สมัยเป็นนักเรียน เวลาสอบเสร็จ ออกจากห้องสอบมาเจอเพื่อนๆถามว่า "เป็นไง! ทำข้อสอบได้ไหม" ถ้าข้อสอบง่ายๆเราก็จะตอบว่า ทำได้ ถ้าข้อสอบยากๆทำไม่ค่อยได้เราก็มักจะเล่นสำนวนว่า ได้ทำ แล้วจ้า...
.....จึงเป็นความแตกต่างระหว่าง ทำได้ กับ ได้ทำ..
พอเรียนจบมาทำงาน ก็ได้เรียนรู้ว่า การทำงานไม่ใช้แค่การ ทำได้ แต่ต้องให้ ทำได้ดี ด้วยจึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ
.....จึงเป็นความแตกต่างระหว่าง ทำได้ กับ ทำได้ดี
พี่เม่ยก็พยายามหาตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม ที่จะอธิบายความแตกต่างของทั้งสามคำนี้ให้ชัดเจน จนกระทั่งเมื่อน้องๆนักศึกษาที่มาฝึกปฏิบัติงานที่หน่วยฮีมาโตอยู่ตอนนี้ ดังที่พี่เม่ยได้เล่าไว้ใน บันทึกก่อนหน้านี้ น้องๆก็ทำให้พี่เม่ยเริ่มมองเห็นภาพ บันไดสามขั้น ขึ้นมาได้ชัดเจนค่ะ
สัปดาห์แรก น้องๆเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้เทคนิควิธีการต่างๆตามที่พี่ๆช่วยกันสอน ช่วยกันบอกให้ทำ น้องๆ ได้ทำ ค่ะ นับเป็นบันไดขั้นที่หนึ่ง
สัปดาห์ที่สอง น้องๆสามารถทำงานไปพร้อมๆกับพี่ๆได้ มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาพี่ งานบางอย่างพี่ก็ปล่อยให้น้องทำกันเองได้บ้าง เพราะน้องๆเริ่มจะ ทำได้ แล้วค่ะ ย่างเข้าสู่บันไดขั้นที่สอง
สัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์ที่สาม น้องๆเริ่มรู้จักสังเกต พูดคุยปรึกษา คิดวิเคราะห์ หาทางแก้ไขปัญหาหน้างานของตัวเองได้ อาสาช่วยทำในเรื่องที่คิดว่าเป็นประโยชน์ เอ๊ะ! น้องเริ่มก้าวขึ้นบันได้ขั้นที่สามแล้วนะ เพราะ ทำได้ดี ทีเดียว
สัปดาห์หน้าซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการฝึกงานกลุ่มนี้ น้องๆคงจะก้าวกระโดดขึ้นสู่บันไดขั้นต่อๆไป คือทำได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ
บันไดสามขั้นแรก คือการเริ่มต้นของการเรียนรู้ ส่วนการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนั้น เริ่มที่บันไดขั้นที่สี่ ส่วนบันไดจะไปสิ้นสุดที่ขั้นใดนั้น ขึ้นกับเป้าหมายของแต่ละบุคคลค่ะ
ความรู้..ที่มี "บันไดชีวิต"
บันได..จริงมัก..กำหนดไว้แน่นอน
ว่าแต่ละชั้นจะใช้บันไดกี่ขั้น
หาก..แต่ "บันไดชีวิต"..ยากแท้ที่กำหนด
เพราะ...ไร้รูปแบบ..หากแต่สมดุลในแต่ละขั้นที่มี
เมื่อเราก้าวผ่านขั้นนี้ได้...ให้ประคอง
"สติ"..ที่มี
เพราะอาจยังเหลือ..อีกกี่ขั้นไม่ทราบได้..
ที่เราจะก้าวเดิน...และก้าวผ่านให้ได้