ป้าเจี๊ยบ
น้อง พี่ อา ป้า ครู อาจารย์ คุณ นางสาว ดร. รศ. ฯลฯ รสสุคนธ์ โรส มกรมณี

ต้องทำเสียง จิ๊บ..จิ๊บ..จิ๊บ เมื่อจิบชา


            เวลาคุณดื่มชาเคยทำเสียงดังจิ๊บๆ มั๊ยคะ?  ไม่ใช่ดังซู้ดๆ หรือโฮกๆ

            แบบว่าเอาริมฝีปากกระทบกันทำให้เกิดเสียงขึ้นมาน่ะค่ะ

            เมื่อก่อนฉันเองก็ไม่เคยทำหรอกค่ะ  ถูกอบรมมาว่าเวลามีของกินอยู่ในปากอย่าพูดอย่าส่งเสียง  ก็ปฏิบัติตามด้วยดีตลอดมา  จนไปทัวร์เมืองจีนนั่นแหละ ถึงได้ทำ

            การชิมชาเป็นรายการทัวร์ภาคบังคับของรัฐบาลจีนเมืองเฉิงตูค่ะ  เราทั้งหลายจึงต้องไปนั่งหน้าสะลอนในโรงน้ำชา   ดูหมวยหน้าหวานชงชาให้ชิม

            ชิมหลายอย่างค่ะ  จนกระทั่งถึงชาที่ชื่อ “คืนชีพ”  ฟังแล้วเหมือนชื่อหนังประเภทสยองขวัญและราคาแพงมาก...ก

            เธอบรรยายสรรพคุณว่าช่วยให้มีอายุยืนยาว  ขับถ่ายคลอเลสเตอรอลในเม็ดเลือด  แก้หลอดเลือดแดงแข็งตัวที่เนื่องมาจากความดันโลหิตสูง  ลดไขมันในตับและมีผลเป็นพิเศษในการรักษาตับเป็นไขมัน 

            เรื่องราคาที่ฉันฟังแล้วตกใจในตอนแรก   คงไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้ซื้อแต่อย่างใด  เพราะว่าอาการทั้งหมดนี้เป็นโรคของคนรวยที่มีอันจะกินมากเกินไปทั้งนั้น   

            รูปร่างของชาชนิดนี้  เป็นก้อนกลมๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตรค่ะ  ใช้มือม้วนจนได้รูปร่างอย่างที่เห็น  ไม่ได้ใช้เครื่องจักร  ก็นั่งม้วนกันไปเพราะแรงงานจีนยังถูกกว่าที่ไหนๆในโลกอยู่

            วิธีชงก็ใช้แค่ลูกเดียว  ใส่ลงในกระชอนเล็กๆที่ใช้ชง   ต้มน้ำจนเดือดจัดมากๆ   แล้วเทน้ำ ประมาณ 1 ถ้วยตวง ผ่านลูกชาลงไปในกาน้ำชาเลย  ไม่มีการแช่การจุ่มใบชาทิ้งไว้ในน้ำร้อน! 

            เมื่อรินน้ำชาสีเหลืองอ่อนลงในถ้วยชาจีนใบเล็กๆ ขนาดถ้วยตะไลเพื่อแจกเราแล้ว  หมวยหน้าหวานก็สาธิตการดื่ม ด้วยการกรีดนิ้วยกถ้วยชาขึ้นมา  ใช้ริมฝีปากจิบน้ำชาไปจิบหนึ่ง  แล้วขยับริมฝีปากทำเสียงจิ๊บๆๆ ดังๆ   แล้วบอกให้เราทำตาม  

            แหม..จะให้ทำได้ยังไง  แม่สอนว่าเป็นสาวเป็นนางเวลาจะกินจะดื่มให้เก็บลิ้นเก็บปาก   ขืนทำแบบนั้นก็เสียชื่อสุภาพสตรีไทยซิคะ  ฉันจึงจิบแบบสงบเสงี่ยม

            แต่เธอคะยั้นคะยอให้ทำปากจิ๊บๆ ตาม   บอกว่าต้องทำอย่างนั้น เพราะชานี้เป็น “ชารส”  ไม่ใช่ “ชากลิ่น”  การจิบแล้วกลืนหรือดื่มผ่านลงคอไปเลยจะไม่รู้รสแท้ๆ ของชา

            ตกลงค่ะ  ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว   คนไทยเองก็มีคำพังเพยว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม    จิ๊บก็จิ๊บค่ะ  

           โอ้โห!  รสชาติต่างกันแฮะ   เชื่อเขาเลย   ปลายลิ้นรู้ถึงรสสัมผัสที่หวานนิดๆปนขมหน่อยๆ   อร่อยดีจัง   ยอมรับว่าเป็นชาที่รสดีมาก  จิบต่อไปก็เลยทำเสียงดังจิ๊บๆๆ ได้ไม่เคอะเขิน 

           บทเรียนที่ได้คราวนี้   นำกลับมาใช้กับ “ชารส” ชนิดอื่นๆ ดูแล้วค่ะ  เวลาจิบก็ทำปากจิ๊บๆ ๆ แบบนั้นบ้าง   ปรากฏว่ารู้สึกถึงรสชาติได้ดีกว่าวิธีจิบแบบธรรมดาที่ทำอยู่   

           ถ้าใครจะลองทำดูบ้างก็ได้นะคะ    จิบแล้วทำเสียงจิ๊บๆ เพื่อตรวจสอบรสของชาที่เราดื่มว่าเป็นอย่างไร   แต่ขอแนะนำว่าทำเฉพาะช่วงเริ่มต้นของการดื่มเท่านั้น   เมื่อรับรู้รสได้แล้วก็พอ    เพราะขืนส่งเสียงจิ๊บๆ ทุกครั้งที่จิบ   นอกจากจะเมื่อยปากแล้ว   คนที่อยู่ใกล้ๆ จะหาว่าเราไม่มีมารยาทซะนี่!

หมายเลขบันทึก: 2081เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2005 11:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 13:55 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ชอบจิบชาค่ะ อากาศหนาวๆ ชงชาใส่กา ค่อยๆริน แล้วนั่งจิบช้าๆ เดี๋ยวจะลองไปทำ จิ๊บๆ ดูค่ะ..อ่านบันทึกแล้วสนุกจังเลยค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท