จำต้องทบทวนชีวิต


ในขณะที่สิ่งที่พวกเราต้องการแท้จริงแล้วคือกาแฟ...ไม่ใช่ถ้วยกาแฟ

          เพื่อนและพี่ที่แสนดี "พี่ปิ๋ม" ปิ่นอนงค์  รัตนปทุมวงศ์ วิสัญญีพยาบาล รพ.ระนอง ส่งเมล์มาให้เหมือน...อยากจะเตือน "สติ"...และเพ่งมองชีวิต...เมื่อวันวาน..วันนี้...และเตรียมการในวันต่อไป..โดยเนื้อความ ใน "Mail"...

 

 

วันหนึ่ง ....

ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแห่งน็อตเทรอะดามกลุ่มหนึ่งกลับไปเยี่ยมสถาบัน
ไม่ช้าวงสนทนาก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นการบ่นพร่ำเกี่ยวกับความเครียดในเรื่องการทำงานและปัญหาชีวิต


แล้ว....

อาจารย์ก็เสนอเลี้ยงกาแฟกลุ่มลูกศิษย์เก่า
อาจารย์เดินเข้าไปในครัวและออกมาพร้อมกับกาแฟเหยือกโตและถ้วยกาแฟแบบต่างๆ
บ้างเป็นถ้วยกระเบื้อง บ้างเป็นถ้วยพลาสติก และบ้างทำด้วยแก้ว
โดยบางใบเป็นแบบพื้นๆ ธรรมดา บางใบสวยวิจิตรสูงค่า


อาจารย์...

บอกให้ลูกศิษย์แต่ละคนจัดการการดื่มกาแฟร้อนๆ กันเอาเอง
และเมื่อลูกศิษย์ทุกคนต่างมีถ้วยกาแฟในมือกันทุกคนแล้ว อาจารย์ก็กล่าวว่า
ลองสังเกตุดูกันหรือเปล่าว่า ถ้วยสวยๆ แพงๆ
ถูกเลือกไปหมดเหลือไว้แต่ถ้วยแบบธรรมดาราคาถูก
เป็นเรื่องปกตินะที่พวกเราต่างก็มักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง


ซึ่งนี่คือที่มา...

ของความเครียดและปัญหาทั้งหลายแหล่ในชีวิตในขณะที่สิ่งที่พวกเราต้องการแท้จริงแล้วคือกาแฟไม่ใช่ถ้วยกาแฟแต่จิตสำนึกกลับนำพาเราไปเลือกที่ถ้วยและมิหนำซ้ำยังคอยชำเลืองมองถ้วยของคนอื่นๆ อีกด้วย


หากชีวิตคือกาแฟ ...

หน้าที่การงาน ตำแหน่งต่างๆ ในสังคมก็คือถ้วยใส่กาแฟ
มันเป็นเพียงเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยหยิบจับหรือประคองชีวิตของเรา
มันไม่ได้ทำให้เนื้อหาจริงๆ ของชีวิตเปลี่ยนไป


บางครั้ง....

การมัวไปเพ่งเล็งที่ถ้วยใส่กาแฟก็ทำให้เราลืมที่จะใส่ใจกับรสชาติของตัวกาแฟ
เมื่อเช้านี้ถ้วยกาแฟ เอ๊ะ ไม่ใช่สิ กาแฟของคุณรสชาติเป็นอย่างไง

 

          แล้ววันนี้คุณ...ได้ทบทวน "ชีวิต" หรือยังคะ

 


 

หมายเลขบันทึก: 20545เขียนเมื่อ 23 มีนาคม 2006 21:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 12:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เป็นเรื่องที่ดีเชียวค่ะ

ถ้าไปเยี่ยมอาจารย์ด้วยกับกลุ่มลูกศิษย์เก่าเหล่านั้น น่ากลัวจะเสียมารยาทบอกอาจารย์ว่า อาจารย์คะ ขออนุญาตเดินเข้าครัวไปชงกาแฟเองค่ะ

//มิได้เจตนา ชักใบให้เรือเสียนะคะ แต่ว่า อืม..ไม่ชอบกาแฟที่คนอื่นชงให้น่ะค่ะ

ขอบคุณนะคะที่ทำให้ได้นึกทบทวนถึงชีวิต
 สิ่งดีๆ ที่มีอยู่แล้วและสิ่งที่เป็นปกติในชีวิต
มักจะไม่เห็นคุณค่า  จะรู้ค่าเมื่อจะต้องสูญเสียมันไป

 

ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้ข้อความมีคุณค่ามากขึ้น

คนมองโลกแง่ดีมักหัวเราะเพื่อลืมเรื่องเศร้า แต่คนมองโลกแง่ร้ายมักลืมหัวเราะ

คนมองโลกแง่ร้าย คือ ผู้ที่เห็นความยุ่งยากในทุกโอกาส ขณะที่คนมองโลกแง่ดีจะเห็นโอกาสในทุกความยุ่งยาก

คุณ"ปิ่นอนงค์"

พี่ปิ๋มคะ..ดีใจมากเลยที่เห็นพี่ปิ๋มมาทิ้งรอยแห่งมิตรภาพ

รอ..อยู่นานหลายวันเหมือนกัน..ว่า..จะเจอกันไหม

และก็ได้เจอ...

ขอบคุณความรักและมิตรภาพที่ดีงาม..มีให้กันเสมอนะคะ

ชอบมากเลยคะ

คนมองโลกแง่ดีมักหัวเราะเพื่อลืมเรื่องเศร้า แต่คนมองโลกแง่ร้ายมักลืมหัวเราะ

คนมองโลกแง่ร้าย คือ ผู้ที่เห็นความยุ่งยากในทุกโอกาส ขณะที่คนมองโลกแง่ดีจะเห็นโอกาสในทุกความยุ่งยาก

การมองโลกในแง่ดีได้ต้องอาศัย "สติ" และต้องมองด้วย "ใจ" มิฉะนั้นเราก็มิอาจผ่านโลกร้ายๆไปได้ มิต่างอะไรกับการหลอกตัวเองไปวันๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท