การวิจัยในห้องเรียน

"เดินไปด้วยกัน"  ที่เป็น

ชื่อผู้วิจัย             นางศรีสุวรรณ์    สงวนชม

สภาพปัญหา

                                 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  จะเป็นนักเรียนที่เข้าใหม่ทั้งหมด ซึ่งทุกคนต้องมาปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่   เพื่อนใหม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ  1 สัปดาห์  ทุกคนก็จะเริ่มมีเพื่อนสนิทกัน 2 คน บ้างหรือเป็นกลุ่มบ้าง    ด.ช.ภัทรธร จรรยาพูน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  1/ 3  มีความบกพร่องทางการได้ยิน ต้องใช้เครื่องช่วยฟังบางครั้งฟังแล้วเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง และมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนบ่อยและจะมีปัญหาในด้านการพูด เพราะพูดแล้วฟังยาก ทำให้มีปัญหาในการสื่อสารระหว่าง เพื่อนและครู   และการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม  แต่เนื่องจากด.ช.ภัทรธร จะมีคุณแม่ที่คอยดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด  เมื่อมีปัญหาหรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมของโรงเรียน   การมอบหมายงานในรายวิชาต่างๆ  คุณแม่ก็จะโทรศัพท์มาถามกับครูที่ปรึกษา ซึ่งถ้าเป็นเรื่องของกิจกรรมทางโรงเรียน ครูก็สามารถตอบได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน  การบ้าน  ในรายวิชาต่างๆ ก็ไม่สามารถตอบได้

4.  ปัญหาการวิจัย

                  ทำอย่างไรให้ ด.ช.ภัทรธร  สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนได้  สามารถรับรู้เกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมายได้ดี

5.  วิธีการดำเนินการวิจัย

             -    จัดเปลี่ยนที่นั่ง ให้ ด.ช.ภัทรธร มานั่งแถวหน้าสุด

                -   ดำเนินการประสานกับครูประจำวิชาที่สอนในห้องม.1/3นี้ ชี้แจงถึงสภาพปัญหาของ ด.ช.

                  ภัทรธรและ ขอให้การมอบหมายงาน ให้มีการจดบันทึกด้วยเป็นกรณีพิเศษ

-   ในคาบเรียนโฮมรูมผู้วิจัยได้นำหัวข้อ เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

     และขออาสาสมัครเพื่อนที่จะคอยดูแลภัทรธร มีความพยายามที่จะทำความเข้าใจในการ 

     สื่อสาร  นำเข้ากลุ่มเพื่อน มิให้รู้สึกโดดเดี่ยว ซึ่งก็มีนักเรียนอาสา

-    บางครั้งการสื่อสารอาจคลาดเคลื่อน  ขออาสาสมัครเพื่อนที่มีความพร้อมและเต็มใจ

     ให้เบอร์โทรศัพท์ของตน ให้ภัทรธรเอาไปให้คุณแม่ติดต่อ เพราะคุณแม่จะสื่อสารกับ

              ภัทรธรได้ดี

สรุปผลการวิจัย

           คุณแม่ของด.ช.ภัทรธรได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบว่า ด.ช. ภัทรธร ได้นำเบอร์โทรศัพท์

ของเพื่อนมาให้และคุณแม่ก็สามารถติดต่อสื่อสารได้โดยตรง ทำให้ไม่ให้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเรียนอีก  และในช่วงตอนเย็น ด.ช.ภัทรธร ก็มีกลุ่มเพื่อนที่ชอบเล่นกีฬาเหมือนกันได้ชวนให้เล่นกีฬา จึงขออนุญาตกลับบ้านเย็น ซึ่งคุณแม่ก็ให้กลับถึงบ้านไม่เกิน 5 โมงครึ่ง และแจ้งให้ทราบว่า ด.ช. ภัทรธร มีความสุข และมีเพื่อนสนิทที่สามารถสื่อสารกันได้ดี