการเงิน การผลิต การตลาด เช่น การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การจัดตั้งสหกรณ์รูปแบบต่างๆ การจัดตั้งธนาคารโรงเรียน เป็นต้น
การจัดการ (รักษา/ฟื้นฟู) ทรัพยากรธรรมชาติ/สิ่งแวดล้อม/ขยะ ทั้งในโรงเรียนและในชุมชน อย่างยั่งยืน โดยใช้หลักวิชาการ ความประหยัด ความรอบคอบ
การจัดการระบบพลังงานของโรงเรียน/ชุมชน ให้สามารถพึ่งตนเองได้มากขึ้น (ประหยัด ผลิตเอง / ทดแทน)
การอนุเคราะห์เกื้อกูล ช่วยเหลือ คนยากจน ผู้ด้อยโอกาส (เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ เด็กกำพร้า เด็กยากจน) ในสังคม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การสร้างจิตสำนึก รักท้องถิ่น/รักชุมชน เช่น การรักษา/ฟื้นฟู ประเพณี/วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น สถานที่ทางประวัติศาสตร์/โบราณสถาน การสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ/มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน
การสร้างจิตสำนึกรักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ เช่น รณรงค์การเห็นคุณค่าของสินค้าไทย การเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของชาติ ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ การเข้าร่วมในกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ การเรียนรู้คำสอนในศาสนา การฝึกปฏิบัติธรรม เป็นต้น
เกณฑ์ในการคัดเลือก โครงการ/กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ของสถานศึกษา |
|
เกณฑ์ในการคัดเลือก โครงการ/กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ของสถานศึกษา
|
ผลสัมฤทธิ์ของการจัดการเรียนการสอน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2007-10-13 21:08:31
ช่วงชั้นที่ 1 เน้นให้เด็กใช้ชีวิตพอเพียงระดับบุคคลและครอบครัวรู้จักช่วยเหลือตนเองและรู้จักช่วยเหลืองานในครอบครัว แบ่งปันสิ่งของให้เพื่อน ช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักวิเคราะห์รายรับ-รายจ่ายของตนเอง สอนให้เด็กเห็นคุณค่าของสิ่งของ ตระหนักถึงคุณค่าของเงินทอง จะได้ฝึกจิตสำนึก และนิสัยพอเพียง
ช่วงชั้นที่ 2 ฝึกให้เด็กรู้จักประยุกต์ใช้หลักความพอเพียงในโรงเรียน และมีส่วนร่วมในการสร้างความพอเพียงระดับโรงเรียนและชุมชนใกล้ตัว โดยเริ่มจากการสำรวจทรัพยากรต่าง ๆ ในโรงเรียน และชุมชน มีส่วนร่วมในการดูแลบำรุงรักษาทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งด้านวัตถุ สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และรวบรวมองค์ความรู้มาเป็นข้อมูลในการเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน และเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
ช่วงชั้นที่ 3 ประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงกับชุมชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน สามารถสำรวจและวิเคราะห์ความพอเพียงในระดับต่าง ๆ และในมิติต่าง ๆ ทั้งทางวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมในชุมชนใกล้ตัว เห็นคุณค่าของการใช้หลักพอเพียงในการพัฒนาชุมชน และสามารถนำหลักการพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของแต่ละคน จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่ความพอเพียงได้ในที่สุด
ช่วงชั้นที่ 4 เตรียมคนให้เป็นคนที่ดี สามารถทำประโยชน์ให้กับสังคม และประเทศชาติได้ โดยเน้นเข้าใจความพอเพียงระดับประเทศและการพัฒนาประเทศภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ เช่น
การวิเคราะห์สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ หรือการศึกษาสถานการณ์สิ่งแวดล้อม สภาพปัญหา
ด้านสังคมเป็นอย่างไร แตกแยกหรือสามัคคี เป็นต้น
เพื่อปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา จึงได้จัดทำโครงการ ประชุมปฏิบัติการจัดการความรู้ โดยมีวัตถุประสงค์
1. เพื่อค้นหาวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) จากโรงเรียน/สถานศึกษาที่สามารถบริหารจัดการเรียนการสอน ที่ยึดคุณธรรมนำความรู้ สู่การปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. เพื่อถอดความรู้ “ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศของการจัดการเรียนการสอนที่ยึดคุณธรรมนำความรู้ สู่การปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และนำไปเผยแพร่ด้วยสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3. เพื่อให้เกิดการต่อยอดความรู้ โดยผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการ ทุกคน สามารถศึกษาและนำรูปแบบวิธีการของการจัดการเรียนการสอนที่ยึดคุณธรรมนำความรู้ สู่การปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนและการดำเนินชีวิตไปต่อยอดหรือขยายผลในโรงเรียนของตน
กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ โรงเรียนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง 14 โรงเรียน และผู้เข้าร่วมประชุม ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครู/ บุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ความสำเร็จ เป็นผู้นำเสนอรูปแบบวิธีการบริหารจัดการเรียนการสอนที่ยึดคุณธรรมนำความรู้สู่การปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประชุมปฏิบัติการทุกคนเต็มใจและสมัครใจที่จะนำรูปแบบ การบริหารจัดการเรียนการสอนมาเผยแพร่ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยวิธีการของการจัดกิจกรรมชุมชนนักปฏิบัติ
นำประสบการณ์ความสำเร็จที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้มาสังเคราะห์และเผยแพร่ให้เกิดการต่อยอดความรู้ต่อไป
ผลจากการประชุมปฏิบัติการ ทำให้สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาได้รูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practice) เกี่ยวกับการบริหารจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนต้นแบบ ที่ได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในสถานศึกษาดังต่อไปนี้
1. รูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศของการจัดการเรียนการสอน ที่ตอบสนองมาตรฐานการเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียงช่วงชั้นที่ 1 ซึ่งเน้นให้เด็กใช้ชีวิตพอเพียง ระดับบุคคลและครอบครัวรู้จักช่วยเหลือตนเองและรู้จัก ช่วยเหลืองานในครอบครัวแบ่งบันสิ่งของให้เพื่อน ช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักวิเคราะห์รายรับ-รายจ่ายของตนเอง สอนให้เด็กเห็นคุณค่า ของสิ่งของ ตระหนักถึงคุณค่าของเงินทอง จะได้ฝึกจิตสำนึก และนิสัยพอเพียงผลจากการประชุม พบว่า
ตัวอย่างที่ 1 โรงเรียนบ้านเปือย ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ 8 ตำบลปุเปือย อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานีโดยเริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2508 เปิดสอนระดับชั้น อนุบาล 2 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีผู้บริหาร 1 คน ครู 5 คน นักเรียนจำนวน 122 คน มีสภาพทั่วไปของโรงเรียนที่เอื้อต่อการจัดการ เรียน
การสอนที่ยึดคุณธรรมนำความรู้สู่การปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ (1.) การ
วางแผนผังโรงเรียนที่เหมาะสม (2.) โรงเรียนมีบรรยากาศสะอาด ร่มรื่น (3.) โรงเรียนมีพื้นที่สำหรับจัดทำกิจกรรมต่าง ๆ (4.) ผู้บริหาร และคณะครูได้รับความร่วมมือจากชุมชนเป็นอย่างดี (5.) ผู้ปกครองมีฐานะยากจน
ความเป็นมาของการจัดการเรียนการสอนที่ยึดคุณธรรมนำความรู้ สู่การปฏิบัติตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนบ้านเปือย เริ่มจากในปี พ.ศ. 2540 โรงเรียนเริ่มดำเนินการนำคุณธรรมเข้าสู่แผนการสอน และดำเนินการอย่างจริงจังโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างคนดีสู่สังคม สำหรับวิธีการในการนำวิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการในหลักสูตรนั้น โรงเรียนมีวิธีการดังนี้ คือ
1. นำหลักธรรมอริยสัจ 4 เป็นหลักสูตรในโรงเรียนและบูรณาการลงในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
2. กำหนดวิสัยทัศน์ของโรงเรียนโดยมุ่งให้ผู้เรียนเป็น “คนดี สุขภาพดี การศึกษาดี”
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามกลุ่มสาระการเรียนรู้โรงเรียนใช้วิธีการของ
การจัดการเรียนรู้ตามกระบวนการ อริยสัจ 4 ทุกชั้นเรียน จนประสบความสำเร็จ และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ของหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรมของ สพท. อุบลราชธานี เขต 5 ใน ปี พ.ศ. 2549
วิธีการปลูกฝังให้ผู้เรียนมีพื้นฐานด้านจิตใจที่ยึดคุณธรรมนำความรู้ สู่การปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการปลูกฝังความมีเหตุผล สำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริต ความอดทน พากเพียร มีสติ และรอบคอบ (ความพอเพียงจะเป็นไปตามอัตภาพของแต่ละคน) โดยใช้กรอบหรือเกณฑ์ในการปฏิบัติงาน ตามมรรค 8 ประการ และยึดสมบัติผู้ดีเป็นตัวชี้วัดเกณฑ์ในการปฏิบัติตนของนักเรียน
จุดเด่น ของการดำเนินงานการจัดการเรียนการสอนที่ยึดคุณธรรมนำความรู้สู่การปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านเปือย ได้แก่ (1.) มีการออมทรัพย์/ปลูกพืชสวนครัว พร้อมนำไปขายในชุมชน (2.) นักเรียนมีการเก็บขยะขาย (3.) นักเรียนมีสุขภาพร่างกายสะอาด แข็งแรง
(4.) นักเรียนมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย (สมบัติผู้ดี) (5.) ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน
(6.) สื่อมวลชน/หน่วยงานอื่น นำผลงานไปเผยแพร่
ผลงานของครู นักเรียน ผู้บริหารโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จจากการดำเนินกิจกรรมตามโครงการที่สนองปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ (1.)กิจกรรมออมทรัพย์ ชนะเลิศโครงงานออมทรัพย์นักเรียนถวายในหลวงของ สพท.อุบลราชธานี เขต 5 ในปี พ.ศ. 2550 (2.)นักเรียนทุกคนไม่นำเงินมาโรงเรียน (3.)คณะครูทุกคนดำรงตนอยู่ภายใต้คุณธรรม อยู่อย่างพอเพียง (4.)นักเรียนสามารถประกอบอาหารให้ถูกสุขลักษณะ (5.)นักเรียนทุกคนไม่กินหวาน รักการอ่าน และเป็นเด็กดี
ปัจจัยที่ทำให้การดำเนินงานของโรงเรียนประสบความสำเร็จใช้หลักการของการมีส่วนร่วม(บวร) ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน
จากตัวอย่างของโรงเรียนบ้านเปือยซึ่งบริหารงานโดย นายบงการ สายเนตร ผู้อำนวยการ
โรงเรียน พร้อมคณะครูซึ่งมีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง ในการน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนจนทำให้บรรลุตามมาตรฐาน